หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 204

ประมาณว่าไม่ได้ขึ้นเตียงกันหลายวันแล้ว ฉันพบว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่ได้ ถูกลู่จือสิงจู่โจมพ่ายแพ้ยับเยินอย่างง่ายดาย

เห็นได้ชัดว่าลู่จือสิงก็ค้นพบแล้ว เขากระแทกเข้ามาพลางหัวเราะอยู่ข้างใบหูของฉัน “ซูซู ความจริงคุณก็ต้องการมากสินะ?”

ฉันใช้มือจับบนตัวของเขาอย่างแน่น หยิกลงไปบนเนื้อที่หัวไหล่ของเขา “คุณ พูด ภาษาลามกน้อยหน่อย!”

“ซื่อสัตย์หน่อย ที่รัก”

เขาพูดพลาง กะแทกเข้ามาหนักหนัก ฉับพลันนั้นฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำเช่นนี้ กัดฟันข่มเสียงไว้ไม่ไหว เสียงหลุดออกมาจากริม

ฝีปาก “อืม——”

“เสียงดังหน่อย ที่รัก”

น้ำเสียงที่เขาเรียกว่าที่รัก เรียกจนทำให้ท่วมตัวฉันร้อนผ่าว

แต่ทว่าลู่จือสิงยิ่งเรียกก็ยิ่งฮึกเหิม เหมือนกับจงใจ เสียงที่เรียก ก็เหมือนกับเครื่องพูดออกเสียง

ฉันได้ยินจนทำให้ทรวงอกจั๊กจี้ เวลาถัดมาอดไม่ได้ที่จะใช้แรง ในที่สุดเขาก็ไม่เรียกฉันอีก สูดลมหายใจ หยิกเอวของฉันอย่างดุดัน

“คุณอยากจะรัดแน่นผมให้ตาย?”

“คุณ เร็วหน่อย จะพูดไร้สาระทำไม!”

แต่ละคำที่พูดออกมา ฉันทนเขาไม่ไหวแล้วจริงๆ

ผลลัพธ์คือฉันเพิ่งจะพูดเสร็จ เขาก็กระหน่ำรุนแรงราวกับฝนฟ้าจะทล่มขึ้นมา

ฉันทนไม่ไหวแล้ว อดไม่ได้ที่จะเรียกให้เขาช้าลง ผลลัพธ์คือเขาพูดว่าเป็นเพราะฉันอยากให้เขาเสร็จเร็วๆ

เวลาครึ่งเดือนที่ไม่ได้ขึ้นเตียง ลู่จือสิงเหมือนกับอยากจะทำทดแทนทั้งคืน จริงๆแล้ว3ทุ่มครึ่งฉันก็ขึ้นเตียงเตรียมตัวจะนอนไม่หลับแล้ว ผลลัพธ์คือจะเที่ยงคืนแล้ว ลู่จือสิงเพิ่งจะปล่อยฉัน อุ้มฉันไปล้างตัวที่ห้องอาบน้ำ

คืนนี้เขาดุร้ายเป็นพิเศษ เวลาที่ถูกเขาอุ้มไปในห้องอาบน้ำฉันก็หมดแรงแล้ว ถูกเขาโจมตีจนหมดสภาพ

เวลาที่ถูกวางลงบนเตียงใหม่ ฉันก็ลืมตาไม่ค่อยขึ้นแล้ว

ผลลัพธ์คือลู่จือสิงใช้มือดึงผ้าห่มออกมาล้วงมือเข้ามา ฉันนึกว่าเขาจะต้องการอีก อดไม่ได้ที่จะใช้เท้าทีบเขาไป

แต่ว่าฉันจะเอาแรงมาจากที่ไหน ฉันทีบเท้าออกไป คล้ายกับว่าตัวเองนำเท้าทั้งสองข้างไปให้ลู่จือสิง เขาก็ใช้แรงจับขาของฉันไว้

มือจับเอวของฉัน ฉันยกมือขึ้นจับมือของเขา “คุณยังอยากจะทำอะไรอีก?”

“คุณกำลังคิดอะไร ผมเพียงแค่นวดเอวให้คุณ”

เขาพูดพลาง นวดเอวให้กับฉัน

ตอนแรกฉันกลัวว่าเขาจะทำไรที่ยั่วยวน ทำให้ตัวเองไม่กล้าที่จะนอนหลับไป

แต่หลังจากผ่านไปห้านาที ก็พบว่าเขานวดเอวให้ฉันจริงๆไม่ได้ทำอย่างอื่น ฉันก็อดทนไม่ไหวอีก ปิดเปลือกตาลง ฉันก็สะลึมสะลือหลับไป

เวลาที่สติกำลังเลอะเลือน ลู่จือสิงก็นำฉันกอดไว้ในอ้อมอก ฉันได้ยินเขาพูดข้างใบหูของฉัน “ขอโทษ”

เดิมทีฉันจะนอนหลับไปแล้ว ได้ยินเขาพูดสามคำนี้ ชั่วพริบตาเดียว ในหัวสมองเหมือนกับถูกชนกับอะไรบางอย่าง ชั่วพริบตานั้นฉันก็มีสติกลับมา

