“ตอนนี้ เผ่าพันธุ์ภูติได้ขาดสายเลือดแล้ว และจะหายไปจากสามดินแดนตลอดกาล” ภูติคนหนึ่งกล่าวด้วยแววตาโศกเศร้า ขณะกอดภูติน้อยไว้ในอ้อมแขน
ภูติน้อยยังคงไร้เดียงสา ไม่รู้ถึงสถานการณ์อันยากลำบาก
ปี้เย่ว์พูดเบาๆ ว่า “ราชินียังมีสายเลือดอยู่ในโลกมนุษย์...”
คนในเผ่าเงยหน้าขึ้นทันที แววตาที่หม่นหมอง เริ่มเปล่งประกายขึ้นมา
ปี้เย่ว์ไม่เคยพูดออกมาเลย เพราะต้องการรักษาสายเลือดสุดท้ายของเผ่าภูติไว้
แต่ไม่เคยคิดเลยว่า มันจะกลายเป็นจริง
“เกรงว่าพวกเขาจะยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง” เผ่าภูติจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น มิฉะนั้น ภูติบางคนอาจมีชีวิตอยู่โดยไม่เคยรู้ว่าตัวเองเป็นใคร
นี่คือการป้องกันตัวเองของเผ่าภูติ
“น่าเสียดายที่ยังไม่เคยเห็นทายาทของราชินี”
“ดีแล้ว ดีแล้ว... แบบนี้ก็ดีแล้ว การไม่รู้ คือความสุข” ปี้เย่ว์พึมพำเบาๆ
“ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเป็นอย่างไรบ้าง?” ปี้เย่ว์หลั่งน้ำตาด้วยความสิ้นหวัง
“พวกเราขอเข้าไปดูภูติพวกนี้ใกล้ๆ ได้ไหม? ไม่งั้นใครจะรู้ว่าจริงหรือปลอม?” ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาจากด้านล่าง
หญิงสาวที่ดำเนินการประมูลขมวดคิ้วเล็กน้อย “หอสมบัติวิเศษของเราซื้อขายอย่างซื่อสัตย์และยุติธรรม และมีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทุกชิ้น!”
ผู้จัดการพยักหน้าให้นาง
หญิงสาวจึงกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “หากลูกค้าท่านใดต้องการชมใกล้ๆ เชิญด้านหน้าได้เลยเจ้าค่ะ”
“เหล็กศักดิ์สิทธิ์พันปีได้จำกัดพลังของพวกนางไว้ เดี๋ยวเราจะใช้บทสวดบูชาของเผ่าภูติเพื่อให้พวกนางเผยร่างจริงออกมา” ตอนนี้เผ่าภูติที่เห็นมีเพียงรูปร่างที่งดงาม แต่ยังไม่เห็นปีก
เมื่อได้ยินดังนั้น บางคนก็มองหน้ากันด้วยสายตาหื่นกระหาย
ตอนนี้ ภูติเป็นที่นิยมอย่างมากในแดนศักดิ์สิทธิ์ ใคร ๆ ต่างก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เลี้ยงภูติ
เพื่อแสดงให้เห็นถึงฐานะของตนเอง
บางที พวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้ซื้อเลยด้วยซ้ำ แค่อยู่ใกล้ๆ ได้เห็น ได้เชยชมก็ยังดี
หลายคนกรูกันขึ้นไป แต่ก็มีผู้บำเพ็ญตนหลายคนที่ถือตัว ไม่ขึ้นไป
ลู่เจาเจาพาปี้ซินและหยวนเหยาขึ้นไป
ใบหน้าเล็กๆ ของปี้เย่ว์ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมสีดำ สวมหน้ากากสีเงิน แต่ดวงตากลับมีสีแปลกๆ
ดวงตาของเผ่าภูติ มีสีฟ้าอมน้ำเงินเล็กน้อย
“เอวของเผ่าภูติ ช่างบอบบางราวกับจะกำไว้ได้ทั้งเอว ใบหน้าเล็ก ๆ แสดงความรู้สึกที่ยากจะเอ่ยออกมา หากได้เลี้ยงไว้ที่บ้านสักคน ให้ตายก็ยอม…” ชายคนนั้นจ้องมองหญิงสาวในกรงพลางกลืนน้ำลาย
เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่เยอะ เขาจึงเผลอตัวเอื้อมมือเข้าไปในกรงโดยไม่รู้ตัว
มุ่งตรงไปยังหน้าอกของปี้เย่ว์
“อ๊า!” ปี้เย่ว์ตกใจกรีดร้องด้วยความกลัวจากมือปริศนาที่โผล่มาอย่างฉับพลัน นางถอยหลังไปทันที
แต่เมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับกรงขัง ก็ถูกเผาไหม้จนเป็นแผลสีแดงฉาน
กรงขังนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเผ่าภูติโดยเฉพาะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...