หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 203

ลู่จือสิงเดินมาเข้ามาข้างฉันแล้ว ทำราวกับว่ามองไม่เห็นหลินเมิ่งเซีย ยื่นมือมาโอบฉันไว้ “บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าช่วงบ่ายจะมารับคุณ?”

ฉันชะงักไปเล็กน้อย มองสีหน้าของหลินเมิ่งเซียที่ซีดเผือดที่อยู่ตรงหน้าฉัน รู้สึกว่าหลายวันที่ถูกเธอทำให้โมโหก็หายไป

“ประธานลู่บังเอิญจังเลยค่ะ”

ฉันศรัทธาหลินเมิ่งเซียจริงๆ เห็นได้ชัดเจนว่าลู่จือสิงไม่อยากสนใจเธอ แต่นึกไม่ถึงว่ายังไร้ยางอายเข้ามาใกล้

ฉันไม่ได้พูดอะไร ดูว่าลู่จือสิงจะแก้ไขอย่างไร

เป็นเพราะว่าลู่จือสิงอยู่ และเขาก็ยังมีชื่อเสียง ในเวลานี้ที่ประตูก็มีแต่ผู้คน

ถึงแม้ว่าทุกคนจะรีบเลิกงานกลับบ้าน แต่ว่าก็หลบหลีกพวกคนที่ชอบนินทาไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะหยุดและมองว่าเกิดอะไรขึ้น

ฉันมองไปที่ลู่จือสิง เดิมทีนึกว่าเขาจะพูดอะไร ผลลัพธ์คือเขาแค่ปรายตามองหลินเมิ่งเซีย “เธอเป็นใคร?”

“ฉัน——”

ฉันมองหลินเมิ่งเซียเหมือนกับว่าอยากจะพูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าลู่จือสิงไม่ให้โอกาสเธอ ดึงฉันเดินออกมา

ก่อนที่กำลังจะไป ฉันอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองหลินเมิ่งเซีย เธอยืนอยู่ตรงนั้น. รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าฝืนใจเล็กน้อย แต่ว่าเมื่อเห็นว่าฉันหันหน้ากลับไปมองเธอ คาดไม่ถึงว่าเธอยังมองฉันแล้วยิ้ม

จริงๆเลยเชียว ครั้งแรกที่เจอ คนแบบนี้

ถูกลู่จือสิงจับขึ้นบนรถ ฉันเพิ่งจะยกมือขึ้นอยากจะรัดเข็มขัดนิรภัย เขาก็โน้มตัวลงมารัดให้ฉันแล้ว

“หรือว่า——”

เดิมทีฉันอยากจะพูดว่าฉันทำเอง แต่ว่าเขาทำเสร็จแล้ว ฉันเม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

ลู่จือสิงเดินออ้มมาขึ้นรถ เอียงหน้าลงมามองฉัน เขาจึงเหยียบคันเร่ง

หลายวันแล้ว ลู่จือสิงไม่ได้มารับฉันตอนเลิกงาน ตอนนี้เขามารับฉันตอนเลิกงาน ฉับพลันนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

ภายในรถเงียบมาก เขาเป็นคนพูดน้อยมาโดยตลอด ไม่เหมือนฉัน ที่ชอบจู้จี้จุกจิก

“คุณจะออกไปดูงานนอกสถานที่กี่วัน?”

จากบริษัทมาถึงคอนโดมีเนียมมีสองไฟแดง ตอนนี้รถจอดอยู่ที่ไฟด้านแรก ในช่วงเวลาฉับพลันนั้นฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะเปิดปากถามฉัน

เอ่ยมาถึงเรื่องออกไปงานดูนอกสถานที่ ฉันคิดขึ้นได้ว่าวันนี้เมื่อตอนกลางวันเขาเข้ามาหาฉันที่บริษัทเพราะเรื่องนี้

คิดไปคิดมา ฉันก็พูดไปตรงๆ “ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ผู้จัดการด้านนั้นพูดแล้ว น้อยสุดต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ ถ้าใช้เวลานาน อาจจะต้องใช้เวลาครึ่งเดือน”

“อืม”

เขาตอบรับฉัน และไม่ได้ถามต่อไปอีก

ฉันมองดูเขา สายตาหยุดลงที่บนสีหน้าที่เย็นชาของเขา เป็นครั้งแรกที่พบว่าระหว่างฉันกับลู่จือสิง คาดไม่ถึงว่าจะมีช่วงเวลาที่อึดอัดวางตัวไม่ถูก

เมื่อถึงลานจอดรถ ฉันกับเขาก็ไม่ได้เปิดปากพูดอีก

“คุณชายลู่ คุณผู้หญิงลู่ กลับมาแล้วเหรอ?”

