หลินไป๋หลัน นิยาย บท 47

เฉินหยาง ไป๋หลันและมีมี่ นั่งคุยกันเรื่องร้านคาเฟ่ของพวกตนแบบคร่าวๆตามที่ใจนึกไว้โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง  จนกระทั่งมีบุคคลคนหนึ่งมายืนอยู่ด้านข้างของโต๊ะอาหารที่พวกตนนั่งอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมอง

"หลินเฟิ่งจิ่ว!!" เฉินหยางอุทานออกมาอย่างตกใจไม่คิดว่าจะได้เจอคนรู้จักรวดเร็วเช่นนี้ เมืองหลวงออกจะกว้างใหญ่ใยจึงต้องมากินอาหารที่ร้านเดียวกันด้วย

"อ้อ…ที่แท้ก็พวกเจ้านี่เองไม่ได้เจอกันเสียนาน ยังไม่ตายอีกหรือ อุ๊ย...พูดผิดสบายดีหรือ" หลินเฟิ่งจิ่วพูดพร้อมกับลอยหน้าลอยตาอย่างถือดี

"พวกข้าสบายดียังไม่ตาย เชิญพวกเจ้าตามสบาย อย่ามารบกวนพวกข้าเลย" ไป๋หลันเอ่ย จริง ๆ นางอยากจะบอกว่าไปไกล ๆ อย่ามาเสือกแถวนี้ต่างหากแต่ยังยั้งคำพูดเอาไว้ให้เข้ากับยุคสมัยหน่อย

“เช่นนั้นก็ดี ฮึ!" หลินเฟิ่งจิ่วเค้นเสียงออกมาจากลำคอ คอยดูเถอะทำเป็นหยิ่ง เฟิ่งจิ่วเดินกลับมานั่งยังโต๊ะของตนด้วยใบหน้างอง้ำ

"ใครกันหรือเฟิ่งจิ่วดูหล่อเหลายิ่งนัก" หลี่ฟางเซียนเอ่ยถามอย่างสนใจเมื่อเห็นสหายไปยืนพูดคุยกับบุรุษรูปงามที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

"ญาติผู้พี่ของข้าเอง เจ้าอย่าไปสนใจเลยข้ามองไม่เห็นจะหล่อเหลาตรงไหนสู้องค์ไท่จื่อก็ไม่ได้" หลินเฟิ่งจิ่วเอ่ยอย่างชื่นชม ตนเองนั้นหมายมั่นจะต้องได้ตำแหน่งพระชายามาครอบครองให้ได้

หลินเฉินหยางและสองสาวนั่งกินอาหารและขนมกันโดยมีสายตาของหลี่ฟางเซียนคอยจ้องมองและคอยส่งยิ้มหวานมาให้ จนมีมี่อดเบ้ปากใส่ชายตรงหน้าไม่ได้

“พี่หยางมีสาวสวยส่งยิ้มหวานมาให้ท่านก็ยิ้มไม่หุบเลยนะ" มีมี่เอ่ยแซวพี่ชายบุญธรรม

"พี่ก็แค่ยิ้มตอบตามมารยาทเท่านั้นแหละมี่เอ๋อร์"

"เรารีบกินรีบไปกันเถอะพี่ใหญ่ มีมี่ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ รู้สึกถึงรัศมีอาฆาตฟาดฟันอยู่ตลอดเวลาเลย" ไป๋หลันเอ่ย เมื่อกันไปมองยังโต๊ะเจ้าปัญหาก็พบศัตรูจ้องตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าทุกที

เมื่อกินเสร็จเรียบร้อยก็เรียกจ่ายเงินแล้วรีบเดินออกจากโรงเตี๊ยมทันที พวกนางเดินมายังอาคารตรงมุมถนนกลางตลาดที่ทำเลดีเหมาะแก่การทำร้านคาเฟ่ของตน จึงตกลงซื้อขายกันในราคาสูงลิบลิ่วถึงว่าทำเลดีแต่ไม่มีคนมาเช่าหรือมาซื้อมันเป็นเช่นนี้นี่เอง แต่นางไม่สนใจหรอกเพราะมันเหมาะมากจริง ๆ

ภายในตัวอาคารเป็นพื้นที่โล่งมีสองชั้น ไป๋หลันและมีมี่ เดินสำรวจชั้นล่างและชั้นบน ต่างช่วยกันวาดแบบออกแบบส่วนมากที่พวกนางวาดกันออกมาจะเป็นแนวของโลกเก่าเพราะมันดูทันสมัยแปลกตาดี

