เธอไม่กล้าพูดความจริงกับพ่ออย่างแน่นอน
พ่อเธอเป็นพวกหัวโบราณซะยิ่งกว่าใคร ถ้าเขารู้ว่าเธอหาคนแปลกหน้ามาจดทะเบียนด้วยเพียงเพราะอยากกอบกู้หน้าตา และมีแค่การแต่งงานในนาม สุดท้ายก็ต้องมีประวัติการหย่าในหนังสือแต่งงานล่ะก็ เขาคงได้ระเบิดออกมาแน่ๆ
เขาอาจจะยังคิดว่าเธอปล่อยตัวปล่อยใจไม่รักตัวเองอีกด้วย
ถ้าพูดความจริงกับเขาแล้วทำให้เขาโกรธ สู้แต่งเรื่องขึ้นมาใหม่ดีกว่า ให้เขาคิดว่าสามีของเธอแสนดีมาก แบบนี้เขาถึงจะสบายใจหน่อย
ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องแต่งเรื่องขึ้นมาให้สมบูรณ์แบบและสมเหตุสมผล ต้องทำยังไงก็ได้ให้เธอดูมีความสุขในเรื่องราวที่แต่งขึ้นมานี้
พูดจบชัชนันท์ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินมาตรงหน้าวันชัยแล้วคุกเข่าลง เอ่ยพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า "ขอโทษนะคะพ่อ หนูไม่ควรทำเรื่องแบบนั้นลับหลังพ่อเลย"
ประโยคนี้เธอพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดจากใจ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จริงๆแล้วเธอเองก็รับไม่ได้เหมือนกัน ที่ตัวเองเอาแต่ปิดบังคนเป็นพ่อมาตลอด แต่ว่าตอนนั้นเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ
ตอนนั้นถ้าเธอไม่กอบกู้โฉมหน้ากลับมา หลายๆเรื่องก็คงจะไม่ราบรื่น อีกอย่างเธอไม่อยากเป็นคนอัปลักษณ์ ให้ชลิตาคอยเหยียบย่ำเล่นหรอกนะ
เมื่อชลิตากับหทัยเห็นแบบนั้น ก็แอบยิ้มให้กันอย่างลำพองใจ ต่อมาก็ทอดสายตาไปที่วันชัย รอเขาให้ลงโทษแก่ชัชนันท์
"แกคิดว่าแกทำอย่างนี้แล้วพ่อจะปล่อยแกไปง่ายๆเหรอ? ใสซื่อเกินไปหรือเปล่า?" ชลิตาแสยะยิ้ม
เมื่อได้ยินเรื่องเล่าของเธอ และเมื่อได้เห็นท่าทางจริงใจของเธอในขณะนี้ หัวใจของวันชัยก็พลันอ่อนยวบ หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นก็ค่อยๆคลายออก
เขาถอนหายใจออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้ จากนั้นก็พยุงชัชนันท์ขึ้นมาช้าๆ ให้เธอนั่งลงข้างๆเขา ไม่ได้สนใจชลิตาเลยสักนิด
ต่อมาก็จับมือของชัชนันท์ไว้แน่น เอ่ยพูดว่า "พ่อเข้าใจ เวลาเจ็บปวดในตอนที่อยู่คนเดียว พอมีมือคู่หนึ่งยื่นเข้ามาให้จับ แกก็คงไม่ปฏิเสธเป็นธรรมดา"
ปฏิกิริยาตอบกลับของวันชัยทำให้ชลิตาและหทัยต่างเบิกตาอ้าปากค้าง ใครก็คาดคิดไม่ถึงว่าวันชัยจะพูดดีขนาดนี้!
อุตส่าห์ปู่เสื่อรอดูอะไรสนุกๆ ผลกลับกลายมาเป็นอย่างนี้เนี่ยนะ?!
ทั้งสองกำหมัดแน่นอย่างโกรธๆ
"คนคนนั้นทำให้แกได้เกิดใหม่ และหลานชายของเขาก็แสนดีขนาดนั้น ถ้าแกจะตอบแทนบุญคุณด้วยวิธีนี้ก็พอจะเข้าใจได้ การรู้จักสำนึกบุญคุณก็คือคุณธรรมอย่างหนึ่ง"วันชัยเอ่ยขึ้นมา
เมื่อเห็นวันชัยมีปฏิกิริยาแบบนี้ ชัชนันท์ก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อเขา ดวงตาทั้งสองข้างของเธอพลันแดงก่ำขึ้นมา "ขอโทษนะคะพ่อ"
"ก็สมควรขอโทษจริงๆนั่นแหละ ตอนแรกแกน่าจะปรึกษาพ่อก่อน พ่อจะไม่เพียงแค่อนุญาตยังจะจัดงานให้แกอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติด้วยซ้ำ"พูดมาถึงหัวข้อนี้ ใบหน้าของวันชัยก็หม่นลง
"ขอโทษค่ะ......"
