ตอนที่ 18 สัมภาษณ์นักออกแบบซีอา
เมื่อเห็นม๊ามี๊ของตัวเองจ้องกางเกงในซุปเปอร์แมนของตัวเองแล้วหัวเราะอยู่ กวินก็รู้สึกจนใจมาก
“แม่ดูความลับของลูกชายตนเองก็เป็นเรื่องปกติ ใครจะกล้าพูดอะไร”วรินทรวางกางเกงในลง ในใจคิดว่าวันนี้หลังจากอาบน้ำเสร็จจะให้เขาใส่กางเกงในตัวนี้ให้ได้ ริมฝีปากก็เผยรอยยิ้มที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มนั้นร้ายกาจมาก
กวินรู้สึกตัวสั่น ม๊ามี๊ต้องคิดแผนร้ายอยู่แน่ๆเลย
ตอนที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงกริ๊งประตูก็ดังขึ้น
“ดูก่อนนะว่าข้างนอกคือใคร ถ้าไม่รู้จักอย่าเปิดประตูเด็ดขาด เข้าใจไหม”ตอนที่วรินทรพูดอยู่นั้น กวินก็มาถึงหน้าประตูแล้ว ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบบนชั้นวางรองเท้า มองผ่านตาแมวเพื่อดูว่าข้างนอกเป็นใคร
ข้างนอกนั้นคือผู้หญิงคนหนี่ง ผมสั้นปะบ่าของเธอดูสะอาดสะอ้าน ผิวขาวเนียน มุมปากยกขึ้น รูปร่างสูงโปร่ง ชุดทำงานสีดำที่ที่ดูไม่มีชีวิตชีวา ในตัวเธอกลับมีความรู้สึกสดใสชื่นใจขึ้นมา กวินจำได้ เธอคือคาร่า เพื่อนสนิทที่สุดของม๊ามี๊
แกร๊ก แกร๊กประตูเปิดออก
คาร่าอยากจะให้กอดที่อบอุ่นกับวรินทร แต่ใครจะไปรู้เธอกลับกอดอากาศไป
ตกตะลึงไปสักพักก็ก้มลงไป มองเห็นกวินที่ใส่ชุดผ้ากันเปื้อนที่น่ารัก มือยังจับอยู่ที่ล็อคประตู ดวงตากลมโตเหมือนลูกองุ่นนั้นเปล่งประกายความสดใส จิบปากเล็กน้อย มองไปที่เธอโดยไม่ขยับเขยื้อน
“อ่า กวิน ไม่เจอกันตั้งนาน หนูยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ”คาร่ากอดกวินแล้วดิ้นไปมาด้วยใบหน้าที่ตกหลงรัก
คาร่าคือเพื่อนคนแรกที่วรินทรรู้จักหลักจากที่ไปต่างประเทศ และก็เป็นเพื่อนสนิทที่สุด
อาจจะเป็นเพราะสองคนต่างเป็นคนจีน จึงได้รับการดูแลอย่างดีจากคาร่า
ห้าปีที่แล้วหลังจากที่เธอโดนชยุตตีอย่างโหดร้าย เธอที่มีแต่แผลเต็มตัวถูกทิ้งไว้กลางสายฝน ถ้าไม่ได้เป็นเพราะถูกฐานทัตเพื่อนของเธอช่วยเอาไว้ เธอคงตายไปแล้ว
ฐานทัตเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอ เป็นคุณชายของบ้านสุขกาล เพราะว่าเมื่อตอนเด็กวรินทรเคยช่วยชีวิตเขาตอนจมน้ำ สองคนเลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนที่เธออายุสิบแปด ฐานทัตเป็นเพียงคนคนเดียวนอกจากแม่ของเธอที่รู้ฐานะที่แท้จริงของเธอ
ตอนนั้นที่วรินทรถูกชยุตข่มขู่ สิ่งเดียวที่เธอคิดได้คือไปยืมเงินกับฐานทัต
วันนั้นฐานทัตเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ได้ยินว่าวรินทรกลับไปบ้านพูลสวัสดิ์แล้ว ก็เลยไปบ้านพูลสวัสดิ์เพื่อเยี่ยมเธอ แต่กลับเจอกับวรินทรที่มีแผลอยู่เต็มตัวถูกทิ้งไว้กลางสายฝน
หลังจากได้รับความยินยอมของเธอ ฐานทัตเลยพาเธอไปต่างประเทศ จนวรินทรคลอดลูกออกมา และเพราะเหตุนี้ เธอถึงได้มีกวินเด็กน้อยน่ารักคนนี้อยู่เป็นเพื่อนข้างกายเธอ ไม่ได้รู้สึกเหงาหว่าเว้เกินไป
จนทำให้ตอนนี้วรินทรรู้สึกดีใจที่ตอนนั้นไม่ได้ทำลูกคนนี้แท้งไป......
