"ซูยุ่น คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"
วันนี้ถึงบริษัทไวเล็กน้อย ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็เพิ่งจะ 08.50นาฬิกา
ในตอนที่ฉันเดินไปเติมน้ำ ฉันก็บังเอิญเจอเข้ากับเซี่ยงฉิงที่เพิ่งมาถึงบริษัท เดิมทีเธอทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม หลังจากเห็นฉัน เธอก็ถามด้วยเสียงเบาว่าฉันเป็นอะไรไป
ฉันยิ้มเล็กน้อย "เธออย่าโหวกเหวกโวยวายไป เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับ"
"เป็นเพราะหลินเมิ่งเซียเหรอ?"
ฉันส่ายหน้า "ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอคนนั้นเลย"
ระหว่างฉันกับลู่จือสิง แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นปัญหาระหว่างฉันกับเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนอื่น
"อย่าทะเลาะกับประธานลู่เพราะหลินเมิ่งเซียคนนั้นเด็ดขาด มันไม่คุ้มค่ากันเลย ฉันจะบอกเธอให้!"
ฉันยิ้ม "ฉันเหมือนคนโง่ขนาดนั้นเชียวหรือ?"
เธอเม้มริมฝีปาก “ก็ไม่แน่ เมื่อวานฉันเห็นเธอดูเหมือนกับว่าโมโหมาก”
"เธอคิดมากแล้ว"
ฉันยกมือขึ้นแล้วผลักเธอเบาๆ "พอแล้ว ไม่พูดแล้ว จะถึงเวลาทำงานแล้ว"
"โอเคก็ได้ เธอน่ะเป็นคนใหญ่คนโต ฉันไม่พูดอะไรแล้ว อย่างไรก็ตามหลินเมิ่งเซียคนนั้น ถ้าหากว่าเธอไม่สนใจเธอ เธอก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้"
ฉันยิ้ม อาจจะไม่ใช่แบบนั้น
แค่เพียงฉันไม่สนใจเธอ ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจฉัน
ในช่วงเวลาทานอาหารเที่ยง จู่ๆเธอก็เดินเข้ามาและนั่งลง "คุณซู ไม่ได้รังเกียจใช่ไหม?"
ในช่วงสองสามวันนี้ถงเจียหลินนั้นลาหยุด ดังนั้นฉันจึงนั่งทานอาหารกับเซี่ยงฉิง เมื่อครู่เซี่ยงฉิงนั่งอยู่ตรงข้ามฉัน ด้านข้างฉันนั้นไม่มีใคร เธอกล่าวมาเช่นนี้ หากฉันปฏิเสธก็ดูเห็นแก่ตัวเกินไป หากไม่ปฏิเสธภายในใจของฉันก็คงจะอึดอัด
"งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วกัน"
"......."
ฉันยังไม่ทันกล่าวอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เธอก็นั่งลงด้วยตัวเอง
ไม่รู้ว่าทำงานเป็นเซลล์ใช่หรือเปล่า หน้าถึงได้หนามากเป็นพิเศษ
ฉันและเซี่ยงฉิงมองหน้ากันจากนั้นก็เริ่มกินอาหารเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ
"คุณซู คุณเข้ามาอยู๋ในบริษัทก็นานแล้ว แต่ที่ผ่านมานั้นฉันยังไม่เคยเลี้ยงข้าวคุณเลยสักมื้อ ไม่รู้ว่าสุดสัปดาห์------"
"ขอโทษด้วย ฉันไม่ว่าง สุดสัปดาห์ฉันต้องอยู่ดูแลลูก"
เธอคงไม่คาดคิดว่าฉันจะปฏิเสธตรงๆเช่นนี้ เธอจ้องมองฉันอย่างตกตะลึงจากนั้นไม่นานจึงจะพยักหน้า "ไม่เป็นไร อันที่จริงแล้วนั้นฉันจะตอบแทนประธานลู่เท่านั้น"
ฉันหัวเราะเยาะในใจ "ในเมื่ออยากตอบแทน ก็ตอบแทนให้กับคนคนนั้นเถอะ แม้ว่าฉันกับลู่จือสิงจะเป็นคู่หมั้นหมายก็ตาม แต่คุณหลินจะตอบแทนฉันนั้น ฉันว่าไม่ค่อยเหมาะสม"
"ก็จริง เพียงแต่ว่าประธานลู่นั้นค่อนข้างยุ่ง ยากที่จะนัดหมาย"
"อันที่จริงเขานั้นยุ่งมาก"
ตอนที่ไม่ยุ่งเขาก็อยู่บ้าน เป็นปกติที่เธอจะไม่สามารถนัดเขาได้
สำหรับลู่จือสิง ฉันนั้นเข้าใจ ต่อให้หลินเมิ่งเซียจะยุยงให้แตกขาดกันอย่างไร ฉันก็จะไม่เชื่อเลยว่าลู่จือสิงจะทำเรื่องราวบางอย่างจริงๆ
"ฉันกินอิ่มแล้ว เธอล่ะ?"
เซี่ยงฉิงที่อยู่ตรงข้ามฉันก็เริ่มกล่าวและฉันก็เข้าใจในทันที "ฉันก็อิ่มแล้ว คุณหลิน คุณไม่ต้องรีบ พวกเราต้องขอตัวก่อน"
เมื่อกล่าวเช่นนั้นแล้ว เซี่ยงฉิงและฉันก็ลุกขึ้นพร้อมกันและเดินออกมา
"เป็นคนแบบไหนกัน หน้าไม่อายเลย ไม่เคยเจอคนหน้าไม่อายแบบนี้มาก่อนเลย"
หลังจากเดินออกมาเพียงไม่กี่ก้าว เซี่ยงฉิงก็เริ่มบ่น
ฉันก็ไม่ได้ห้ามเธอ จะได้ยินหรือไม่ได้ยินแล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ อย่างไรก็ตามเมื่อหลินเมิ่งเซียเข้าหาฉันก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองนั้นหน้าไม่อาย
ตั้งแต่วันนั้น ฉันและลู่จือสิงก็ได้เริ่มทำสงครามเย็นต่อกัน
ปกติแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์เขากับฉันจะเล่นกับเป้ยเปยกันก่อนสักสองสามชั่วโมงจากนั้นจึงแยกกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่สัปดาห์นี้ เขาอยู่ในห้องทำงานตลอด และเมื่อฉันเห็นเขาออกมาฉันก็ส่งเป้ยเปยให้กับเขา ฉันจึงเดินเข้าห้องของตัวเองเพื่อปรับปรุงแผนงาน
ฉันรู้ว่าแบบนี้นั้นดูไร้สาระมาก แต่จะให้ฉันก้มหน้าให้ลู่จือสิง ฉันก็ทำไม่ได้
เห็นเธอแล้วฉันอยากจะด่าเธอจริงๆ
แต่เธอนั่งอยู่ในรถและมองมาที่ฉันพร้อมด้วยรอยยิ้ม "วันนี้ประธานลู่ไม่ได้มารับคุณเหรอ? วันนี้อากาศหนาวขนาดนี้ ฉันไปส่งไหม?"
ฉันปฏิเสธเธอด้วยสีหน้าเย็นชา "ไม่ต้องหรอก บ้านฉันใกล้แค่นี้เอง ไม่รบกวนคุณดีกว่า"
"รบกวนอะไรกันล่ะ ขึ้นมาเถอะคุณซู"
เธอพูดพลางเปิดประตูรถ
ฉันกัดฟันและขึ้นรถไป
"คุณซู ดูเหมือนคุณจะไม่ค่อยชอบฉันสักเท่าไหร่เลย?"
ฉันเพิ่งคาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อฉันได้ยินคำพูดของเธอ ฉันก็เหลือบไปมองเธอ "คุณหลินคิดมากไปแล้ว"
"งั้นเหรอ? ฉันคิดว่าฉันทำอะไรให้คุณซูไม่พอใจเข้าแล้ว"
"เปล่าเลย"
เธอยิ้ม สีหน้าของเธอสดใส ภายในใจของฉันนั้นกลับกลั้นหายใจเอาไว้
"ช่วงนี้เหมือนกันว่าประธานลู่ไม่ค่อยได้มารับคุณ"
ฉันนั้นคาดไม่ถึงว่าหลินเมิ่งเซียคนนี้จะคอยจับสังเกตุได้ดีขนาดนี้ แม้แต่เรื่องนี้เธอเองก็รู้
"เขาติดธุระ"
"โอ้ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ฉันเห็นประธานลู่ เหมือนกับว่าช่วงนี้เขาก็ไม่ค่อยจะยุ่งอะไร"
เธอกำลังจะเจาะจงอะไรบางอย่าง สีหน้าฉันเย็นชาและหันไปมองเธอ "คุณหลินอยากจะพูดอะไร?"
"ไม่มีอะไร ก็แค่รู้สึก เรื่องระหว่างประธานลู่และคุณซูดูเหมือนจะดีอย่างที่โลกภายนอกบอก"
เมื่อได้ยินคำพูดเธอ ฉันก็ยิ้ม "ดีไม่ดี พวกเรารู้กันอยู่ โลกภายนอกบอกก็เป็นเพียงแค่โลกภายนอกบอก"
ไฟแดงด้านหน้าทำให้รถหยุดลง หลินเมิ่งเซียหันมามองฉันและรอยยิ้มของเธอก็ๆค่อยลดลง "งั้นอาการที่คุณซูไม่ชอบฉันนั้นเป็นมาอย่างไรเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้