"เอาล่ะหยุดขอโทษได้แล้ว ว่าแต่เขาทำงานอะไร? ในเมื่อเป็นทายาทของหมอเทวดา หน้าที่การงานก็คงไม่แย่หรอกใช่ไหม?" ดวงตาของวันชัยเต็มไปด้วยความเป็นห่วง เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว แถมทุกอย่างก็ดูมีเหตุผลไปหมด เขาก็คงทำได้แค่ยอมรับมัน
"ช่วงนี้เขากำลังเรียนแพทย์แผนจีนกับหมอเทวาอยู่ วางแผนไว้ว่าหลังจากเรียนจบก็จะกลับมาเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน" ชัชนันท์เอ่ยขึ้น
"เขาอายุเท่าไหร่?" วันชัยเอ่ยถาม
"ยี่สิบแปดค่ะ" ชัชนันท์เอ่ยพูดอย่างไม่หยุดคิด
ถึงเธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องอื่นของสามีคนนั้น แต่ก็พอรู้ว่าอายุเท่าไหร่
"พ่ออย่าไปเชื่อนะชัชนันท์แต่งเรื่องขึ้นมาทั้งนั้น ทั้งหลานหมอเทวดาทั้งเรื่องแพทย์ ตาว่าชัชนันท์แต่งเรื่องโกหกทั้งเพ"
"เหตุผลที่แท้จริงก็คือ เธอได้สามีไม่ได้เรื่อง ก็เลยไม่บอกพ่อยังไงล่ะ"ชลิตาเอ่ยจี้จุด
"งั้นก็ลองไปสืบดูนะว่า ที่ประเทศYมีบุคคลเก่งกาจที่ชื่อหมอเทวดาหรือเปล่า แล้วเขามีหลานชายหรือไม่......เธอขุดเก่งไม่ใช่เหรอ? ไปขุดมาก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง?"ชัชนันท์เอ่ยพูดอย่างหนักแน่นมั่นใจ
"แกหุบปากไป แกมันชอบกวนน้ำให้ขุ่น"วันชัยดุเสียงเย็น
พอได้รู้สึกว่าเธอขัดหูขัดตา ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เขาก็รู้สึกขวางหูขวางตาไปหมด
ชลิตากำลังจะเถียง หทัยเห็นแบบนั้นก็รีบเข้าไปปิดปากเธอเอาไว้ พร้อมกับหยิกต้นขาเธอแรงๆ กระซิบเตือนเสียงเบาว่า "แกหุบปากไปเลย!ไม่เห็นหรือไงว่าพ่อแกกำลังโกรธอยู่"
"เปิดโรงพยาบาลก็ดีเหมือนกัน ถ้าเขามีอะไรอยากให้ช่วยพ่อจะช่วย"วันชัยเอ่ยขึ้น
แม้ว่าตระกูลแพทย์จะสู้ตระกูลร่ำรวยอย่างพวกเขาไม่ได้ แต่ก็ยังถือว่ามีหน้ามีตา ซึ่งเขาค่อนข้างพอใจ
"ฮ่าๆๆ ไม่ว่ายังไง ก็คงหล่อไม่เท่าพี่วินของฉันหรอก......"ชลิตาตะโกนตามหลังเธอ
มาวินเกิดมาร่ำรวย แถมหน้าตาหล่อเหลา แค่ผู้ชายเรียนแพทย์ธรรมดาๆจะมาสู้ได้ยังไง?
เอาแค่ออร่า คนระดับสูงกับคนธรรมดาก็ต่างกันแล้ว
"......."ชัชนันท์ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป คำพูดของอีกฝ่ายแทบจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเธออยู่แล้ว
เมื่อชัชนันท์กลับมาที่ห้อง นลินก็โทรมาหา
เมื่อเห็นชื่อนลินที่แสดงอยู่บนหน้าจอ เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเธอนี่มันช่างรู้ใจกันจริงๆ เมื่อกี้เธอก็ว่าจะโทรหานลินอยู่พอดี กลับกลายเป็นว่านลินโทรมาหาก่อนซะงั้น
ชัชนันท์กดรับสายทันที "กำลังจะโทรหาแกพอดีเลย ฉันขอยืมตัวน้องชายแกไปงานแต่งชลิตาหน่อยสิ ช่วยสวมรอยเป็นแทนไทให้หน่อย ความเป็นไปไม่ได้ที่เราคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ชลิตาทำให้มันเป็นไปได้แล้วนะ"
ในสถานการณ์แบบนี้เธอจะพาแทนไทตัวจริงมาไม่ได้ เพราะเขาไม่มีทางให้ความร่วมมือกับเธอแน่นอน
ตอนที่เธอกับนลินถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนั้นถึงพวกเธอจะรู้สึกว่าคงไม่มีทางเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่ลืมวางแผนให้รอบคอบ วางเส้นเรื่องราวแสนสมบูรณ์แบบของเธอกับสามีคนนั้นออกมา แถมยังสร้างตัวตนให้เขาอย่างมีเหตุมีผล
ตอนนั้นนลินเคยเสนอว่า ถ้ามันจำเป็นก็ให้น้องชายของเธอที่เรียนแพทย์มาช่วยแสดงเป็นแทนไทให้ชั่วคราว
หลังจากนั้นรอจนครบสัญญาสามปี พอเธอกับแทนไทหย่ากันจริงๆ ก็กลับมาบอกพ่อว่าหย่ากันแล้ว เพราะเข้ากันไม่ได้
เหตุผลที่พวกเธอกล้าคิดแบบนี้ นั่นก็เพราะว่านลินอยากรู้ว่าแทนไทหน้าตาเป็นยังไงมาตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงเคยสืบเรื่องของเขาอยู่ครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไรอยู่ดี
ต่อมา เสียงร้องไห้ก็ดังมาจากปลายสาย
ตั้งแต่ที่เธอรู้จักนลินมา ยังไม่เห็นนลินเป็นอย่างนี้มาก่อน เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นหญิงแกร่งที่ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ราวกับว่าไม่มีอะไรมาทำอะไรเธอได้ และไม่บ่อยนักที่เธอจะร้องไห้
"นลิน เป็นอะไรไป?"ชัชนันท์เอ่ยถามอย่างกังวล
"น้องชายฉันเสียแล้ว ที่ฉันโทรมาหาแก ก็เพราะอยากจะขอลาหยุดสักหนึ่งอาทิตย์ได้ไหม?" คนในสายสะอื้นฮัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...