หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 57

เหลือบมองข่าวมือของชลิตาทีหนึ่ง ชัชนันท์ก็รีบกดเข้าไปในข่าวของพาราวิหค

ด้านบนสุดของกระดาษคือการแถลงการณ์ของรัตนากรกุลกรุ๊ป รวมไปถึงหลักฐานการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ

ความหมายคร่าวๆ ก็คือก่อนหน้านี้เรื่องที่ไม่ดีเกี่ยวกับพาราวิหค เป็นเพราะมีคนจงใจปล่อยข่าวลือ จากนั้นพวกเขาก็จะดำเนินการตามกฎหมายกับอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือแต่พาราวิหคก็ยังขายหมดไปในเมื่อวาน ใช้เวลาไป 6 วัน

ส่วนใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ บัญชีเน็ตรัตนากรกุลกรุ๊ปไม่ได้แจ้ง ในเอกสารอย่างเป็นทางการก็ไม่มี

ชัชนันท์รู้ว่านี่เป็นความหมายของพ่อ ตระกูลรัตนากรกุลเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าเกิดปล่อยออกไปต้องเป็นเรื่องตลกสำหรับคนอื่นแน่ๆ

เธอเข้าใจได้

ในเมื่อพ่อเลือกที่จะทำแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอเองก็เลือกที่จะเคารพการตัดสินของเขา

ทวิตเตอร์ด้านล่างของรัตนากรกุลกรุ๊ป เต็มไปด้วยคำด่า ชาวเน็ตเหมือนมีศัตรูคนเดียวกัน:

"ทำไมรัตนากรกุลกรุ๊ปต้องปกป้องคนคิดร้ายคนนั้นด้วย? คนชั่วคนนี้เป็นใครกันแน่? รัตนากรกุลกรุ๊ปขอโทษ"

"หวังว่าคนที่ปล่อยข่าวลือนั้นเป็นมะเร็งสมอง อายุยืนยาวโรคเต็มตัว"

"ตามที่ฉันรู้พนักงานขายของพาราวิหค แล้วก็การจัดการปัญหาต่างๆ เป็นชัชนันท์ คุณหนูใหญ่รัตนากรกุลกรุ๊ปรับมือทั้งหมด คนสวยขนาดนี้ยังเก่งขนาดนี้เลยเหรอ? 6วันนะ ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศเลย"

"เป็นคนตระกูลรัตนากรกุลเหมือนกัน ชัชนันท์และชลิตาทำไมถึงต่างกันขนาดนี้? คนหนึ่งวันๆ ก้มหน้าก้มตาทำเรื่องใหญ่อย่างเดียว อีกคนหนึ่งก้มหน้าก้มตาสร้างปัญหาไม่หยุด"

มองดูพวกคำด่านี้ ชัชนันท์ก็รู้สึกว่าหนอนง่วงบนตัวหายไปหมดแล้ว

เลื่อนดูไปสักพัก เธอถึงจะถอยออกจากหัวข้อ ในตอนนี้เองเธอก็เห็น #พาราวิหคขายหมด#ได้เป็นค้นหายอดนิยมอันดับสาม และความร้อนก็ไม่หายไปเลย

ข้างในจะพูดอะไรบ้าง เธอไม่ต้องคิดก็รู้แล้ว ดังนั้นก็ถอยออกจากทวิตเตอร์โดยตรง ไม่มีความอยากดูต่อไปแล้ว

"ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด——"

ในเวลานี้เอง วารีก็โทรเข้ามา

ชัชนันท์รีบกดรับสายทันที:

"ชลิตาเอาความผิดทุกอย่างไว้บนตัวของตัวเอง สำหรับทางฝั่งของหทัย ตายก็ไม่ยอมรับ เพราะว่าหลักฐานไม่เพียงพอก็เลยต้องปล่อยไป"

"ส่วนชลิตาเป็นสตรีตั้งครรภ์ ตัดสินโทษจะถูกตัดสินโทษ แต่จะถูกตัดสินให้ปฏิบัติอยู่นอกเรือนจำ" ทางวารีพูดออกมาทีละคำอย่างตั้งใจ

สำหรับพวกนี้ ชัชนันท์ไม่ใช่ว่าจะเดาไม่ได้ ในใจไม่มีความรู้สึกอะไรมาก

"สตรีมีครรภ์?" ชัชนันท์ขมวดคิ้ว พูดจบก็หึอย่างเย็นชาทีหนึ่ง

"อื้ม เพราะว่าเรื่องนี้เธอก็เข้าใจ แต่ว่า มีเรื่องหนึ่งแปลกๆ " น้ำเสียงของทางฝั่งวารีจู่ๆ ก็จริงจังขึ้นมา

"อะไร?" ชัชนันท์สงสัยมาก

"ได้ยินว่ามีคนสั่งมาโดยเฉพาะ อย่าปล่อยสองแม่ลูกนั้นออกไปเร็วเกิน"

คำพูดที่เข้าหูนั้น ทำให้ชัชนันท์ไม่กล้าเชื่อ "อะไรนะ?"

