หลินไป๋หลัน นิยาย บท 49

ปลายยามไห่(21 .00-22.59)

มีมี่ที่เข้าไปคุยกับสหายที่เรือนนอนเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับร้านคาเฟ่ ส่วนมากจะเป็นรายละเอียดของการตกแต่งร้านและช่วยกันวาดแบบขึ้นมา จากนั้นสหายก็ยื่นแหวนมิติที่ข้างในนั้นใส่ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเอาไว้มากมาย รวมถึงโอสถต่าง ๆ และเงินอีกจำนวนมาก

นางเองก็เกรงใจสหายยิ่งนักที่ต้องหาของทุกอย่างมาให้เช่นนี้ แต่คิดไปคิดมาถ้าเป็นตัวนางเองก็จะทำเช่นนี้กับสหายเหมือนกันจึงยอมรับของที่นางมอบให้ จากนั้นก็อยู่คุยกันจนดึกดื่นจึงเดินกลับเรือนนอนของตนเอง

ขณะเดินผ่านเรือนนอนของพี่ชายบุญธรรมนั้นพบว่าแสงไฟจากตะเกียงยังสว่างอยู่แสดงว่าเขาคงยังไม่นอน มีมี่จึงรวบรวมความกล้า ยึดคติที่ว่า

'ด้านได้ อายอด' เคาะประตูห้องพี่ชายบุญธรรมทันที...

ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เฉินหยางที่กำลังนั่งจิบไวน์ที่น้องสาวให้มาและฟังเพลงไปด้วยเพราะไวน์ของนางทำให้สมองปลอดโปรงดีไม่น้อย เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเดินไปเปิดทันที

               "อ้าว!! มี่เอ๋อร์เจ้ามีอันใดหรือ ทำไมถึงยังไม่นอน" เฉินหยางเอ่ยถามน้องสาวบุญธรรม

              "ข้าเพิ่งกลับจากเรือนของหลันหลัน ผ่านห้องพี่หยางเห็นแสงไฟยังสว่างอยู่จึงคิดว่าพี่หยางคงยังไม่นอนข้าเลยลองเคาะห้องดูเจ้าค่ะ" มีมี่เอ่ย พลางนึกในใจ

'ด้านเข้าไว้ ด้านเข้าไว้มีมี่ ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสืออย่างไร

"พี่นั่งฟังเพลงและดื่มไวน์ของหลันเอ๋อร์เพื่อให้สมองปลอดโปร่งเสียหน่อย ถ้าเจ้ายังไม่ง่วงก็เข้ามานั่งคุยกับพี่ก่อนก็ได้" เฉินหยางเอ่ยชักชวนน้องสาวบุญธรรม เขาเองก็รู้สึกรักนางเหมือนน้องสาวแท้ ๆ คนหนึ่ง นางมีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายกับหลันเอ๋อร์ทำให้เขารู้สึกไม่อึดอัดและคุยสนิทสนมมากขึ้น

เยส!!สำเร็จ มีมี่กู่ก้องร้องอย่างดีใจในห้วงความคิด

"ข้ายังไม่ง่วงเลยเจ้าค่ะพี่หยาง เช่นนั้นข้าจะนั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ก่อนก็แล้วกัน" มีมี่เอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แล้วเดินเข้ามานั่งที่โซฟาโดยมีพี่ชายบุญธรรมเดินเข้ามานั่งข้างๆ

"พี่หยางอย่าดื่มมากนะเจ้าคะประเดี๋ยวจะเมาเอาได้" มีมี่เอ่ยเตือน แต่ในใจกลับอยากให้เขาเมาไม่ได้สติยิ่งนัก

"พี่รู้แล้วน่า...เจ้านี่ขี้บ่นเสียจริง" เฉินหยางเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นไปวางบนศีรษะของน้องสาวบุญธรรมแล้วโยกไปมาอย่างเอ็นดูแล้วเอ่ยต่อ "แล้วเจ้าจะดื่มเป็นเพื่อนพี่หรือไม่มี่เอ๋อร์แต่อย่าดื่มมากนักนะเป็นสตรีมันไม่งาม"

"พี่หยางท่านก็ขี้บ่นเหมือนกันอย่าว่าแต่ข้าเลย" มีมี่เอ่ยย้อนคนตรงหน้าที่เพิ่งจะบ่นนางไปเมื่อสักครู่ พลางยกแก้วไวน์ของพี่ชายบุญธรรมมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

ทั้งสองคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย จนกระทั่งผ่านไปราวกว่าครึ่งชั่วยาม มีมี่ก็เริ่มมึน ๆ ตึง ๆ นิดหน่อยเพราะปกตินางเคยดื่มหนักกว่านี้มาก แต่!!พี่หยางก็ดื่มเก่งขึ้นใช่ย่อยครั้งนี้ไม่เมาเหมือนครั้งก่อน

'หึไม่เลวมีความพัฒนาขึ้น แล้วทีนี้มี่จะทายาเช่นไรฮือ ๆ'

มีมี่คิดแล้วน้ำตาตกในโอดครวญอยู่ในใจพลางเค้นหาแผนการใหม่ทันที อย่างไรวันนี้นางต้องได้บ้าง!!

