เห็นได้ชัดว่าเขาพูดเพียงคำง่ายๆแค่สี่คำ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าคำสี่คำที่เขาพูดนั้นมันวนเวียนอยู่ภายในใจ
เสียงหัวใจที่อกซ้ายเต้นแรง ราวกับหัวใจจะหลุดออกมา
เขาดูพอใจมากกับปฏิกิริยาของฉัน แล้วยกมือขึ้นแล้วใช้หัวแม่มือริมฝีปากของฉัน
เมื่อฉันได้สติ ฉันก็รีบดึงอารมณ์กลับมา และวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ และสาดน้ำไปที่หน้า
น้ำเย็นสาดไปบนหน้า ในที่สุดฉันก็ค่อยๆสงบลง
ฉันรู้สึกว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ถ้าฉันยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันจะไม่สามารถต้านทานความไม่พอใจของเขาได้ !
เพื่อไม่ให้ฉันคิดกับลู่จือสิงในตอนนี้ ฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเราสองคน
หลายวันมานี้ลู่จือสิงยุ่งมาก ฉันใช้แล็ปท็อปติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานในเมือง D โปรเจ็กต์ใหม่ล่มอีกแล้ว และฉันก็ไม่ได้คิดที่จะเป็นคนรับผิดชอบในครั้งนี้ด้วย แต่ช่วงแรกยังคงยุ่งมาก ดังนั้นฉันและลู่จือสิงจึงไม่มีเวลาติดต่อกัน
วันที่หกที่ฉันมาอยู่เมือง A ฉันตื่นแต่เช้าและพบว่าลู่จือสิงไม่อยู่ในคฤหาสน์แล้ว
สองสามวันมานี้เมื่อตื่นนอนมาฉันจะเห็นเขาตลอด แต่วันนี้จุ่ๆตื่นขึ้นมาไม่เห็นเขา ฉันไม่อาจจะยอมรับได้ว่า ในใจฉันก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
แต่ฉันต้องรีบเก็บความหดหู่นั้นไว้ ในเมื่อลู่จือสิงออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว เรื่องของเขาจัดการเกือบเสร็จหมดแล้ว และฉันก็คงสามารถกลับไปที่เมือง D ได้
ฉันยังคงจำในสิ่งที่ลู่จือสิงบอกฉันเมื่อสองสามวันก่อนได้ เขาบอกว่า รอจัดการปัญหานี้เสร็จแล้ว เขาจะไปเมือง D กับฉัน
อย่างไรก็ตามฉันไม่อยากให้เขาไปเมือง D กับฉัน ดังนั้นฉันจึงใช้โอกาสในช่วงที่เขาไม่มีเวลาดูแลฉันนี้ รีบจองตั๋วเพื่อกลับไปที่เมือง D
“ซูยุ่น”
ป้าฝานรู้สึกแปลกใจมากที่เห็นฉัน
ฉันพยักหน้า:“เป้ยเปย หลับอยู่รึเปล่า?”
“เพิ่งทานข้าวไป ตอนนี้หลับอยู่ ”
เป้ยเปยอายุขวบครึ่งแล้ว ฟันของเขาขึ้นเยอะแล้ว และสามารถกินข้าวได้แล้ว
ฉันจะเข้าไปในห้องดูเขาสักหน่อย ในช่วงสองสามเดือนมานี้จะเป็นป้าฝานช่วยฉันดูแลเป้ยเปย คิดไปคิดมา ฉันจึงตัดสินใจเพิ่มเงินเดือนของป้าฝานเพิ่มอีก 500 หยวน
อีกทั้งนี้ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาป้าฝานทำงานหนักมาก ฉันจึงให้เธอกลับไปพักผ่อน
ช่วงเวลานี้ เป้ยเปยถ้าไม่ใช่ฉีซิ่วหรานดูแลก็เป็นป้าฝานดูแล ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะยุ่งขนาดนี้
โชคดีที่โครงการต่อไป ฉันบอกว่า ฉันอยากพักสักสองสามเดือนก่อนที่จะรับผิดชอบโครงการอีกครั้ง
“คุณเลิกงานแล้วเหรอ?”
พอประตูเปิดฉันก็รู้เลยว่าเป็นฉีซิ่วหราน เขามองมาที่ฉันแล้วพยักหน้า :“ เขาไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ฉันพยักหน้า:“อื้ม ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว ดังนั้นฉันจึงกลับมา”
แม้ว่าฉีซิ่วหรานเป็นคนพูดน้อย แต่เมื่อฉันเห็นเขาเอาแต่เงียบ ฉันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและอดไม่ได้ที่จะถาม: “คุณเป็นอะไรไป”
เขาเงยหน้ามองมาที่ฉัน:“ซูยุ่น”
ฉันชะงักไปชั่วขณะ:“อ๊ะ?”