นานมากแล้วที่ป้าจ้าวไม่เจอฉันกับลู่จือสิงเลิกงานกลับบ้านพร้อมกัน ตอนนี้เห็นฉันกับลู่จือสิงอยู่ด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเธอดีใจมาก

ฉันยิ้มเล็กน้อย “ใช่ค่ะ ป้าจ้าวอยู่กินข้าวด้วยกันสิ?”

“ไม่ได้ค่ะ ฉันต้องกลับก่อนแล้ว”

“ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นป้าจ้าวเดินทางปลอดภัยนะคะ”

เป้ยเปยไม่ได้เล่นกับลู่จือสิงมาหลายวันแล้ว ตอนนี้ลู่จือสิงกลับมาแล้ว เขาก็ไม่แม้แต่มองฉัน วิ่งเข้าไปกอดขาของพ่อเขา

ฉันจ้องมองต้นแขนเล็กขาเล็กของเป้ยเปยที่กำลังกอดลู่จือสิง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร รู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าว

เด็กน้อยคือมีความซื่อสัตย์ที่สุด พูดว่าคิดถึงก็คือคิดถึงจริงๆ ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ ที่ยังเขินอาย

เป้ยเปยตัวติดกับลู่จือสิงตลอดทั้งคืน ฉันเลยมีเวลาว่าง และก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ ก็นั่งอยู่บนโซฟาคนเดียวหยิบหนังสือขึ้นมาดูหนึ่งเล่ม

ลู่จือสิงนำเป้ยเปยกล่อมให้หลับ เขาจึงหาเวลาออกมา

ฉันวางหนังสือลง เงยหน้ามองไปที่เขา “ลู่จือสิง พวกเรามาพูดคุยกันหน่อย”

เรื่องออกไปดูงานนอกสถานที่ ฉันจำเป็นต้องพูดกับคุณให้ชัดเจน

“อืม”

เขาว่านอนสอนง่าย นั่งลงด้านตรงข้ามของฉัน

ฉันมองเขา อ้าปากจะพูด มีคำพูดเยอะมาก สุดท้ายพูดออกไปแค่หนึ่งประโยค “ฉันออกไปดูงานนอกสถานที่ครั้งนี้ ไม่ได้คิดหลบหนีอะไร”

ฉันได้ยินเสียงเขาปิดไฟ

วินาทีถัดมา บนเตียงข้างกายของฉันก็ยุบลงไป กลิ่นอายของลู่จือสิงก็ปะทะเข้ามา

ฉันหลับตาแน่น ทั่วทั้งร่างกายขึงตึง

ในเวลาที่มือของเขาหยุดลงมาที่บนตัวของฉัน จิตใต้สำนึกสั่งให้ฉันเบิกตาขึ้น

“เวลายังไม่ดึก”

เขาพูดพลาง ก้มหน้าลงมาจูบฉัน

ฉันรีบยกมือขึ้นขวางเขาไว้ “พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นแต่เช้า”

“ยังไม่ถึงสี่ทุ่ม”

ท่าทางเขาไม่ถอย และยังเริ่มจูบฉันแล้ว

จูบของลู่จือสิงกับก่อนหน้านี้ไม่เหมือนกัน จะพูดอย่างไรล่ะ ถ้าหากพูดว่าจูบก่อนหน้านี้คือร้อนแผดเผา จูบตอนนี้ราวกับน้ำอุ่นที่นุ่มนวล

ฉันถูกจูบของเขา ทำให้มือที่ขวางเขาอยู่ก่อนหน้านี้อ่อนลง

“ลู่จือสิง——”

“อืม ครึ่งเดือนแล้ว”

เขาก้มลงมา มือของเขาก็ล้วงเข้ามาจากชายเสื้อชุดนอนของฉัน เข้ามาพูดประชิดอยู่ที่ใบหูของฉัน

ตอนแรกฉันยังฟังไม่เข้าใจว่าครึ่งเดือนหมายคว่าอะไร จนกระทั่งมือของเขามาลูบที่ทรวงอกของฉัน ชั่วพริบตานั้นฉันก็มีสติกลับมา

ฉันกับเขาทำสงครามเย็นมาแล้วสิบวัน แต่ทว่ามีครึ่งเดือนที่ไม่ได้ขึ้นเตียงด้วยกัน

“ลู่จือสิง——”

ฉันยังไม่อยากจะคิด แต่เขาค่อนข้างเข้าใจฉัน ทำให้ฉันถูกกองทัพตีแตกกระเจิงอย่างง่ายดาย

พบว่าฉันผ่อนคลายลง เขาก็ใช้โอกาสนี้โจมตีเข้ามา

ฉันเพียงรู้สึกว่าร่างกายด้านล่างถูกเติมเต็ม อดไม่ได้ที่จะร้องเสียงต่ำออกมา“อืม——”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้