"พี่หยาง~...ข้าขอตัวกลับห้องไปนอน~ก่อน~" มีมี่เอ่ยเสียงยาน พลางลุกขึ้นเซไปเซมาซ้ายทีขวาที เมื่อพี่ชายบุญธรรมไม่เมานางเมาเองก็ได้แผนนี้เพิ่งคิดได้หมาด ๆ

"มี่เอ๋อร์เจ้าเมาแล้วเช่นนั้นหรือประเดี๋ยวพี่จะพาไปส่งที่เรือนขืนเดินไปเองคงได้ล้มจนเจ็บตัวเป็นแน่" เฉินหยางที่เห็นน้องสาวบุญธรรมลุกขึ้นยืนเซไปมาจนเกือบจะล้ม เขาก็รีบเข้าไปพยุงนางเอาไว้และอาสาพาไปส่งที่เรือน

แต่!!นางกลับเงยหน้าขึ้นมาพอดิบพอดีทำให้ริมฝีปากของเขาอยู่ห่างจากริมฝีปากของนางเพียงแค่ฝ่ามือกั้น ลมหายใจอุ่น ๆ กรุ่นกลิ่นหอมของไวน์ทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนหัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกจนไม่กล้าขยับตัวได้แต่นอนนิ่งมองคนที่หลับตาอยู่ในอ้อมกอดเพียงเท่านั้น

มีมี่เงยหน้าขึ้นทั้งที่เปลือกตายังคงปิดสนิทคะเนตามสัญชาตญาณของนาง จงใจให้ปากของตนเองกับปากของพี่ชายบุญธรรมอยู่ชิดกันจนแทบจะประกบกันนางหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ยิ่งเขานอนนิ่งไม่ไหวติงสัมผัสได้เพียงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดลงมาเพียงเท่านั้น นางจึงคิดปลุกปลอบใจตัวเอง

'เอาวะไหนๆ  ก็ไหน ๆ แล้ว ด้านเข้าไว้ ด้านได้อายอด ได้บ้างยังดีกว่าไม่ได้เลยพี่หยางคงไม่ถือสาคนไม่บ้าว่าคนเมาหรอกกระมัง' คิดได้เช่นนั้นมีมี่ก็ประกบปากจูบพี่ชายบุญธรรมของตนทันที

เฉินหยางตกใจที่คนตรงหน้าประกบปากลงมาจูบตนจึงเผยอปากออกทำให้ลิ้นเล็กเข้ามาต้อนลิ้นหนาพันเกี่ยวหยอกล้อ ในคราแรกเขาได้แต่หลบลิ้นของนางแต่เพียงครู่เขาก็หันมาเกี่ยวกระหวัดรัดลึงพัวพันดูดดื่มความหวานจนแทบจะขาดอากาศหายใจ แล้วจึงผละริมฝีปากออกเพื่อสูดลมหายใจเข้าปอดด้วยความเหนื่อยหอบ

เฉินหยางมองริมฝีปากบางเย้ายวนของคนตรงหน้าด้วยความที่ตนเองเพิ่งเคยจุมพิตสตรีเป็นครั้งแรกจึงยังรู้สึกว่ายังไม่ค่อยรู้ความเท่าใดนัก จึงอยากลองใหม่อีกสักคราคิดได้ดังนั้นเขาจึงก้มลงจุมพิตปากบางเย้ายวนตรงหน้าทันที 

คราวนี้เป็นเขาเองที่ดูดดึงริมฝีปากบางจนเผยอออกแล้วส่งลิ้นของเขาไล่ต้อนลิ้นเล็กตักตวงความหวานของคนในอ้อมกอดอย่างมัวเมาลุ่มหลงเนิ่นนาน แล้วผละริมฝีปากออกเพื่อให้คนในอ้อมกอดที่นอนหลับตาอยู่แต่ก็ยังตอบสนองจูบของเขาอย่างดูดดื่มได้สูดเอาอากาศเข้าปอดด้วยลมหายใจหอบถี่

เฉินหยางมองคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู นางนอนหลับตาพริ้มริมฝีปากแดงเจ่อขึ้นมาเล็กน้อยจนเขาเผลอก้มลงจูบนางอีกครา...อีกครา… เขาฝึกจูบกับน้องสาวบุญธรรมจนกระทั่งเขาเองช่ำชองในการจูบไปโดยปริยาย

จนเวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งชั่วยามเขาจึงผละออกมายอมปล่อยริมฝีปากอ่อนนุ่มของนางให้เป็นอิสระโชคดีที่นางเมาไม่รู้สึกตัวเขาจึงทำเช่นนี้ได้ ตื่นเช้ามานางคงจำอะไรไม่ได้กระมังเฉินหยางคิดในใจพลางยกยิ้มมุมปากแล้วเดินออกจากห้องไป

มีมี่ที่ถูกพี่ชายบุญธรรมจูบแล้วจูบอีกจากครั้งแรกที่นางเป็นคนสอนเขาจนกระทั่งตนเองแพ้ให้คนตรงหน้าอย่างราบคาบ คนอะไรช่างเรียนรู้ได้รวดเร็วยิ่งนักทำเอานางแทบขาดอากาศหายใจตาย แต่ก็รู้สึกว่าคุ้มค่ายิ่งนักถือว่าแผนนางสำเร็จ!! นางจะยังไม่รุกพี่ชายบุญธรรมหนักมือจะค่อย ๆ เลี้ยงต้อยเขาไปเรื่อย ๆ ฮ่า ๆ ๆ มีมี่คิดในใจอย่างมีความสุข

ตายอย่างสงบศพชมพูยันเช้า...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน