วันชัยคร้านจะสนใจเธอ สายตามองไปทางชัชนันท์อย่างอ่อนโยน "นันท์ ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ ใช่แล้ว พ่อโอนหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของยัยตาเป็นชื่อลูกแล้วนะ"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณพ่อ" เอ่ยจบ ชัชนันท์ก็ยิ้ม เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มวันชัยเบาๆ จากนั้นก็ลากสังขารที่อ่อนเพลียขึ้นไปชั้นบน
วันชัยถลึงตาใส่พวกเธอสองแม่ลูกอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ขึ้นไปด้านบนด้วยความโมโห
"ถ้าหากว่าให้ชัชนันท์ได้แสดงความสามารถต่อไปล่ะก็ ทรัพย์สินและธุรกิจของตระกูลรัตนากรกุลจะตกเป็นของเธอแล้วจริงๆ!" ชลิตามีสีหน้าลนลาน
"ดังนั้นพวกเราต้องจัดการเธอสักหน่อย" ก้นบึ้งนัยน์ตาของหทัยเต็มไปด้วยแผนการกะทันหัน
"เรื่องที่ให้ลูกไปสืบก่อนหน้านี้ สืบไปถึงไหนแล้ว" หทัยเอ่ย
"กำลังสืบอยู่ค่ะ"
...
"คุณชายห้า นี่คือใบเสร็จซื้อคอนโดในวันนี้ที่คุณกรรณ คุณจิตริน ยังมีคุณคมสัน ส่งมาให้คุณดูครับ"
หน้าโต๊ะทำงานที่ทำจากไม้ประดู่ซึ่งมีเอกสารกองสุมกันเป็นภูเขาสูง แทนไทค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้า เกริกด้วยสายตาเย็นชา"
เกริกดันแว่นกรอบบนจมูกอย่างเอื่อยเฉื่อย จากนั้นก็วางใบเสร็จกองใหญ่ลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว
"ทำไมต้องเอาพวกนี้มาให้ฉัน" เอ่ยจบ แทนไทก็ขมวดคิ้วน้อยๆ
"น่าจะต้องการพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าพวกเขาซื้อแล้วจริงๆ" เกริกตอบด้วยท่าทางเคารพนบนอบ
"โยนทิ้งไปเถอะ" เขาเอ่ยเรียบๆ
เกริกพยักหน้าด้วยความเคารพ "ครับ"
"นี่คือสัญญาและใบเสร็จที่พวกเราซื้อคอนโดครับ เชิญคุณดูสักหน่อย" เอ่ยแล้ว เกริกก็นำแฟ้มเอกสารหนาเตอะสีแดงวางลงตรงหน้าแทนไท
"รู้แล้ว ออกไปเถอะ"
เอ่ยจบ ชายหนุ่มก็ทอดสายตามองหน้าจอโทรศัพท์มือถือ อ่านรายงานข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวพาราวิหค
อ่านถึงตอนท้าย มุมปากเขาก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ ก้นบึ้งนัยน์ตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
แสงไฟสว่างไสวในเมืองนอกกระจกบานใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง แสงไฟแสบตานั้นทำให้เมืองสินธุมีสีสันหลากหลาย
เพียงแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ทัศนียภาพที่งดงามเพียงใดก็เป็นได้เพียงแค่ฉากหลังตลอดกาล
...
เหนื่อยมาทั้งวัน ชัชนันท์นอนแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่อย่างสบาย พร้อมกับแปะแผ่นมาร์คหน้า
หลังจากนั้นก็ไปนั่งบนเตียง พลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดไลน์
สายตาตกลงบนช่องแชทของเธอกับห้าโดยไม่รู้ตัว แต่เวลาในการส่งข้อความยังคงหยุดนิ่งอยู่ที่ตอนเธอเอ่ยถามเลขบัญชีของเขาก่อนหน้านี้
ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ตอบกลับข้อความใดๆเธอเลย
เธออดไม่ได้ที่จะบ่นงึมงำในใจ "คนคนนี้ประหลาดจริงๆ"
ต่อมาเธอก็ส่งอีกข้อความหนึ่งไปให้อีกฝ่ายอีกครั้ง "???? เลขบัญชี"
ทางฝ่ายนั้นยังคงไม่มีการตอบกลับได้ๆ
ชัชนันท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจก็คิดว่าตอนนี้คนที่ติดเงินล้วนเป็นเจ้านายไม่ใช่หรอ ทำไมพอถึงพวกเขามันดันกลับกันล่ะ
