“ถึงเวลานั้น ข้าจะให้ลูกชายเจ้าอีกสองคน ชีวิตนี้ช่างวิเศษนัก”
“แต่ต้องดูแลเด็ก ๆ ให้ดี อย่าให้ใครมาลักพาตัวไปได้” นางพูดพลางเลียริมฝีปาก แววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา
ไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของผู้ชายเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าว่า คนซื้อเป็นใครกันนะ? ทำไมต้องมาเอาสินค้าตอนเที่ยงคืนทุกที ข้ารู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้...วันนี้ตาข้ากระตุกทั้งวันเลย จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
หญิงคนนั้นยังคงพูดไม่หยุด ปากก็พร่ำไปเรื่อย
“หุบปาก!” ผู้ชายทำหน้าบึ้งตวาดใส่นาง
“พูดอะไรเหลวไหล ตอนกลางคืนจะไม่เป็นจุดสนใจ ถ้าเจ้าว่างนัก ก็ไปดูพวกสินค้านั่นหน่อยสิ ว่าสภาพเป็นยังไงบ้าง!”
“ลูกค้าจะทำอะไร มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า ข้าว่าเจ้าคงลืมกฎไปแล้ว!”
“เปลือกตาจะกระตุกก็ช่างมัน เราทำงานแบบนี้ ยังจะกลัวอะไรอีก? จะกลัวผีหรือไง?”
ชายคนนั้นพูดไปพลางสูบยาเส้นอย่างแรง ราวกับสามารถเรียกความกล้าได้
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เคาะเบา ๆ เพียงครั้งเดียว แล้วก็เงียบไป
“แขกผู้มีเกียรติ ท่านมาแล้วหรือ?” หญิงสาวรีบวิ่งไปเปิดประตู แต่ในลานก็เงียบสงบ หน้าประตูเหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว
ชายคนนั้นวางยาเส้นไว้บนโต๊ะ ยกมือห้ามผู้หญิงไม่ให้เข้าไปใกล้
“แขกผู้มีเกียรติ เชิญท่านผลักประตูเข้ามา ประตูไม่ได้ล็อค” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แววตาเคร่งขรึม
ครู่หนึ่ง เสียงก็ดังขึ้นจากข้างนอก
“ข้าผลักประตูไม่ค่อยถนัด รบกวนช่วยเปิดประตูให้หน่อยได้หรือไม่?” เสียงของคนข้างนอกแหลมเล็กและทุ้มต่ำ มีความเศร้าหมองแฝงอยู่
เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียง นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เป็นเสียงของแขกผู้มีเกียติ ตกใจหมดเลย ไป ๆ ๆ เจ้าไปยกสินค้า ข้าจะไปเปิดประตู”
พูดจบ นางก็ไปเปิดประตู
ชายคนนั้นหันไปเปิดประตูห้องใต้ดิน ขณะเปิดก็รู้สึกเหม่อลอย แปลก ทำไมวันนี้แขกผู้มีเกียติไม่ผลักประตูเข้ามา?
“ไสหัวออกมา อย่าส่งเสียง ไม่งั้นข้าจะตัดหัวพวกเจ้า!” เขาถือมีดในมือ เหมือนปีศาจร้ายที่มาจากนรก
เด็ก ๆ ตัวสั่นเทา ตาแดงก่ำ แต่ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย
พวกเขาต่างก็เคยเห็น มีคนกล้าขอความช่วยเหลือบนท้องถนน แล้วถูกเขาแอบตัดหัวไป
นอนหมอบอยู่บนบ่าของเขา เดินออกจากประตูเมืองด้วยท่าทางผยอง
ชายคนนั้นมีประสบการณ์มาก เด็กที่ถูกลักพาตัวจะถูกทำให้หิวโหยเป็นเวลานาน จนกระทั่งถึงเวลาขายจึงจะได้กินอิ่ม ทำให้ไม่มีแรงจะหนีและความกล้าหาญ
ม่ายเฟิงเจ็บปวดไปทั้งตัว แต่ซ่านซ่านยังตัวร้อนอยู่ เขาแบกซ่านซ่านขึ้นพิงกำแพงให้ยืนขึ้น
ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นเปิดประตูแล้ว
ชายผู้สูงศักดิ์สวมชุดดำและสวมหมวกคลุมสีดำก้าวเข้าไปในเรือน
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้น และเหลือบมองไปที่ประตูโดยไม่ตั้งใจ
รูม่านตาของเขาสั่นอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาสั่นอย่างบ้าคลั่ง และเปลือกตาของเขาก็สั่นเช่นกัน
เห็นเพียงรอยนิ้วมือสีดำห้ารอยบนยันต์พระผู้พิทักษ์ ที่ติดอยู่ประตู
นั่นคือ ที่มาของเสียงกรีดร้องหรือไม่?
“เร็วหน่อยสิ อย่าให้แขกผู้มีเกียรติรอนาน เราจะรวยแล้ว กระเป๋าเงินที่แขวนอยู่ที่เอวแขกผู้มีเกียติหนักมากทีดียว!” ดวงตาของผู้หญิงเป็นประกาย ตอนที่นางเปิดประตู นางรู้สึกประหม่า แต่เมื่อเห็นกระเป๋าเงินที่หนักอึ้งที่เอวของแขกผู้สูงศักดิ์ นางก็ทิ้งทุกความคิดไว้ข้างหลัง
หลังจากรินชาให้แขกผู้มีเกียติ นางก็เดินไปหาผู้ชายอย่างรวดเร็ว
นางรู้สึกสงสัย ว่าทำไมผู้ชายถึงชักช้านัก และยังขยิบตาให้อีก?
แต่ถึงแม้ผู้ชายจะก้มหน้า เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาของแขกผู้สูงศักดิ์ที่กำลังยิ้มเยาะ เขากัดฟันและเดินเข้าไปใกล้ประตูด้วยรอยยิ้ม
“ในที่สุดแขกผู้มีเกียรติก็มาเสียที สินค้าชุดนี้ดีที่สุดเลยนะ”
“เด็กชายและเด็กหญิงสามคู่ และวัน เดือน ปีเกิดเป็นหยินทั้งหมด” เขาก้มหน้าลง ไม่กล้าเงยหน้าผากที่เต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
ผู้หญิงรู้สึกกังวลเล็กน้อย พูดประจบประแจงว่า “ท่านผู้สูงศักดิ์ สินค้าชุดนี้ของเราไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราใช้ความพยายามอย่างมากในการเตรียมตัว ท่านจะเอาเปรียบเราไม่ได้นะ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...