ภูตหอยพูดอย่างแผ่วเบา “พวกเขาน่ะ มาดูละคร”
“ข้าได้ยินมาว่าบัตรเชิญงานเลี้ยงหย่าเป็นที่ต้องการอย่างมาก และบางคนถึงกับมาขอที่ประตูเลยด้วยซ้ำ”
จู๋มั่ว…
บางครั้งก็อยากฆ่าคนจริง ๆ!
เมื่อจู๋มั่วกลับมาถึงโลกมนุษย์ อาอู๋กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้มองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย
“อาอู๋ อาอู๋ ในที่สุดข้าก็จัดการปัญหาได้แล้ว รอเพียงแค่วันที่จะได้ต้อนรับเจ้าและลูกอย่างยิ่งใหญ่เท่านั้น”
“อาอู๋ นี่คือผลึกมังกร เสด็จพ่อรู้ว่าเจ้าเป็นมนุษย์ จึงให้ข้านำมาให้”
“มันจะช่วยยืดอายุและเพิ่มอายุขัยให้เจ้าได้”
เขานั่งยอง ๆ ข้างอาอู๋ แล้วลูบท้องของอาอู๋เบา ๆ “เจ้าเด็กน้อย เจ้าไม่รังแกแม่ของเจ้าใช่ไหม? เจ้าต้องเป็นเด็กดีนะ ไม่เช่นนั้นพ่อจะจัดการเจ้า!” พูดจบ เขาก็ยิ้มให้กับอาอู๋อย่างโง่เขลา
ไม่รู้ว่าเป็นความคิดไปเองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าสีหน้าของอาอู๋ไม่ค่อยดีนัก ดูซีดเซียวเล็กน้อย
“อาอู๋ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” จู่ ๆ หัวใจของจู๋มั่วก็เต้นแรง
อาอู๋เอียงศีรษะเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นยิ้ม แต่แทบไม่เห็นรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร คงเป็นเพราะเมื่อวันไม่ได้เจอเจ้า ลูกเลยงอแงนิดหน่อย ปัญหาแก้ได้แล้วใช่ไหม? ก็...มันก็เป็นปัญหาที่ค่อนข้างวุ่นวาย…” นางขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดพึมพำเสียงเบา
“ต่อไปเราสามคนพ่อแม่ลูกจะไม่แยกจากกันอีก แล้วเจาเจาล่ะ?” จู๋มั่วถาม สถานีพักแรมเงียบสงัด ไม่มีใครอยู่เลย
แม้แต่คนรับใช้และสาวใช้ก็มีสีหน้าไม่ดี บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด
“ทำไมในสวนถึงดูโล่งเช่นนี้? ระหว่างทางมาก็เงียบเหงาอย่างน่ากลัว” จู่ ๆ จู๋มั่วก็สังเกตเห็นว่าในสวนไม่มีแม้แต่ต้นไม้เขียวขจี มีเพียงกิ่งก้านที่เปลือยเปล่า
“เมื่อคืนเกิดภัยพิบัติจากฝูงตั๊กแตน ชาวบ้านไม่มีอะไรจะเก็บเกี่ยว ตอนนี้พวกเขากำลังช่วยเมืองเหลียนหัวบรรเทาภัยพิบัติ”
“ชาวบ้านไม่สงบ ราชสำนักสั่นคลอน เกรงว่าจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ในโลกมนุษย์”
จู๋มั่วขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่พูดอะไรอีก เตรียมของให้อาอู๋แล้วรีบออกจากเมืองทันที
แน่นอนว่า มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากรวมตัวกันอยู่นอกประตูเมือง
มหาปุโรหิตออกมาปลอบชาวบ้านด้วยตัวเอง แต่ดินแดนของแคว้นฟั่นกว้างใหญ่และมีชาวบ้านจำนวนมาก การเปิดยุ้งฉางและแจกจ่ายอาหารสามารถบรรเทาปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
ซ่านซ่านซบอยู่ในอ้อมกอดของเซี่ยอวี้โจว ใบหน้าเล็ก ๆ ซีดขาว เมื่อวันเป็นวันเกิดครบขวบปีของเขา แค่คิดเขาก็รู้ได้
ต้องเป็นเพราะผู้ใต้บังคับบัญชาทำเรื่องเลวร้ายแน่ ๆ
เมื่อคืนนี้ พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานด้านลบมากมายที่หลั่งไหลเข้ามา
ซ่านซ่านหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาจะไม่ยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาถูกหันชวนจูงจมูกอีกต่อไปแล้ว
“การกระทบกระทั่งเล็กน้อยคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในราชสำนักมีท่านแม่ทัพหรง พี่ชายและลุงของท่าน คงไม่เกิดเรื่องใหญ่”
“แต่ทว่ายุ้งฉางว่างเปล่า คงต้านทานได้อีกไม่นาน ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังสงสัยว่าภัยพิบัติตั๊กแตนครั้งนี้ยังไม่จบสิ้น...”
“แต่เดิมนั้น การจัดทัพครั้งนั้นก็เพื่อรับมือกับภัยพิบัติในโลกมนุษย์ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”
“ต้องถอนรากถอนโคนพวกเขาให้สิ้นซาก” ลู่เจาเจาสูดหายใจเข้าลึก ๆ หลับตาลงครู่หนึ่งแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“ยังไม่หมดแค่นั้น ปีนี้อากาศก็แห้งแล้งอยู่แล้ว ยังมาเจอกับภัยพิบัติตั๊กแตนอีก ทางฝั่งตงหลิงสภาพอากาศเลวร้าย แต่เดิมก็ต้องรุกรานแคว้นเพื่อนบ้านเพื่อความอยู่รอด จนกระทั่งเซวียนจี้ชวนขึ้นครองบัลลังก์ สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้แห่งตงหลิง เรื่องนี้จึงค่อย ๆ ดีขึ้น...”
“ภัยพิบัติตั๊กแตนเริ่มต้นขึ้นจากตงหลิง ชาวบ้านไม่มีพืชผลเก็บเกี่ยว จึงบุกรุกชายแดนเป่ยเจาหลายครั้ง นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณชายรองต้องรีบกลับค่ายทหาร หลังจากภัยพิบัติตั๊กแตน ชาวบ้านต้องกินรากไม้ กินดินขาว ศพเกลื่อนกลาด จึงมีคนคิดจะจับตั๊กแตนมากิน”
เซี่ยอวี้โจวเบิกตากว้าง “พวกเขากินตั๊กแตนงั้นหรือ?”
จุยเฟิงพยักหน้า “ตั๊กแตนทั่วไปอันที่จริงก็กินไม่ได้ แต่ตั๊กแตนพวกนี้ถูกเลี้ยงด้วยซากเน่าและพลังหยิน มันมีพิษร้ายแรงมาก!”
ลู่เจาเจาหยิบตั๊กแตนตัวหนึ่งขึ้นมาจากพื้น ตั๊กแตนตัวอ้วนและอวบแต่ละตัวมีขนาดใหญ่มาก นางช้นิ้วบีบเบา ๆ น้ำสีเขียวเข้มก็ระเบิดออกมา เมือกหยดลงมา น่าขยะแขยงมาก
พลังหยินกระจายออกมาในทันที
“กินไม่ได้”
จุยเฟิงพูดต่อ “ไม่ใช่แค่กินไม่ได้ มันจะทำให้เสียสติอีกด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...