“ผมไม่มีโอกาสจริงๆแล้วใช่ไหม?”
พอได้ยินสิ่งที่เขาพูด ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเงียบลง
คำพูดของฉีซิ่วหรานทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ในช่วงเวลานี้ ฉันคิดว่าว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดี
เมื่อเขาถามคำถามนี้กับฉันอีกครั้ง ฉันมีลางสังหรณ์ว่าระหว่างฉันกับเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
แต่ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถเห็นแก่ตัวอย่างนี้ได้ คิดอยู่สักพัก ฉันก็พยักหน้า“ขอบโทษนะฉีซิ่วหราน คุณก็รู้ว่า ฉันไม่สามารถไปชอบคนอื่นได้”
ความรักของฉันได้มอบให้กับลู่จื้อสิงแล้ว และจะไม่มีทางมอบความรักแบบนั้นให้ใครได้อีก
เขายกมือขึ้นกุมขมับ และเอนตัวลงบนโซฟาโดยไม่พูด
“แฟน?”
ตอนนี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจที่จะพูดจาติดตลกกับเธอ:“ไม่ใช่ เป็นเพื่อนคนหนึ่ง”
เธอคงรู้สึกได้ว่าฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยไม่ถามอะไรต่อ:“ซูยุ่น เธอต้องรู้นะว่า โลกของผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้มีคนเข้ามาก็ต้องมีคนจากไป เธอต้องชินกับมันให้ได้”
ฉันยกมือขึ้นเช็คน้ำตา :“ฉันเข้าใจแล้ว”
ฉันเข้าใจ ก็แค่รู้สึกเหมือนว่าฉีซิ่วหรานจะไปแล้ว การที่ฉันอยู่ในเมืองนี้ด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
สำหรับฉันแล้ว ฉีซิ่วหรานเป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ตราบใดที่เขาอยู่ที่นี่ ฉันไม่ต้องกังวลใดๆกับชีวิตของฉันที่นี่เลย
แต่ตอนนี้เขาจะจากไปแล้ว จู่ๆฉันก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา จากนี้หากเกิดอะไรขึ้นกับฉันและเป้ยเปย ฉันจะเคาะประตูห้องข้างๆเพื่อขอความช่วยเหลือได้ไหม?
ไม่ได้แล้วสินะ?
ตอนนี้ทุกคนก็ยุ่งกันหมด ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตอนนั้นฉันท้อง ฉันกับฉีซิ่วหรานคงจะไม่แยกจากกัน
เพราะฉีซิ่วหรานจะต้องไปที่เมือง S อารมณ์ของฉันจึงหดหู่มาก
แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ชีวิตก็ยังต้องเดินต่อไป
ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับฉีซิ่วหราน ส่วนใหญ่แล้วเขาจะดูแลฉัน ตอนนี้หน้าที่การงานของเขากำลังก้าวหน้า ฉันไม่สามารถรั้งเขาเอาไว้ได้
เนื่องจากโครงการใหม่และกิจการของฉีซิ่วหราน ก็เกือบทำให้ฉันแทบลืมลู่จือสิง
ยุ่งมาเดือนกว่า ในที่สุดฉันก็ทำงานที่ได้รับผิดชอบเสร็จ ต่อมาฉันก็แค่ทำนู้นนี่นิดหน่อยก็ได้แล้ว เรื่องอื่นๆฉันไม่จำเป็นที่ต้องไปตามดู ในที่สุดฉันก็ได้พักแล้ว
การเลิกงานตรงเวลาเป็นเรื่องยาก ฉันซื้ออาหารมาไม่น้อย และคิดว่าจะทำอาหารดีๆสักมื้อ แต่ปรากฎว่าฉีซิ่วหรานโทรมาบอกว่าเขาต้องไปทำธุระต่างจังหวัด เย็นนี้ไม่มาทานอาหารเย็นด้วย
ฉันมองไปที่อาหารที่วางบนโต๊ะ จู่ๆฉันก็รู้สึกไม่คุ้นเคยกับการทานอาหารกับเป้ยเปยสองคน
ทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นมา ฉันอึ้งไปสักพัก นึกว่าเป็นป้าฝานจะมีเรื่องอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้