จุยเฟิงถามม่ายเฟิงว่าสนใจไหม ม่ายเฟิงก็ตอบตกลงด้วยความยินดี แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
เมื่อเข้านอนจนดึก ซ่านซ่านก็ลืมตาตื่นขึ้น
ตั้งแต่กลับมาจากหมู่บ้าน เขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายเย็นยะเยือกที่ติดตามม่ายเฟิงมาตลอด และในตอนนี้ ซ่านซ่านก็ลืมตาขึ้น…
ก็พบกับดวงตาบวมเป่งซีดเซียวคู่หนึ่งจ้องมองเขาอยู่ตรงหน้า
ปลายจมูกชนปลายจมูก
ศพที่จมน้ำตายและแช่อยู่ในแม่น้ำนาน ๆ ย่อมไม่น่ามองนัก ยิ่งตอนนี้ยังมีกลิ่นคาวน้ำติดตัวมาด้วย
รุ่ยรุ่ยหมอบอยู่ข้างเตียงของซ่านซ่าน จ้องมองซ่านซ่านอยู่แบบนั้น
“รุ่ยรุ่ย เจ้าทำอะไร? อยู่ใกล้คนธรรมดาเกินไปจะทำให้อายุขัยสั้นลง เจ้ารีบมาทางนี้เร็วเข้า”
“พี่ใหญ่อยู่ที่นี่”
“เมืองเหลียนหัวมีไอพระพุทธเข้มข้น เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้ ไปดูพี่ใหญ่แล้วรีบออกไป... น่าเสียดายที่พี่ใหญ่มองไม่เห็นข้าเลย” กั่วกั่วมองไปยังม่ายเฟิงที่อยู่บนเตียงด้วยความเศร้า
รุ่ยรุ่ยเอียงศีรษะเล็กน้อย “ข้ารู้สึกว่า เขามองเห็นข้า…”
เขาชี้ไปที่ซ่านซ่าน
กั่วกั่วมองไปที่ม่ายเฟิงโดยไม่กะพริบตา ไม่หันศีรษะไปทางอื่น “เป็นไปไม่ได้ เขาเพิ่ง…” เมื่อหันศีรษะกลับไป ซ่านซ่านก็ลุกขึ้นนั่งแล้ว เด็กน้อยตัวอ้วนกำลังมองพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นี่ไง ข้าบอกแล้วว่าเขามองเห็น! ข้าไม่ได้โกหกสักหน่อย!” รุ่ยรุ่ยกระโดดขึ้นทันที
ซ่านซ่านเหลือบมองพวกเขาเล็กน้อย ยกมือขึ้นสะบัดหนึ่งที ก็ส่งคนทั้งสองเข้าไปในความฝัน
ไม่นาน ซ่านซ่านก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของม่ายเฟิงดังมาจากในฝัน
ซ่านซ่านเบะปากอย่างดูถูก เขาคิดว่าคนทั้งสองไม่กล้าปรากฏตัวซะอีก
เวลาไก่ขัน ท้องฟ้าเริ่มปรากฏแสงอรุณ
รุ่ยรุ่ยกับกั่วกั่วจูงมือกันยืนอยู่หน้าเตียงของซ่านซ่าน “พี่ใหญ่ใจดีได้รับผลตอบแทนที่ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราก็เบาใจ...ขอบคุณเจ้านะ”
คนทั้งสองยิ้มให้กัน แล้วเดินจากไปท่ามกลางแสงอรุณ
ต้อนรับอนาคตที่แท้จริง
ม่ายเฟิงตื่นขึ้นมาด้วยน้ำตา แต่มีรอยยิ้มที่มุมปาก ราวกับว่าเขาได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่าง เมื่อเห็นว่าซ่านซ่านตื่นแล้ว เขาก็รู้สึกเขินเล็กน้อย “ซ่านซ่าน ข้าฝันถึงน้อง ๆ ของข้า”
“พวกเขามาบอกลาข้า พวกเขาบอกว่าถึงแม้ชีวิตนี้จะสั้น แต่พวกเขาก็มีความสุขมากที่ได้อยู่กับข้า”
“ซ่านซ่าน ข้ามีความสุขยิ่งนัก ถึงแม้ว่าข้าจะไม่มีอะไรเลย แต่ข้ากลับรู้สึกว่าข้ามีทุกอย่าง”
ม่ายเฟิงดูแลซ่านซ่านอย่างทะนุถนอมเหมือนแม่นม และอุ้มเขาไปทานอาหาร
ม่ายเฟิงเป็นคนขยันเรียนรู้ และมีนิสัยสุขุมเยือกเย็น
เมื่อจุยเฟิงพบว่าเขามีพรสวรรค์ จึงตัดสินใจสอนเขาด้วยตนเอง
“วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบหนึ่งปีของซ่านซ่าน ทางเป่ยเจาส่งของขวัญมาตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้วางอยู่ในห้องโถงใหญ่”
“เมื่อวันท่านมหาปุโรหิตส่งบัตรเชิญมาแล้ว ท่านจะเชิญพวกเขามาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยไหม?” จู๋มั่วถาม
เซี่ยอวี้โจวเหลือบมองเขา “เจ้าจะให้ท่านมหาปุโรหิตมาปราบปีศาจหรือ?”
ซ่านซ่านคลานไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ รู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก
หยิบพู่กันขึ้นมาดู แม่นมก็เต็มไปด้วยความดีใจ “โอ้ ดี ๆ ๆ ๆ อนาคตสอบได้เป็นจอหงวน คนในครอบครัวเดียวกันสอบได้เป็นจอหงวนถึงสามคน ทำให้วงศ์ตระกูลรุ่งโรจน์!” พูดจบ ปัง! เสียงดัง ซ่านซ่านก็โยนพู่กันลงบนโต๊ะ
แม่นม…
เขาหยิบดาบวิเศษขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่แม่นมจะทันได้พูด ก็ถูกเขาปัดลงจากโต๊ะ
จากนั้นก็คว้าหยกสมปรารถนาที่พระราชทานจากฮ่องเต้ โยนทิ้ง
ของขวัญจากคุณชายใหญ่ คุณชายรอง คุณชายสาม โยนทิ้ง
ของที่แม่ให้ โยนทิ้ง
ตราประจำแม่ทัพของพ่อ โยนทิ้ง
ของเก่าแก่ประจำตระกูลของท่านปู่ โยน โยน โยน
ในพริบตาเดียว โต๊ะก็ถูกเขาเคลียร์จนหมดจาน เซี่ยอวี้โจวหยิบสร้อยลูกประคำออกมาจากอกอย่างเงียบ ๆ “เอาไหม?”
เท้าอ้วน ๆ ของซ่านซ่านเตะออกไป ลูกประคำหล่นลงพื้น
ข้า ชีเจวี๋ย ไม่ได้ถูกกำหนด
จะไม่จับก็ไม่จับ!
ถึงเขาจะอายุยังน้อย แต่ความสามารถในการรับรู้ของเขาอยู่ในระดับแนวหน้า ทันใดนั้น เขาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของทุกคนไม่สู้ดีนัก
แม้แต่ลู่เจาเจา ก็มองเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...