วรินทรอุ้มกวินมาจากคาร่า ลูบหัวเขา “เด็กดีรีบไปทำกับข้าวเร็ว ม๊ามี๊กับน้าคาร่าจะคุยกันสักหน่อย”
กวินพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแล้วหันตัวกลับไปในครัว
ได้ยินวรินทรพูด คาร่าทนไม่ได้จึงเม้มปากทันที“ดูเธอซิ คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าให้เด็กทำกับข้าว เธอนิเป็นพวกใช้แรงงานเด็กจริงๆเลย”
“ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการมาบอกไว้แล้วค่ะ เชิญคุณวรินทรตามฉันมาค่ะ”พนักงานหน้าเคาท์เตอร์ยิ้มให้ ผายมือเบาๆ แล้วนำวรินทรไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ
เคาะประตูกระจกฝ้านั้นก่อน หลังได้ยินเสียงตอบรับจากด้านในจึงพูดกับวรินทร“ผู้อำนวยการอยู่ข้างใน เชิญคุณเข้าไปได้ค่ะ”
วรินทรกัดริมฝีปากล่างด้วยสัญชาตญาณ ค่อยๆดันประตูกระจก อากาศเย็นเฉียบผ่านมา ทำให้เธอตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลิ ไม่ต้องเปิดแอร์เย็นขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นการทดสอบอะไรบางอย่าง
“สวัสดีค่ะ เมื่อวานฉัน..”ใบหน้าที่สวยงามของวรินทรยิ้มอย่างมีมารยาท ยังไม่ทันเธอแนะนำตัว คนที่นั่งบนเก้าอี้นั้นก็หันหลังให้กับเธอ และตัดคำพูดเธอซะก่อน
“คุณวรินทร ใช่ไหม ?”คนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ต้องเป็นผู้อำนวยการแน่ๆ มองไปแล้วดูสง่างามมาก แว่นตากรอบทองวางอยู่บนสันจมูก สองมือทับด้วยกันและประคองคางไว้ ดวงตาที่อยู่หลังแว่นตามองไปยังวรินทร“ฉันดูประวัติของเธอแล้ว เธอเคยเป็นนักออกแบบของเอ๊ฟเอส ใช่ไหม ?”
วรินทรขมวดคิ้วเล็กน้อย พยักหน้า“ใช่ค่ะ ฉันเคยเป็นนักออกแบบที่ เอ๊ฟเอส อยู่สองปีค่ะ”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะออกจากเอ๊ฟเอสมาซีอา”เสียงของผู้อำนวยการมีความเยือกเย็นและห่างเหิน ซึ่งแตกต่างจากลักษณะสง่างามของเขา
“เหตุผลง่ายๆ เอ๊ฟเอส อยู่ที่อังกฤษ แต่ฉันตอนนี้กลับมาที่ประเทศซีแล้ว ดังนั้นก็ต้องหางานที่ประเทศซี ได้ยินมาว่าซีอา มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่นจึงมาที่นี่ค่ะ ไม่ใช่เพราะเลือกออกมาจากที่ไหนแล้วมาที่ไหน” เธอน่าจะรับมือผู้อำนวยการคนนี้ได้ดีกว่าคนที่ เอ๊ฟเอส พูดตามความจริงก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเติมประโยคหลังให้สวยขึ้นก็ตาม
สายตาของผู้อำนวยมีความประหลาดใจแวบไป ปกติแล้วคนมาสัมภาษณ์มักจะหยิบคำสวยหรูมาบรรยาย ซีอา ไม่มีสักห้าหกนาทีก็หยุดไม่ได้ แต่เธอพูดแค่นี้ก็จบแล้ว ?
“วันนี้เธอเอางานมาไหม ?”ผู้อำนวยการถามไปงั้นๆ แท้จริงแล้วไม่ต้องก็ได้ ไม่มีนักออกแบบคนไหนไม่เอางานมาสัมภาษณ์งาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...