นอกจากพ่อของตัวเอง เธอคิดไม่ถึงว่าจะมีคนอื่นทำแบบนี้ด้วย

เธอคิดไม่ถึงว่าพ่อจะทำถึงขั้นนี้ ถ้าไม่ปล่อยออกมาในระยะเวลาสั้นๆ สองแม่ลูกคู่นั้นต้องเป็นบ้าแน่ๆ เพราะงานแต่งใกล้จะถึงแล้ว

ชัชนันท์แสยะยิ้มทีหนึ่ง ถามอย่างเสียงอ่อนว่า "พ่อของนันท์เหรอ?"

"ได้ยินว่าเป็นคนใหญ่คนโต แต่รายละเอียดเป็นใครนั้นขนาดคุณลุงของเธอยังไม่รู้เลย คนนั้นยังบอกอีกว่าจะขังสองแม่ลูกนั้นไว้จนถึงในวันแต่งงาน 11 โมง"

"คนนั้นยังสั่งสถานีตำรวจว่าให้พูดกับข้างนอกว่า ได้ปล่อยตัวออกมาก่อนงานแต่งวันหนึ่ง"

ชัชนันท์ตะลึงเล็กน้อย

คนใหญ่คนโต? พวกเขาสองแม่ลูกนอกจากพ่อของเธอแล้ว ยังไปทำอะไรให้ใครอีก

ตั้งใจบอกให้คนภายนอกว่าจะปล่อยชลิตาออกมาก่อนวันแต่งหนึ่งวัน เห็นได้ชัดว่าเพื่อไม่ให้ทางฝั่งตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์นั้นจัดงานแต่งขึ้นมา

และถ้างานแต่งจัดขึ้นมาตามปกติ เวลาก็ไม่เปลี่ยน วันที่พวกเธอสองแม่ลูกถูกปล่อยออกมานั้น ไม่มีเวลาไหนที่สามารถแต่งตัวตัวเองดีๆ

เพราะงานแต่งของชลิตานั้นจะจัดขึ้นมาในเวลาเที่ยงตรง เวลาหนึ่งชั่วโมง จะทันได้ยังไง?

คนนี้ต้องเกลียดสองแม้ลูกนี่แค่ไหนเนี่ย? ถึงได้ทำแบบนั้นกับพวกเขา

ถ้าเป็นแบบนี้ คนนั้นต้องไม่ใช่พ่อแน่ๆ แล้วเป็นใครกันแน่?

ชัชนันท์มองดูก็รู้เลยว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนดีๆ รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก

เธอรีบเดินไปนั่งลงข้างๆ วันชัย แล้วเอาผมไปไว้ข้างหลังอย่างธรรมชาติ มองเขาอย่างอ่อนโยน "พ่อ ยังไหวไหม?"

ที่จริงไม่ต้องถาม เธอก็รู้ เขาไม่ไหว

ถ้าเปลี่ยนเป็นใครก็ตาม เจอเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยดี ถึงแม้ว่าเขาจะดุแม่ลูกนั้นอย่างโหด แต่ว่าในใจไม่ใช่ว่าไม่รัก ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจ

ถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายใส่ จนต้องทนหย่าอย่างทรมาน ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ เธอเองก็ไม่ไหวหรอก

ทุกคนต่างมีความรู้สึก

"อื้ม" วันชัยวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วมองชัชนันท์ด้วยสีหน้าหน้าเฉยๆ

"ความเจ็บทุกอย่างจะผ่านไป หนูจะอยู่กับพ่อเอง" ชัชนันท์ค่อยๆ จับมือของเขาแล้วพูด

วันชัยตาแดงขึ้นมาทันที แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่พยักหน้าแล้วตบหลังของเธอบาๆ

จากนั้น เขาก็เอาแซนด์วิชขึ้นมาชิ้นหนึ่ง วางไว้ตรงหน้าของชัชนันท์ "เอาล่ะ กินข้าว ไม่พูดเรื่องไม่มีความสุขพวกนี้แล้ว"

"อื้ม ท่านก็กินเยอะๆ หน่อย" ชัชนันท์พยักหน้า รู้สึกไม่เป็นสุขเป็นอย่างมาก

"นันท์ ลูกพักผ่อนอีกหน่อยแล้วไปที่บริษัทใหญ่โดยตรงเถอะ ทำตามที่ครั้งก่อนพูดไว้ รับหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายขาย พ่อหวังว่าลูกจะสามารถทำผลงานดีๆ ออกมาอีก" วันชัยกินแซนด์วิชไปช้าๆ แล้วพูดไปด้วย

"ค่ะ จะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง" ชัชนันท์มีความมั่นใจ

"อื้ม พ่อเชื่อในความสามารถของเธอ" วันชัยพูด

......

ในเวลาเดียวกัน อีกด้านของห้องขังที่หนึ่ง

ชลิตาและหทัยแม่ลูกทั้งสองคนพึ่งกินข้าวเสร็จ กำลังยืนล้างถ้วยจานช้อนซ้อมอยู่ข้างหลังห้องครัว

ข้างๆ ทั้งสองคน เต็มไปด้วยถ้วยจานช้อนซ้อมตะเกียบที่มีคราบน้ำมันและผักเป็นใบๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว