หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 169

“เป็นลู่จือสิง! พระเจ้า เขาเหมือนจะรอใครอยู่นะ!”

“เป็นเขา เป็นเขาจริงๆ ด้วย ฉันเคยเห็นเขาในโทรทัศน์อยู่ เขาหล่อมาก ไม่คิดว่าตัวจริงจะเป็นผู้ใหญ่และดูมีรสนิยมยิ่งกว่า!”

เพื่อนร่วมงานกำลังถกเถียงกันอยู่ที่ด้านหลังฉัน ส่วนตัวฉันที่ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับไร้ความรู้สึกไปพักใหญ่

หลี่เจียนีดันฉันจากทางด้านหลัง: “มารับเธอแน่ะ รีบไปซิ!”

ฉันอึ้งไปซักพัก พอรู้ตัวก็ไปหลบที่ด้านหลังหลี่เจียนี ผลคือผู้หญิงคนนี้หักหลังด้วยการผลักฉันไปอยู่ตรงหน้าลู่จือสิง: “ประธานลู่ คนนี้คุณมารับไปเถอะค่ะ พวกเราเตรียมจะแยกย้ายกันอยู่แล้วนะค่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เจียนี ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเตะเท้าเธอไปที

แต่ยังไม่ทันให้ฉันได้ขยับเท้าดี ก็มีเสียงลู่จือสิงดังมาจากด้านบน: “ซูยุ่น ผมมารับคุณกลับบ้านครับ”

เมื่อเงยหน้าขึ้นมาฉันก็สบเข้ากับดวงตาสีดำคู่หนึ่งของเขา วันนี้ฝนตก เขากำลังถือร่มสีดำเรียบๆ คันหนึ่งอยู่ หลังจากนั้นแสงจากดวงไฟด้านหลังฉันได้สาดเข้ามาตกกระทบใบหน้าของเขา

เห็นๆ อยู่ว่าฉันกับเขารู้จักกันมานานขนาดนี้ แม้ในระหว่างทางจะมีหย่าร้างกันบ้าง และ

เป้ยเปยก็มีอายุหนึ่งขวบครึ่งแล้ว แต่หัวใจของฉันในตอนนี้กลับเต้นเร็วกว่าทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาเสียอีก

พอเห็นฉันไม่ขยับตัว เขาก็ยื่นมือมาจูงมือฉันเอาไว้ จากนั้นได้หันมามองเพื่อนร่วมงานของฉัน: “ผมมารับซูยุ่นกลับบ้านครับ ขอบคุณพวกคุณมากนะครับที่ช่วยดูแลเธอตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา”

แม้น้ำเสียงของเขาจะติดเย็นชาอยู่บ้าง แต่ทุกคำพูดของเขาที่เข้ามาในโสตสัมผัสของฉันกลับทำให้ใจฉันร้อนผ่าว

มือซ้ายถูกเขาจูงไว้อย่างแน่นหนา ฉันยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาก็พาฉันเดินไปข้างหน้าแล้ว

เพื่อนร่วมงานยังแอบถกเถียงกันอยู่ด้านหลังฉัน: “โอ้พระเจ้า ซูยุ่นกับลู่จือสิงมีความสัมพันธ์แบบไหนกันเนี่ย?”

“เธอตาบอดหรืออย่างไร! ความสัมพันธ์แบบไหนเธอยังดูไม่ออกอีกหรือ?”

……

ฉันเดินออกมาไกลแล้ว จึงไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก จากนั้นความรู้สึกนึกคิดก็ค่อยๆ กลับมาทีละน้อยๆ ฉันเงยหน้าขึ้นเหม่อมองดูเขา: “คุณไม่ได้อยู่ที่เมือง A หรือคะ?”

“ใครบอกคุณล่ะว่าผมอยู่ที่เมือง A?”

ฉันถูกเขาถามกลับ จึงมาคิดๆ ดูก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ฉันเองก็ไม่ได้ถามว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่เขาอยู่ที่เมือง A นั่นจริงๆ ยิ่งไม่มีทางมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้เลย

มิน่าตอนที่ฉันกำลังทานข้าวอยู่เขาถามฉันว่าจะไปไหนต่อ ตอนนั้นมัวแต่ตอบส่งๆ เขาไป ไม่ได้คิดอะไรมาก นึกไม่ถึงว่าเขาจะมารับฉัน!

จู่ๆ สีหน้าฉันก็แข็งขึ้น ฉันนึกเรื่องที่สำคัญมากออกมาได้: “เมื่อกี้เพื่อนร่วมงานไม่ใช่ว่าเห็นคุณเข้าแล้วนะคะ?”

“ใบหน้าผมดูไม่น่าจดจำขนาดนั้นเลยหรือครับ?”

คำพูดของเขาได้ทำลายความคิดสุดท้ายของฉัน ฉันจึงยกมือขึ้นมาปิดหน้า: “อยู่ดีๆ ทำไมคุณถึงมาล่ะคะ?”