เมื่อวางแผนเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินไปยังร้านช่างไม้เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านทันที ไป๋หลันยื่นแบบให้นายช่างดู คราแรกนายช่างสงสัยเพราะมันสวยงามดูแปลกตา แต่ก็ทำไม่ยากเพราะนางอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดและบอกให้นายช่างทำงานชิ้นใหญ่ ๆ ไปก่อน อย่างเช่นทำระแนงด้านหน้าสองข้างเว้นช่องทางเข้าเอาไว้ทำเป็นบานเลื่อนแทนตอนเปิดร้านจะได้ดูโปร่งสบายตา ชั้นสองให้กั้นเป็นห้องสิบห้องโดยแบ่งเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นางจะอธิบายให้ฟังอีกที หลังจากว่าจ้างนายช่างเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกจากร้าน

"พี่ใหญ่ข้าว่าเราเอาโอสถไปขายกันเถอะไม่ได้เอาออกมาขายนานแล้ว" ไป๋หลันเอ่ย เพราะนางเห็นชื่อร้านหอหมื่นโอสถตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตลาดและอีกอย่างหนึ่งเงินของก็พร่องลงไปเยอะมากแล้วด้วย

"แล้วแต่เจ้าเถิดหลันเอ๋อร์" เฉินหยางเอ่ย

เมื่อตกลงกันเรียบร้อยทั้งสามคนก็ก้าวเท้าเดินไปยังร้านหอหมื่นโอสถทันที

"ยินดีต้อนรับขอรับคุณชายคุณหนูทั้งสอง ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้หรือขอรับ" คนงานหน้าร้านเอ่ยถามอย่างนอบน้อม พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายหยกของผู้อาวุโสที่ห้อยอยู่ที่สตรีน้อยนางหนึ่งก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย

"พวกข้านำโอสถมาขายที่นี่รับซื้อหรือไม่เจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถาม

"เช่นกันเจ้าค่ะผู้อาวุโสหม่า" ไป๋หลันเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"ข้าจะไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลาข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับเจ้าเกี่ยวกับการคัดเลือกศิษย์ที่จะถึงนี้" อาวุโสหม่าเอ่ยเข้าเรื่องที่ตนเองคาดหวังเอาไว้ทันทีอย่างไม่อ้อมค้อม

"อย่างไรหรือเจ้าคะ พอดีข้าและพี่สาวก็กำลังปรึกษากันเรื่องนี้อยู่พอดีว่าจะไปงานคัดเลือกศิษย์ แต่ก็ยังไม่แน่ใจเพราะกิจการร้านน้ำชาที่กำลังทำอยู่อาจแล้วเสร็จไม่ทันการ" 

"เช่นนั้นก็ดีเลย ข้าอยากให้พวกเจ้ามาเป็นศิษย์ของข้าเจ้าสนใจหรือไม่ สำนักเซียนโอสถถึงแม้จะเน้นด้านการปรุงยา แต่ก็มิใช่เสมอไปเพราะบางคนมีพลังสองสาย คือสายฝึกยุทธ์และสายปรุงยา สำนักเซียนนั้นมีอาจารย์ทั้งหมดห้าท่านรวมทั้งตัวข้าที่เป็นเจ้าสำนักด้วย และอาจารย์ทุกท่านล้วนมีพลังฝึกสองสายด้วยกันทั้งสิ้น" ผู้อาวุโสเอ่ยยืดยาวให้เด็กสาวตรงหน้าฟัง เขาเชื่อในสัญชาตญาณของตนเองว่าพวกนางย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

"แล้วพวกเราต้องทำอย่างไรบ้างเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถามอย่างสนใจ

"พวกเจ้าแค่กราบข้าเป็นอาจารย์แล้วข้าจะมอบป้ายหยกของสำนักเซียนให้เพียงเท่านั้นก็เป็นอันเรียบร้อย"

"แล้วเช่นนี้พวกเราต้องไปร่วมงานคัดเลือกอีกหรือไม่เจ้าคะ" มีมี่เอ่ยถามอย่างสงสัย

“ก็แล้วแต่พวกเจ้าถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร แต่อีกสิบวันหลังจากงานคัดเลือกเสร็จสิ้นพวกเจ้าต้องเดินทางเข้าสำนักเซียนเพื่อร่วมงานเลี้ยงต้อนรับศิษย์ใหม่"

ไป๋หลันและมีมี่หันมองหน้ากันแล้วหันไปมองหน้าพี่ชายเหมือนจะปรึกษากันทางสายตา พลันพี่ชายพยักหน้าตอบรับกลับมาก็ส่งยิ้มหวานกลับไปให้แล้วเอ่ยตอบผู้อาวุโสหม่าทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน