"ผมเอาอาคารนี้"
"ผมจะเอาอาคารนี้"
"อาคารนี้ให้ผม"
"ถ้าอย่างนั้นผมเอาอาคารนี้แล้วกัน"
ทั้งสี่คนแย่งชิงกันซื้อเป็นคนแรกอย่างกลัวว่าจะรั้งท้ายคนอื่น โดยไม่ไตร่ตรองเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ชัชนันท์ยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าเหตุการณ์ตรงหน้านี้เป็นความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เช้ามาก็มีคนแห่มาซื้ออาคารแล้วอาคารเล่า?
ทำไมวันนี้คนมีเงินถึงได้มารวมตัวกันล่ะเนี่ย น่าจะเป็นเพราะโฆษณาได้ดีเกินไป บวกกับตำแหน่งที่ตั้งของคอนโดเธอดีเกินไป? ดังนั้นคนรวยเหล่านั้นจึงอยากจะซื้อไปลงทุน?
คิดไปคิดมาก็มีความเป็นไปได้นี้อย่างเดียว
ชัชนันท์โอบอุ้มความยินดีปรีดาเอาไว้เต็มหัวใจ ขณะพาพวกเขาหลายคนไปเซ็นสัญญา
หลังจากพวกเขาจ่ายเงินกันแล้วก็จากไป
พวกเขาทุกคนล้วนทำทุกอย่างฉับไว ไม่อืดอาดยืดยาดสักนิดเดียว
ชลิตาที่อยู่ด้านข้างโมโหจนรู้สึกแย่ และพูดอะไรไม่ออกแล้ว
เพียงแค่ครู่เดียว เธอก็เห็นชัชนันท์ขายคอนโดไปทั้งหมดสิบเก้าตึกกับตา! มุ่งตรงไปยังเป้าหมายนั้นของเธอก้าวใหญ่
หรือว่าชัชนันท์จะต้องการตบหน้าเธอจริงๆ สวรรค์จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอได้ยังไงกัน?
หลังจากชัชนันท์ส่งพวกเขาหลายคนจากไปแล้ว ก็กลับเข้าไปในห้องโถงด้วยจิตใจเบิกบาน
ภายในห้องโถงยังคงคึกคัก คนจำนวนมากถูกพนักงานขายพาไปชำระเงินและเซ็นสัญญา
ตั้งแต่เปิดตัวจนถึงตอนนี้ทุกอย่างราบรื่นมากจนทำให้รู้สึกฮึกเหิม
หลังจากมองไปรอบๆอย่างอารมณ์ดีแล้ว สายตาเธอก็ไปหยุดที่ร่างของชลิตา ท่าทางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชังของเธอนั้นตกอยู่ในสายตาของชัชนันท์ทั้งหมด
เป็นเพราะยุ่งมากเกินไป เธอจึงคร้านจะสนใจชลิตา แต่เดินตรงไปทางกลุ่มคนที่รอซื้อคอนโดเหล่านั้น และแนะนำคอนโดใหม่ให้กับทุกคนแทน
สุดท้ายชลิตาก็ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงออกจากงานไปด้วยใบหน้าทะมึนและสภาพย่ำแย่
...
