หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 191

ฉันคิดไม่ถึงว่าเซี่ยงฉิงจะถามออกมาตรงขนาดนี้ พอเปิดปากถามก็ถามฉันเรื่องแต่งงานทันที

ถงเจียหลินมาพอดีเห็นเราสองคนคุยกันอยู่ ก็เลยเบียดเข้ามาคุยด้วยคน “ซูยุ่น เธอจะแต่งงานหรอ?”

ฉันส่ายหัวให้ แล้วบอกว่า “ไม่นิ อย่าไปฟังเซี่ยงฉิง เธอก็แค่ถามฉันเฉยๆ”

“อ้อ แล้วเธอกับประธานลู่จะแต่งานกันเมื่อไหร่ละ วันเสาร์ที่ขอแต่งงาน ไม่เบาเลยนะ”

เธอมองมาที่ฉัน ฉันทนไม่ไหวจนรู้สึกเขินนิดๆ”ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะกระทันหันแบบนี้ เรื่องแต่งงานฉันจะแจ้งพวกเธอที่หลังแน่นอน ”

“เธอกับประธานลู่ เหมือนในนิยายเลย น่ารักสุดๆ ”

เซี่ยงฉิงพูดอย่างตื่นเต้นแล้วมองมาที่ฉัน

ฉันยิ้มให้เธอ รู้สึกเขินนิดๆไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี

เพราะเรื่องวันเสาร์ที่ลู่จือสิงของแต่งงาน ตั้งแต่เช้าคนทั้งบริษัท ก็เอาแต่ยินดีกับฉัน

ทั้งเช้านี้ฉันยิ้มจนปากชาไปหมด

นี้ยังไม่เท่าไหร่ ตอนกลางวัน ขนาดฉีซิ่วหรานที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานยังโทรมาหาฉันอีกด้วย

ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ และเขาก็บอกว่ามีงานต้องทำ เราเลยไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบเดือนหนึ่งแล้ว พอเห็นเขาโทรมาฉันรู้สึกตกใจนิดๆ

“ประธานลู่โทรมาหรอ?”

เซี่ยงฉิงที่อยู่ข้างๆยื่นหน้ามาคุยกับฉันด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่า“ฉันเดาก็รู้แล้ว”ใส่ฉัน ฉันรู้สึกตลกเล็กน้อย ดันหน้าเธอไปไกลๆ เดินไปรับโทรศัพท์ข้างนอก”ฉีซิ่วหราน”

“ยินดีด้วยนะ .ซูยุ่น”

ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะเอ่ยปากพูดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก

ฉันยิ้มอย่างเก้อๆและตอบไปว่า “ขอบคุณ”

“จะเเต่งงานกันเมื่อไหร่ละ?”

ฉันตลกเล็กน้อย “ทำไมทุกคนเอาแต่ถามเรื่องนี้กันเนี่ย”

“ก็ธรรมดา เขาขอแต่งงาน ก็แปลว่าใกล้จะแต่งงานเข้าทุกวัน และอีกอย่างเป้ยเปยอายุก็จะสองขวบแล้ว ถึงเวลที่ต้องแต่งงานแล้วละ”

เขาเป็นแบบนี้ตลอด ฉันรู้สึกชินไปแล้ว”ดูๆกันไปก่อนอาจไม่เร็วขนาดนั้น นายละ เป็นไงบ้าง”

เพราะว่าไม่ได้ติดต่อกันมานาน เลยคุยกันนานหน่อย

พอว่างโทรศัพท์ เซี่ยงฉิงมองฉันแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินนะ ไม่ใช่โทรศัพท์จากประธานลู่ ”

ฉันหัวเราะนิดๆและก็ไม่ได้ใส่ใจมาก “เพื่อนฉันจากเมื่องs โทรมา”

”หล่อไหม?”

ฉันรู้ว่าเซี่ยงฉิงยังโสดอยู่ และบอกกับเธออย่างจริงจังว่า “หลอรวย มีโอกาศแล้วจะแนะนำให้รู้จัก”

เซี่ยงฉิงเป็นคนที่นิสัยร่าเริง และดูจากนิสัยของฉีซิ่วหรานหากว่าทั้งสองอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งร่าเริงคนหนึ่งเงียบ มันก็เหมาะสมกันดีนะ

“ได้สิได้สิ!”

ฉันจ้องไปที่เธอแล้วคุกคิดว่าจะหาโอกาศมาให้เจอกันยังไงดี

กว่าจะเลิกงานคนทั้งบริษัทพอเห็นฉันเดินลงมาก็ยินดีกับฉันใหญ่เลย

เอาสะฉันพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

ลู่จือสิงจะมารับฉันกลับบ้านทุกวัน เมื่อก่อนฉันไม่อยากให้เขามารับฉักสักเท่าไหร่ แต่ว่าวันนี้พอเจอเขาก็รู้สึกโล่งอกไปที รีบเดินเข้าไปเปิดประตูจะได้ไม่มีใครรู้จักฉันแล้วมาถามฉันอะไรอีก

“เธอเดินเร็วขนาดนี้ มีใครวิ่งตามเธอข้างหลัง?”

พอฉันปิดประตูรถเขาก็ถามฉันทันที

ฉันพูดไม่ออกว่าเป็นเพราะว่าเขาขอแต่งงานฉัน ฉันเลยเงียบไว้ไม่พูดไร ทำเป็นไม่ได้ยิน ดีที่เขาไปถามลงไปอีก

ข้างหน้าเป็นไฟแดง โทรศัพท์ฉันดังขึ้นมาทันที

ฉันก้มหน้ามองไปที่จอโทรศัพท์ ปรากฎว่าเป็นชวี่ชิงหนาน

พอรับโทรศัพท์ ฉันหันไปมองลู่จือสิงเขาก็กำลังมองฉันอยู่ “มีไร?”

ฉันส่ายหัวให้เขาแล้วรีบรับโทรศัพท์ “ฉันเอง ซูยุ่น”

“ใช่หรอ?”

เขามองมาทางฉันแล้วกัดฟันพูดด้วยสีหน้าที่มัวหมอง เหมือนกับจะทุบสมองฉันออกมาว่างั้น

ฉันดันเขาออกเล็กน้อย “ใช่”

ฉันพูดจบ สีหน้าเขาก็ดูมืดทันที

ฉันเห็นท่าทางเขาแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“ยิ้มอะไรของเธอ”

เขายกมือมาหยิกฉันครั้งหนึ่ง ฉันรู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย หุบยิ้มแล้วส่ายหัว” ไม่มีอะไรนิ ปล่อยฉันก่อน”

พอฉันพูดจบ เขาไม่ปล่อยฉันไม่พอ ยิ่งรัดแน่นเข้ามาอีก ก้มหัวมากัดคอฉันอีกด้วย

เขากัดฉันจริงๆ กัดจนฉันเจ็บ “อะ นายกัดฉันจริงหรอ! ”

“ชวี่ชิงหนานช่วยเธออะไรบ้าง?”

“ตอนฉันลำบาก เขาเป็นคนช่วยฉันหมดเลย”

สีหน้าลู่จือสิงยิ่งดูไม่ได้ไปใหญ่ พอฉันคิดถึงเรื่องนั้นฉันก็ไม่คิดจะอภัยเขา”ตอนนั้นที่ฉันมาที่นี้กับเป้ยเปย ฉันกลัวนายจะเห็น ชวี่ชิงหนานนั้นแหละที่จัดการทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่เขาละก็.......อืมม นาย....นายทำ.......”

เขาจูบฉันลงมาแรงๆแล้วค่อยปล่อยฉัน

ฉันรีบพลักเขาออกไป”นายทำอะไร พูดอยู่ดีดี ทำไม.....”

“เธอว่าละ?”

เขาพูดพร้อมกับอุ้มฉันขึ้น

ฉันรีบจับคอเขาไว้ “ลู่จือสิง!”

เขากระหึ่มออกมาเบาๆ แล้วอุ่มฉันเข้าไปที่ห้องนอนทันที

ฉันตกใจเล็กน้อย กำลังจะเรียกเขาหยุด แต่ไม่ทันแล้ว เขาโยนฉันลงบนเตียง จากนั่นก็ทับตัวลงมา.......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้