หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 158

ฉันแสร้งทำเป้นมองไม่เห็น และพูดว่า:“กินข้าวเถอะ ดึกแล้ว”

เป็นเพราะฉีซิ่วหรานมา การกระทำทั้งหมดของลู่จือสิงจึงหน้ามืดมนไปหมด

ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ว่าคำพูดของฉันก็ชัดเจน การที่เขาไม่ใส่ใจในความปรารถนาของฉัน ก็ทำให้ฉันรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก

ในเมื่อฉันพูดแล้วไม่ฟัง ให้ฉีซิ่วหรานทำให้เขาโกรธก็ดี

เป็นไปตามคาดลู่จือสิงโกรธ ตัวเองทำอาหารมากมายบนโต๊ะ แต่เขากินเพียงแค่ข้าวเพียงชามเดียวและวางตะเกียบลง และจากไปโดยไม่พูดอะไร

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา ไม่รู้ทำไม ในใจรู้สึกขัดๆ

ลู่จือสิงคนนี้ สร้างความอึดอัดให้คนอื่นจริงๆ

ฉีซิ่วหรานเงยหน้ามองฉัน:“เขาไม่เป็นไรใช่ไหม ?”

ฉันยิ้ม:“ไม่เป็นไร ผู้ใหญ่หนึ่งคน เขาจะมีเรื่องอะไรกัน”

“คุณกับเขา......”

ฉันรู้ว่าเขาต้องการถามอะไร แต่ปัญหานี้ฉันก็ไม่อยากคิดเอาเอง นับประสาอะไรไปปรึกษากับเขา

ฉันยกมือขึ้นหยิบปีกไก่ให้ฉีซิ่วหราน:“กินเถอะ ไม่คิดเลยว่าอาหารที่ลู่จือสงทำจะรถชาติดี”

ฉีซิ่วหรานก็เข้าใจอารมณ์ของฉัน เห็นฉันปฎิเสธอย่างมีชั้นเชิง เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

กินข้าวเสร็จฉันก็ล้างจาน ฉีซิ่วหรานก็เล่นกับเป้ยเปยที่ห้องรับแขก ฉันเข้าครัวไปปอกผลไม้

กำลังปอกผลไม้ได้ครึ่งเดียว ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังเข้ามา “ก๊อกก๊อกก๊อก ”

ฉันไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าเป็นใคร เคาะประตูเหมือนเหมือนรื้อบ้านอย่างรุนแรงแบบนี้ จะไปใครไปได้นอกจากลู่จือสิง

แน่นอนว่า เมื่อฉันถือผลไม้ที่ปลอกเสร็จเรียบร้อยออกมา ก็เห็นเขานั่งเล่นกับเป้ยเปยอยู่บนพื้น

เมื่อฉันเห็นเขา ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะว่า:“ลู่จือสิงไม่ใช่ว่าคุณกลับไปแล้วเหรอ ?”

เขาเงหน้าขึ้นมองฉัน:“ผมเป็นพ่อของเป้ยเปย ทำไมคนที่ไปต้องเป็นผม”

ฉันขี้เกียจจะทะเลาะกับเขา ฉันเปิดทีวีดูพลางกินผลไม้กับฉีซิ่วหราน

กินไปได้ครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้นลู่จือสิงก็อุ้มเป้ยเปยมานั่งข้างๆฉันและมองมาที่ฉัน:“หยิบให้ผมชั้นหนึ่ง”

“หยิบเองสิ”

“ผมอุ้มเป้ยเปยอยู่”

ฉันเหลือบเขา และเพราะฉีซิ่วหราน ในที่สุดเขาก็ใช้ไม่จิ้มฟันจิ้มชิ้สุดท้าย แต่ปรากฎว่าเมื่อเขาใช้นิ้ว ฉันก็ไม่สนจเขาอีกเป็นครั้งที่สอง

เขาอุ้มเป้ยเปยแล้วชี้มาที่ฉัน: “เป้ยเปย แม่นิสัยไม่ดี ใช่ไหม ?”

เมื่อได้ยินที่เขาพูด ฉันก็อดไม่ได้ที่จะตบเขาไป:“คุณสอนบ้าอะไรให้เป้ยเปย ? !”

“ผมสอนผิดตรงไหน ผมแค่สอนเป้ยเปยพูดความจริงก็แค่นั้น”

โกรธจนแทบทนไม่ไหว ฉันทำได้เพียงเอื้อมมือไปหยิบส้มชิ้นหนึ่ง และยัดเข้าไปในปากเขา:“กินของคุณไป เรื่องไร้สาระเยอะจริง”

ฉีซิ่วหรานยิ้มมองมาที่ฉัน ฉันรู้สึกอายเล็กน้อย

“ผมกลับละ กลางคืนยังมีงานที่ต้องทำอีก”

ฉันพยักหน้าซ้ำๆ “ถ้างั้นคุณรักษาสุขภาพด้วย และรีบพักผ่อนนะ”

“คุณก็ด้วย ฝันดี ”

“ฝันดี”

ฉันคุ้นเคยกับฉีซิ่วหรานเป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นต้องลุกไปส่ง

“ฝันดี ซูยุ่น คุณช่างกล้าจริงๆ ต่อหน้าผม คุณก็ยังกล้ามีชู้อีก ?”

คำพูดของลู่จือสิงทำให้ฉันฉีกยิ้มขึ้นมา:“คุณชายลู่ ฉันอยากถามคุณ ตอนนี้คุณใช้จุดยืนอะไรมาพูดกับฉันแบบนี้? อย่าบอกว่าฉันกับฉีซิ่วหรานไม่มีความสัมพันธ์กัน ถึงแม้ว่าฉันกับฉีซิ่วหรานจะอยู่——อื้อ คุณ——ปล่อย!”

ฉันยังพูดไม่จบ ทันใดนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงมาดึงคางฉันลงไปจูบ

เป้ยเปยถูกเขาอุ้มมือเดียวอยู่ตรงกลางระหว่างฉันกับเขา ฉันไม่กล้าจะดิ้นเยอะ เพราะกลัวโดนเป้ยเปย

ฉันขมวดคิ้วขึ้นมา:“ทำไมคุณยังไม่ไป ?”

แม้ว่าเขาจะเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่แล้ว แต่เขาก็เปียกเกินไป ทำให้เสื้อเชิ้ตแนบติดกับร่างกายของเขา เผยให้เห็นกล้ามบนร่างกายของเขา

ฉันต้องยอมรับว่า รูปร่างของลู่จือสิงนั้นดีจริงๆ

“พอใจรึยัง ?”

ฉันกำลังคิดฟุ้งซ่าน ไม่รู้ว่าเขาเดินเข้ามาที่ข้างหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่

ฉันเงยหน้าขึ้น ก็กระทบเข้ากับคางของเขา

ฉันใช้มือผลักเขาออกโดยไม่รู้ตัว แต่ปรากฎว่าถูกเขาโอบเอวไว้

“คุณปล่อยฉันนะ !”

เป้ยเปยกำลังนอน ฉันจึงไม่กล้าเสียงดัง นี่ทำให้ลู่จือสิงไม่อาย

“ไม่ปล่อย”

เขาพูดอย่างหยาบคาย โยนผ้าขนหนูในมือทิ้ง และก้มศีรษะมองมาที่ฉัน:“ ซูยุ่น ”

หลังจากฉันดิ้นรนอยู่หลายครั้งแต่ก็ดิ้นไม่หลุด จึงทำได้เพียงวางมือไว้บนหน้าอกเขา เพื่อที่ไม่ให้ระยะห่างของเราใกล้เกินไป

แต่ร่างกายของเขานั้นเปียกปอน มือของฉันเสียดสีอยู่บนหน้าอกของเขา เสื้อเชิ้ตที่บางจนแทบเหมือนไม่มีอะไรขวางกั้นอยู่

ฉันรู้สึกว่าฝ่ามือของฉันเริ่มร้อน และอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงดัง:“ลู่จือสิง คุณปล่อยฉัน !”

เขาไม่สนใจสิ่งที่ฉันพูด “คุณอย่ายั่วผู้ชายคนอื่น ไม่งั้น——”เขาพูด และทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักลง

ฉันเลิกคิ้วยิ้มเยาะ:“ไม่อย่างนั้นทำไม ? คุณจะทำอะไรฉันได้ ?”

เขามองฉัน ทันใดนั้นเขาก็เลิกคิ้วและยิ้มออกมา

ฉันตระหนักได้ถึงอันตราย และผลักเขาออกอย่างแรง แต่ปรากฎว่าเมื่อผลักออก เขากลับใช้มือจับหลังศีรษะฉันกดเข้ามา และก้มลงมาจูบ

“อื้อ——”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้