“ท่านลุง ตอนนั้นข้ายังเด็ก ข้าจะสั่งให้ท่านทำแบบนั้นได้อย่างไร” ลู่จิ่งไหวยิ้มอย่างชั่วร้าย
เขาเกลียดลู่เยี่ยนซู
มีสิทธิ์อะไร มีสิทธิ์อะไรมาเรียกท่านพ่อได้อย่างเปิดเผย?
มีสิทธิ์อะไรถึงได้กลายเป็นผู้มีความสามารถได้ง่ายดายเพียงนั้น?
แล้วตนล่ะ?
แม่ของเขาบังคับให้เขาเรียนตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่เขาก็ยังไม่ดีไม่เท่าครึ่งหนึ่งของลู่เยี่ยนซู
แม่ของเขาดุเขาทุกวันเพราะไม่เอาไหน ดุเขาที่รั้งท่านพ่อไว้ไม่ได้ ดุเขาที่รักษาพ่อไว้ไม่ได้ ดุเขาที่เป็นคนโง่ และดุเขาที่ไม่ดีเท่าลู่เยี่ยนซู
เขาเกลียดชังยิ่งนัก
ในที่สุดเขาก็สามารถดึงลูกชายคนโปรดของสวรรค์ผู้นั้นลงจากแท่นบูชาได้แล้ว
ความตื่นตระหนกในใจของลู่จิ่งไหวค่อยๆ กลับมาสงบลง
“เจ้าลุกขึ้นมาได้แล้วจะอย่างไร? ข้ามีน้องสาวอายุห่างกันสิบปี ไหนเลยจะกลัวเจ้า?” ลู่จิ่งไหวหัวเราะเสียงต่ำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
“ตอนนี้เจ้าไสหัวไปจากจวนโหวแล้ว ก็ควรเจ้าได้ลิ้มรสชาติในปีนั้นของข้าบ้าง”
“ทุกอย่างที่เป็นของเจ้าได้กลายเป็นของข้าแล้ว”
“ท่านพ่อ ชื่อเสียง คู่หมั้น ความสามารถของเจ้าล้วนกลายเป็นของข้าแล้ว!”
ลู่จิ่งไหวเดินออกจากวัดที่ผุพัง ไม่สนใจเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธของขอทานเฒ่าเลยแม้แต่น้อย
ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับลู่เจาเจา
นางถือขาแกะสองมือ แล้วเคี้ยวมันอย่างมีความสุข
คนในตระกูลสวี่รีบมาที่ตระกูลลู่
“เดินสองก้าว รีบเดินสองก้าวให้ลุงดูหน่อย” ท่านลุงสามมีใบหน้าตื่นเต้น ท่านป้าสามก็เดินตามมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เวลาปกติสามีของนางมักจะเย็นชาและไม่แยแสนาง ตอนนี้กลับเข้ามาใกล้ชิดนางยิ่งนัก
ลู่เยี่ยนซูไม่เอามือจับกำแพงอีกแล้ว ชายหนุ่มที่ร่างกายสูงสว่างกำลังยืนอยู่ในจวน
“เดินได้แล้ว เดินได้จริงๆ ด้วย”
“น้องสาว เจ้าจะได้ลืมตาอ้าปากเสียทีนะ” สะใภ้หลายคนต่างก็ร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง
“คลังหลวงว่างเปล่า ฝ่าพระบาทไม่สามารถเอาเงินออกมาได้”
“ได้ยินพี่ชายใหญ่บอกว่าฝ่าบาทกำลังคิดหาทางทวงหนี้อยู่”
“งานนี้ ไม่รู้ว่าใครจะซวย ทุกคนต่างพากันหลบซ่อนทั้งนั้น…”
ในราชสำนัก ขุนนางไม่น้อยต่างก็ยืมเงินจากแคว้น หากสามารถทวงกลับมาได้ ก็จะแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้
“ต้องทวง ต้องทวง ขุนนางใหญ่ๆ ในเป่ยเจาร่ำรวยกันทั้งนั้น ลู่เจาเจาพูดในใจ”
เด็กน้อยกลับไม่คิดเลยว่า งานทวงหนี้จะตกอยู่ที่นาง
ในตอนเย็น
มีคนมาจากวังหลวง
“ช่วงนี้ฝ่าบาททรงปวดเศียรอย่างมาก คิดถึงแม่นางเจาเจา จึงส่งคนมารับนางเข้าไปอยู่ในวังสักวันสองวันขอรับ” หวังกงกงมีใบหน้าเป็นมิตร เขารู้ว่าลู่เจาเจามีความสำคัญในพระทัยของฝ่าบาทไม่น้อย
“ท่านแม่ พรุ่งนี้เจาเจาจะกลับมานะ” เด็กน้อยขี่อยู่บนหลังสุนัขตามหวังกงกงไป
สวี่อี้ถิงขมวดคิ้ว “ฝ่าบาท ทรงกระตือรือร้นกับเจาเจาเกินไปหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...