สวี่ซื่อมีสีหน้ากระอักกระอ่วน “พี่ใหญ่ เขาก็กระตือรือร้นต่ออวิ๋นเหนียงมากเกินไปเช่นกัน”
สวี่ซื่อเอ่ยด้วยเสียงเกรงใจ
ดูเหมือนฮ่องเต้อยากจะมีความสัมพันธ์แบบชายหญิงที่ไม่เหมาะสมกับนาง!
แต่ว่ากลับถูกนางปฏิเสธ
สวี่ซื่ออี้ถิง????
ทันทีที่ลู่เจาเจามาถึงห้องทรงพระอักษร ก็ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธดังออกมาจากในห้อง
“ไร้ประโยชน์ ล้วนแต่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น!”
“เงินที่ข้าให้ยืมไป กลับเอาคืนมาไม่ได้!”
“จะเลี้ยงดูพวกเจ้าไปเพื่อประโยชน์อะไรกัน?” ฮ่องเต้ทรงพิโรธอย่างหนัก อย่าคิดว่าเขาไม่รู้กลุ่มขุนนางชราเหล่านี้ล้วนร่ำรวยมากกว่าเขา
เงินที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนให้ยืมไป จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้คืนมา
“ฝ่าบาท กระหม่อมเก็บเงินมาได้เพียงสามพันตำลึง พวกเขาต่างก็บอกว่าไม่มีเงิน” ใต้เท้าอู๋ผู้ช่วยเจ้ากรมคลังต่างก็มีสีหน้าขมขื่น เรื่องเก็บหนี้เช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่ารื่นรมย์และเปลืองแรงที่สุด
ไม่แน่หากทำลวกๆ ก็อาจจะล่วงเกินพวกขุนนางทั้งราชสำนักก็ได้
“เจ้ากรมขุนนางว่าอย่างไร? ตอนแรกเขายืมเงินสามหมื่นตำลึงจากคลังหลวง เป็นเวลามายี่สิบปีแล้ว!” ฮ่องเต้ถลึงตาด้วยความเดือดดาล
ใต้เท้าอู๋ปาดเหงื่อ ไหนเลยเขาจะกล้าไปถามเจ้ากรมขุนนาง?
“ใต้เท้าโจวบอกว่า หากต้องการเงินตอนนี้ยังไม่มี อย่างมากก็ให้ฝ่าบาทหักจากเงินเดือนก็พอพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าอู๋คอหดไป
“เงินเดือน? ไม่ต้องหักไปตลอดชีวิตเขาเลยหรือ!!”
“กระหม่อมส่งคนไปค้นดูแล้วในจวนว่างเปล่าเหมือนย้ายออกจนหมดพ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าอู๋เช็ดมือของเขาด้วยเหงื่อเย็นชา อย่าให้ข้าไปทวงหนี้อีกเด็ดขาด
ฮ่องเต้ทรงพิโรธอย่างหนักจนรู้สึกเวียนหัว
ขุนนางเฒ่าแซ่โจวผู้นี้ มักจะทำตัวเหมือนคนจน ทำให้คนอื่นจับจุดอ่อนเขาไม่ได้
รัชทายาทเห็นเงาเล็กๆ อยู่นอกประตู ก็รีบเดินเข้าไปอุ้มนางเข้ามา “ไม่ร้อนหรือ?”
จากนั้นก็หันหน้ากลับมาสั่งให้ขันทีไปนำเมล็ดแตงแก้ร้อนเข้ามา
“ฝ่าบาท กระหม่อมยินดีอุทิศตนและยอมตายเพื่อเป่ยเจา แต่กระหม่อมไม่มีเงินจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางคนหนึ่งหลั่งน้ำตา กระทั่งเลิกชายเสื้อคลุมขึ้นมาให้ฝ่าบาทเห็นรอยปะชุนบนชุดขุนนางของเขา
เมื่อเข้าประตูมาก็ร้องไห้ก่อน เพื่อปิดเรื่องทวงหนี้เขา
ใบหน้าของฮ่องเต้มืดมน
ขุนนางชราลุกขึ้นมา แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเด็ดขาด “ฝ่าบาท กระหม่อมยินดีบริจาคเงินเดือนสามปีเพื่อบรรเทาภัยพิบัติให้เป่ยเจาพ่ะย่ะค่ะ!”
ขุนนางอาวุโสอีกคนก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกมา “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่กล้าฉ้อโกง กระหม่อมใช้ชีวิตโดยอาศัยเงินเดือนทุกปี เกรงว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ที่ติดพระองค์ได้ แต่กระหม่อมสามารถบริจาคจวนได้ กระหม่อม...ยินดีพาครอบครัวไปเช่าเรือนอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ช่างดีจริงๆ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะมีข่าวลือว่าเราปฏิบัติต่อขุนนางไม่ดีแพร่กระจายออกไป
“ฝ่าบาท กระหม่อมยังมีเงินในบัญชีอยู่หนึ่งพันสองร้อยตำลึง ยินดีจะบริจาคให้ฝ่าบาททั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท ภรรยาของกระหม่อมยังมีสินเดิมอยู่บ้าง…”
เมื่อฝ่าบาทเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาพูดเริ่มจะไม่น่าฟังมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยกมือขึ้น
“เราแค่ถามพวกเจ้าว่าในบ้านแต่ละบ้านสามารถเอาเงินสามหมื่นตำลึงออกมาได้หรือไม่!” มีผู้ยืมเงินทั้งหมดสิบแปดคน ถ้าเอาออกมาได้สามหมื่นตำลึง ก็สามารถทวงกลับมาได้หลายแสนตำลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...