ดูเหมือนว่าเขานึกว่าฉันหลับไปแล้ว สองมือกอดฉันแน่น “ผมรู้ว่าผมผิด คุณอย่าไปจากผม”

ผู้ชายตัวโตขนาดนี้ อยู่ข้างกายฉันก็เหมือนกับเด็กน้อย พูดตามตรง หัวใจของฉันตอนนี้ สั่นสะเทือนจริงๆ

แต่ฉันก็รู้ ฉันไม่อาจจะเปิดปากพูด มิเช่นนั้น ลู่จือสิงก็อาจจะเก้อเขิน

ความจริงคือเหนื่อยมากจริงๆ ฉันยืนหยัดอยู่สองนาที แล้วก็นอนหลับไปเร็วมาก

เช้าตรู่ของวันถัดมาเวลาที่ตื่นขึ้นมา ลู่จือสิงก็ออกไปวิ่งแล้ว

ฉันมึนงงไปเล็กน้อย เพิ่งจะจำเรื่องเมื่อคืนได้

“สวัสดีตอนเช้า ซูซู”

เช้าตรู่ ฉันเพิ่งจะล้างหน้าบ้วนปากเตรียมตัวจะไปทำอาหารเช้า ในช่วงเวลาฉับพลันนั้นลู่จือสิงก็เข้ามากอดและจูบฉัน

ฉันยืนอยู่ตรงนั้น ผ่านไปชั่วครู่หนึ่งจึงจะตอบสนองกลับมา เขาก็วิ่งเข้าไปอาบน้ำแล้ว

จะถึงหนึ่งเดือนแล้ว ช่วงนี้อากาศหนาวมาก

เวลาที่ฉันเข้างานเพิ่งจะนึกขึ้นได้ วันหยุดปีใหม่ของฉันก็ต้องใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน

ทำงานบ้านเสร็จก็ออกมา ฉันมองเป้ยเปยที่กำลังเล่นกับลู่จือสิงอย่างมีความสุข

ไม่พูดก็ไม่ได้ เขาเป็นพ่อที่ดี ผู้ชายส่วนใหญ่กลับมาถึงบ้าน ก็ไม่สนใจลูก

แต่ลู่จือสิงไม่เหมือนกัน เพียงแค่เขากลับมาถึงบ้าน เวลาทั้งหมดก็คือเป้ยเปย หรือไปทำอาหารเย็นในห้องครัว

คิดถึงคำพูดที่เซี่ยงฉิงพูดกับฉันเมื่อวาน ฉันไม่หยุดที่จะยิ้มออกมา ฉังคงจะคิดมากไปจริงๆ

ความจริงแล้วลู่จือสิงมีความรับผิดชอบกับครอบครัวเยอะมาก ยากมากที่จะพบกับผู้ชายแบบนี้

เวลาพักผ่อนของเป้ยเปยคงที่ ช่วงฤดูหนาวก็จะนอนเยอะ หลังจากกินข้าวเสร็จก็เล่นชั่วครู่หนึ่ง สองทุ่มก็เริ่มอาบน้ำ ไม่ถึงสามทุ่มพวกเราก็พาเขาเข้านอน

เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวเจ้าหนุ่มน้อยนอนหลับเร็วมาก ฉันกับลู่จือสิงไม่ต้องเสียเวลาเยอะนำเขากล่อมก็นอนหลับแล้ว

สองสามวันมานี้เป้ยเปยตึดลู่จือสิง ดังนั้นหน้าที่กล่อมเป้ยเปยก็เป็นของลู่จือสิงโดยธรรมชาติ

ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วออกมา เขาก็ออกมาจากห้องนอนของเป้ยเปยพอดี

“นอนหลับแล้วเหรอ?”

เขาพยักหน้า เธอก็กลับไปดูเป้ยเปย

นึกถึงพรุ่งนี้ก็ต้องออกไปดูงานนอกสถานที่ ฉันจ้องมองเป้ยเปยที่กำลังหลับสนิท เพียงแค่รู้สึกว่าในใจเต็มไปด้วยความตัดใจทิ้งไม่ได้

แต่ฉันก็รู้ ถ้าไม่ไม่ตัดใจทิ้ง ฉันก็ต้องเผชิญหน้า

ถอนหายใจออกมา ฉันปิดประตูเดินออกไป

ดีที่ตอนนี้ยังเล็ก ถ้าโตขึ้น ฉับพลันนั้นฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรจึงจะดี

กลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง ลู่จือสิงกำลังอาบน้ำ ฉันเก็บกระเป๋าเดินทาง

“พรุ่งนี้คุณบินกี่โมง”

ฉันไม่คิดว่าเขาจะไปส่งฉัน ดังนั้นก็ไม่กลัวที่จะพูดออกไป “สิบโมงครึ่ง”

เขาพยักหน้า ฉันเพิ่งจะเก็บกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย ฉับพลันนั้นเขาก็เข้ามากอดฉันจากด้านหลัง “ไปตั้งหลายวัน จะคิดถึงผมไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้