จนกระทั่งสองทุ่ม คอนโดพาราวิหคก็ขายออกไปได้ 80%
สร้างบันทึกการเปิดตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด
ในทวิตเตอร์ รวมไปถึงแบนเนอร์ หน้าแรก และหัวข้อของสำนักข่าวใหญ่ๆ ล้วนพากันแย่งรายงานพิธีเปิดตัวพาราวิหคที่คับคั่งไปด้วยลูกค้าในครั้งนี้
เหล่าสื่อมวลชนชื่นชมชัชนันท์ที่เป็นประธานจัดการทุกอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น
ภายในห้องรับแขกตระกูลรัตนากรกุล สองแม่ลูกชลิตากับหทัยกำลังดูข่าวกันอยู่ ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือก็เด้งเตือนเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของพาราวิหคอย่างกะทันหัน
ชลิตาที่เดิมก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อเห็นเรื่องพวกนี้ก็รู้สึกเจ็บใจที่สุด
เธอโยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะน้ำชาทันที กระซิบด่าอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน "ทำไมหนูรู้สึกว่าชัชนันท์เล่นไม่ซื่อกัน ดูเหมือนว่าสวรรค์ก็ยืนอยู่ข้างเธอ เธออาศัยอะไรมาสร้างปาฏิหาริย์ยอดขายใหม่กัน"
ชลิตาได้ยินแล้วก็ลุกขึ้นมาบ่นอย่างไม่พอใจ "คุณพ่อคะ คุณพ่อลำเอียงเกินไปรึเปล่าคะ ตอนนี้หนูยังเข้าไปทำงานที่บริษัทไม่ได้เลย ชัชนันท์ล่ะ มาถึงก็ทำผลงานได้ดีนิดหน่อย คุณพ่อก็ให้เธอไปทำที่สำนักงานใหญ่เลย ทั้งยังมอบตำแหน่งที่สูงอย่างผู้จัดการฝ่ายขายของสำนักงานใหญ่ให้อีกด้วย"
"พ่อพูดกับแกแต่แรกแล้วนะ ว่าบริษัทของพ่อไม่มีส่วนของแก บอกแกว่าอย่าไปคิดถึงมัน แกฟังไม่เข้าใจใช่มั้ย"
"ยังมี ที่วันนี้พี่แกทำนั่นมันผลงานเล็กๆน้อยๆรึไง แกลองทำเล็กๆน้อยๆแบบนี้ให้พ่อดูบ้างสิ?"
"ทุกวันนอกจากริษยาพี่แกกับทำให้พ่อขายหน้า แกยังทำอะไรเป็นอีก ก่อนหน้านี้แกพูดว่าถ้าพี่แกขายคอนโดได้เศษหนึ่งส่วนสอง แกจะไลฟ์สดตีลังกาขับถ่ายไม่ใช่รึไง"
"แกไม่รีบไปไลฟ์สดตีลังกาขับถ่าย มาพูดพล่ามอยู่ตรงนี้ทำไม น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว" วันชัยเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังอย่างไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย
ชลิตาพูดไม่ออกทันที
เมื่อเผชิญหน้ากับการประณามรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละครั้งชลิตาก็น้อยใจจนน้ำตาเกือบจะรินไหลลงมา
ตอนนี้เขาปฏิบัติต่อเธอเกินไปแล้วจริงๆ เธอไม่รู้สึกความรักที่เขามีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ชัชนันท์กลับมาในครั้งนี้ คุณพ่อก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม! แต่ก่อนคุณพ่อไม่ได้เป็นแบบนี้!
"จะไลฟ์สดเมื่อไร บอกให้ฉันรู้ด้วย ฉันจะไปดู" ชัชนันท์ยิ้มบางๆ รอยยิ้มนี้ราวกับดวงตะวันเจิดจ้า
ตอนนี้ชลิตาอยากจะด่าเธอจริงๆ แต่กลับไม่กล้า และไม่มีจุดยืนในการด่า อารมณ์โมโหในใจเหมือนกับเปลวไฟที่ลุกไหม้ แต่กลับทำได้เพียงแค่ข่มเอาไว้
เธอข่มจนหน้าแดงก่ำ มือทั้งคู่กำหมัดแน่น
หทัยเห็นท่าไม่ดี ก็รีบก้าวเข้าไปดึงชลิตามาปกป้องไว้ด้านหลังทันที พลางมองไปทางวันชัย และเอ่ยเอาใจว่า "เอาน่ะคุณ คุณอย่าโมโหเลยนะคะ ยัยตายังเป็นเด็กคนหนึ่งอยู่เลย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...