ฉันจะไปอยู่แล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าในช่วงรอยต่อสุดท้ายนี้กลับป้องกันเอาไว้ไม่ได้!

แม้ว่าอาจจะไม่ได้เจอกันอีกในอนาคต แต่แบบนี้……

ช่างเถอะ เรื่องก็เกิดขึ้นมาแล้ว ฉันก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก

หลังจากที่ใจสงบลงแล้ว ฉันก็หันข้างไปมองลู่จือสิง: “อยู่ดีๆ ทำไมคุณถึงมาหรือคะ บริษัททางนั้น……”

“จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณวางแผนจะกลับเมือง A เมื่อไหร่ครับ?”

ฉันเม้มปากแล้วก็ดึงเซฟตี้เบลลงมา: “รออีกสักระยะหนึ่งแล้วกันคะ เพราะบ้านก็ยังขายไม่ออกเลยค่ะ”

พอฉันพูดจบ บนมือก็อบอุ่นขึ้นมา พบว่าลู่จือสิงกุมมือฉันเอาไว้

“คุณกลับเมือง A ก่อนเถอะ เรื่องบ้านเดี๋ยวผมหาคนมาช่วยจัดการให้ครับ”

ฉันขมวดคิ้ว: “ฉันขอคิดดูอีกทีนะคะ”

“คุณมีอะไรให้ต้องคิดอีก เรื่องทางนี้ก็จัดการพอสมควรแล้ว หรือว่าไม่อยากกลับเมือง A ครับ?”

ได้ยินสิ่งที่เขาพูดฉันก็อดยิ้มไม่ได้: “ฉันไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะไม่กลับ”

“ผมจะกลับวันอังคารหน้า ให้เวลาคุณสามวันในการเก็บข้าวของ แล้วอังคารหน้ากลับบ้านไปด้วยกันกับผมนะครับ”

กลับบ้าน

คำง่ายๆ เพียงแค่สองคำของเขาก็ทำให้ฉันเลือกโยนชุดเกราะทิ้งไป เบ้าตาร้อนผ่าว ในที่สุดฉันก็ไร้แรงที่จะต้านทานอีกต่อไป: “ค่ะ”

ทันทีที่ฉันพูดจบ เขาก็จูบลงมาอย่างหนักหน่วงราวกับเม็ดฝนที่โปรยลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แล้วเขาก็เอามือสอดเข้าไปในชายเสื้อฉันอย่างง่ายดาย เล็บมือเย็นเฉียบทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น ไม่กี่วินาทีต่อมามือของเขาก็เคลื่อนมาที่ด้านหน้าของฉัน

เขาทั้งนวดทั้งคลึงจนฉันอดใจไม่ไหวเกือบจะส่งเสียงร้องออกมา

เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะสูญเสียการควบคุมจึงรีบกัดริมฝีปากเอาไว้

ลู่จือสิงสังเกตเห็น จึงยิ้มออกมาในทันที จากนั้นก็ขยับมือเบาๆ จนฉันสั่นสะท้านไปหมด แล้วเขาก็กดตัวลงมา พูดชิดข้างใบหูฉันว่า: “ซูยุ่น ส่งเสียงออกมา”

ฉันส่ายศีรษะ “ไม่เอา——โอ้!”

ฉันรีบกัดริมฝีปาก เขารูดซิปกางเกงบนตัวฉันลงโดยไม่รอให้ฉันมีปฏิกิริยาเคลื่อนไหว จากนั้นมือหนึ่งจับเอวฉันแล้วดันขึ้น ส่วนอีกมือหนึ่งดึงกางเกงลงมาแล้วถอดออกไปจากตัวฉัน

เมื่อคืนเขาเพิ่งหาฉันจนพบ และตอนนี้เขาก็ก้มลงมาจูบริมฝีปากฉันพร้อมกับพูดว่า: “ซูยุ่น ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน คุณคิดถึงผมบ้างมั้ยครับ?”

เมื่อเขาพูดเสร็จ ฉันก็ได้ยินเสียงตรงบริเวณหัวเข็มขัดนั่น แล้วทั่วร่างกายก็ร้อนระอุและอ่อนนิ่มไปหมด ฉันอดไม่ได้ที่จะโอบแขนเขาเอาไว้เพื่อรั้งไม่ให้ตัวเองไหลลงมาจากกำแพง

เขาถอดชุดของตัวเองออกมา แล้วค่อยๆ เขยิบๆ มาตรงหน้าฉัน: “มันก็คิดถึงคุณเช่นกันครับ”

พอได้ยินคำพูดเหลวไหลของเขา ใบหน้าฉันก็ร้อนฉ่า เขาราวกับยิ่งลำพองใจมากขึ้น ในที่สุดฉันก็อดใจไม่อยู่กัดลงไปบนริมฝีปากของเขา: “คุณหุบปาก——โอ้?”

ไม่คิดว่าเขาจะอาศัยจังหวะที่ฉันไม่ทันระวังยกขาฉันขึ้น จากนั้นก็เข้าไปทั้งอย่างนี้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้