จู๋มั่วกับจุยเฟิงตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง รีบอุ้มนางขึ้นมา
แต่กลับพบว่าตัวนางร้อนราวกับไฟ
ซ่านซ่านหมอบอยู่ที่ธรณีประตู จู่ๆ ก็ยิ้มกว้างจนเห็นฟันแต่ไม่เห็นตา
เห็นเขาพิงกำแพง แล้วเเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
ภายในห้อง
“ทำไมถึงได้ร้อนเช่นนี้?” จู๋มั่วรู้สึกเหมือนกำลังอุ้มกองไฟ
“ดูหว่างคิ้วของเจาเจาสิ!” จุยเฟิงหรี่ตาลง เห็นรอยประทับสีแดงระหว่างคิ้วของนางราวกับมีชีวิตขึ้นมา ราวกับมีชีวิตกำลังเคลื่อนไหวอยู่
จุยเฟิงขยี้ตา “ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า?”
ทันใดนั้น……
ลู่เจาเจาเบิกตากว้างขึ้นมาทันที แววตาไม่เหมือนกับความอ่อนแอเมื่อครู่นี้ ทำให้จุยเฟิงตกใจจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว
เขายกมือขึ้นปิดหน้าอก เมื่อครู่นี้เขารู้สึกหวาดกลัวจนหนาวเหน็บไปทั้งตัว
แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เคยพบว่า เขาไม่กล้ามองเข้าไปในดวงตาของลู่เจาเจาอีก
ถึงกับต้องหลบหน้าอยู่ตลอด เขาก้มหน้าลง มีความหวาดกลัวที่บอกไม่ถูก
ลู่เจาเจาลุกขึ้นยืน จู๋มั่วถามอย่างโง่เขลาว่า “เมื่อกี้เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมอยู่ๆ ถึงหมดสติไป ทำเอาตกใจหมด”
“จงไป๋กับเสียนถิงคงช่วยไม่ได้แล้ว เจ้า...เจ้าทำใจเถอะ”
“พวกเขาไม่มีแก่นพลังเทพแล้ว ใครจะช่วยพวกเขาได้ เจาเจา...เราจะต่อสู้กับสวรรค์ได้อย่างไรกัน?”
“ถ้าอยากให้เขาฟื้นขึ้นมาได้ มีทางเดียวคือ ต้องให้เขาเป็นเทพอีกครั้ง...”
“แม้แต่มหาเทพยังต้องได้รับการอนุญาตจากสวรรค์ก่อนจะแต่งตั้งเทพองค์ใหม่ เจาเจา ยอมแพ้เถอะ...”
ลู่เจาเจาดูเหมือนจะสงบลงอย่างสิ้นเชิง นางยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง
จงไป๋และเสียนถิงเหลือร่างเพียงครึ่งเดียว กำลังสลายกลายเป็นแสงดาวอยู่ตรงหน้า
อาหมานร้องไห้จนพูดไม่ออก หัวใจเจ็บปวดจนตัวสั่นไปหมด
ทำไมนางถึงรู้สึกเจ็บปวดในใจเช่นนี้ นางไม่รู้ว่าทำไมต้องร้องไห้ และทำไมต้องเจ็บปวด
ลู่เจาเจาไม่พูดอะไรเลย ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางดูเงียบงันผิดปกติ
จู๋มั่วรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ยกมือขึ้นสะกิดนางเบา ๆ “เจ้าโง่ไปแล้วหรือ? ทำไมไม่พูดอะไรเลย?”
จุยเฟิงทำเสียงข่มขู่ พร้อมกับเสียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“เจ้ากำลังทำบ้าอะไร? รีบกลับมาเดี๋ยวนี้!! อยากเริ่มใหม่หรือไง?” เขาพูดพลางดึงจู๋มั่วที่กำลังงุนงงให้ถอยกลับไป
จู๋มั่วทำหน้างุนงง “เริ่มใหม่อะไรหรือ?”
จุยเฟิงก้มหน้าลง ไม่ยอมตอบ
ในใจเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่คือลู่เเจาเจา แต่ก็เหมือนไม่ใช่ลู่เจาเจา เขา...แม้แต่กับหันชวน ก็ไม่เคยรู้สึกถึงกลิ่นอายที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย
มันเหมือนกับ การยอมจำนนที่ฝังลึกอยู่ในกระดูก
ลู่เจาเจานั่งอยู่หน้าเตียง ยื่นมือไปแตะจงไป๋ แต่ปรากฏว่ามือของนางทะลุผ่านร่างของเขาไป ร่างกายของเขาโปร่งแสงราวกับจะหายไป……
“ถ้าเจ้าโกรธจนเลือดขึ้นหน้าจะทำอย่างไร? ข้า เฮ้…” จู๋มั่วพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจุยเฟิงลากออกไป
ในห้อง เหลือเพียงลู่เจาเจากับศิษย์สองคน
จงไป๋และเสียนถิงเต็มไปด้วยแสงดาว กำลังส่องสว่างไปทั่ว ลู่เจาเจายกมือขึ้นเบาๆ แสงดาวก็ลอยขึ้นมาวนรอบปลายนิ้วของนาง
“ข้าไม่ยอม ไม่มีใครไปไหนได้ทั้งนั้น” นางพึมพำเบาๆ
“แต่งตั้งเทพงั้นหรือ?”
“มันจะยากอะไร?”
“จิตใจที่ห่วงใยโลก ปราบปีศาจขจัดมาร บุญคุณในการช่วยโลกหล้า ไม่ควรสูญสิ้นไป”
“จงไป๋ เสียนถิง ขอมอบตำแหน่งเทพ!” ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย แต่ละคำพูดเหมือนมีแสงสีทอง แสงดาวรอบๆ ห่อหุ้มนางไว้
ทันทีที่คำว่ามอบตำแหน่งเทพหลุดออกมา แสงสีแดงระหว่างคิ้วของนางก็สว่างไสวราวกับดวงดาว
ตามคำพูดของนาง วิญญาณที่แตกกระจายของจงไป๋และเสียนถิงก็ค่อยๆ รวมตัวกันจากรอบด้าน
วิญญาณลอยอยู่ตรงหน้าลู่เจาเจา ร่างกายเปล่งแสงสีทอง
จงไป๋และเสียนถิงสองคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ทั้งสองมองหน้ากัน นี่...นี่มันเรื่องอะไรกัน???
ไม่ใช่ ท่านอาจารย์ ท่านทำแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!!
ท่านมีความลับกับศิษย์หรือ!
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากคำพูดที่ว่าประทานตำแหน่งเทพ ก็ปลดแก่นพลังเทพ แล้วกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...