เธอที่เป็นคนติดเงินถึงกับต้องตามขอร้องเจ้าหนี้ของตัวเองเพื่อคืนเงิน? คนคนนี้มีความแค้นอะไรกับเงินรึไง
หลังจากพร่ำบ่นในใจแล้ว เธอก็ส่งข้อความไปหาอีกฝ่ายอีกรอบ "ฮัลโหล คุณอยู่มั้ย"
ผ่านไปสิบห้านาที ทางนั้นก็ตอบกลับมาสองคำว่า "ไม่ต้อง"
ชัชนันท์ไม่พอใจอยู่บ้าง จึงส่งข้อความเสียงไปถามว่า "ทำไมล่ะ ก่อนหน้านี้คุยกันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรอ"
"ห้าแสน เดิมคือเงินที่คุณให้ผม" ทางฝ่ายนั้นพิมพ์ตอบเป็นตัวอักษรกลับมาทันที
"นั่นคือเงินค่าปิดปากที่ฉันให้คุณ" ชัชนันท์ก็ตอบเป็นตัวอักษรกลับไปเช่นกัน
เธอมักจะรู้สึกว่าชัชนันท์อาจจะปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ ดังนั้นจึงหาคนไปสืบ
"สืบเจอแล้วครับ แต่ผมไม่รู้ว่าจะนับเป็นข่าวฉาวได้รึเปล่า" ฝ่ายนั้นเอ่ยต่อ
"รีบพูดมา" นัยน์ตาทั้งคู่ของชลิตาเริ่มเป็นประกาย ในใจเต็มไปด้วยการเฝ้ารอ
"ผมสืบพบว่าระหว่างที่ชัชนันท์อยู่ประเทศYได้แต่งงานแล้ว คนที่แต่งด้วยมีชื่อว่าแทนไท"
"อะไรนะ? คุณพูดว่าชัชนันท์แต่งงานแล้ว จริงหรือเท็จกันแน่เนี่ย?" สายตาชลิตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
"ครับ แต่ว่าข้อมูลของแทนไทผู้เป็นสามีเธอนั้น ทางผมสืบไม่เจออะไรเลย"
"สืบไม่พบหมายความว่าอะไร" ชลิตาไม่เข้าใจ
"สืบฐานะไม่พบมีความน่าจะเป็นอยู่สองแบบ แบบแรกคนคนนี้ฐานะสูงส่งมาก ข้อมูลส่วนตัวล้วนจงใจปกป้องเอาไว้ อีกแบบคือในระบบไม่ได้มีการอัพเดทข้อมูลของคนคนนี้ใหม่"
ชลิตาแค่นเสียงเย็น "จะมีฐานะสูงส่งเป็นพิเศษได้ยังไงกัน? ในเมื่อสืบไม่พบก็ช่างมันเถอะ อีกครู่หนึ่งฉันจะโอนเงินให้คุณ ส่งข้อมูลที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอแต่งงานแล้วไปที่อีเมล์ฉัน"
เอ่ยจบเธอก็วางสาย นี่จะไม่นับเป็นข่าวฉาวได้ยังไง นี่มันนับแน่นอน!
ตอนนี้เธอมั่นใจมากว่าการแต่งงานของชัชนันท์ไม่ใช่คนที่สามารถนำมาออกงานได้
ยกตัวอย่างเช่นหากฐานะโดดเด่นล่ะก็ เมื่อเธอกลับมาจะต้องบอกคนในบ้านทันทีแน่นอน หรือไม่ก็บอกตอนที่จะแต่งงาน
ตอนนี้การที่เธอปิดปากเงียบไม่พูดอะไร มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ สามีคนนั้นของเธอไม่ควรค่าจะพามาแสดงตัวด้วยซ้ำ ไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่มีชนชั้นต่ำต้อย!
สาเหตุที่ไม่เอ่ยถึงในตอนที่จะแต่งงาน ก็เป็นเพราะว่าฐานะฝ่ายตรงข้ามไม่โอเค กลัวว่าที่บ้านจะต่อต้าน ดังนั้นจึงตัดสินใจดำเนินการเองทั้งหมดแทน
ตอนนี้เธออยากรู้มากว่า หากคุณพ่อรู้ว่าถูกชัชนันท์ลูกสาวสุดที่รักที่ตั้งความหวังไว้สูงของตัวเอง ไม่เพียงแต่ลอบหาคนที่ไม่สามารถพาออกงานได้คนหนึ่งลับหลังตัวเองเงียบๆ แต่ยังแต่งงานเงียบๆแบบนี้ด้วย จะมีปฏิกิริยาแบบไหนกันแน่นะ?
ถึงตอนนั้น เขายังจะโหวกเหวกว่าชลิตาสู้ชัชนันท์ไม่ได้อีกมั้ย
เขายังคิดจะมอบรัตนากรกุลกรุ๊ปของตัวเองให้กับชัชนันท์ที่ไม่ได้เรื่องจนทำให้ผู้คนผิดหวังคนนี้อีกมั้ย
ในบ้านจะยุ่งวุ่นวายรึเปล่า ชัชนันท์จะถูกคุณพ่อตบตีเลยมั้ยนะ หรือว่าถูกไล่ออกจากตระกูล เพียงแค่จินตนาการถึงภาพเหตุการณ์นั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองสะใจมากแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...