หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 367

คิ้วของนายหญิงใหญ่กระตุกเล็กน้อย

นางจำเรื่องนี้ไว้ในใจ จากนั้นไม่ได้พูดสิ่งใดอีก

รอให้นายหญิงใหญ่จากไป เผยซื่อถึงได้กอดลู่จิ่งเหยาไว้ด้วยความสงสาร

แม้ทั่วทั้งห้องจะจุดผงหอม แต่ก็ไม่อาจกลบเกลื่อนกลิ่นเหม็นได้

“ท่านแม่ เหยาเหยาไม่พอใจอย่างมาก”

“ลำบากเหยาเหยาของแม่แล้ว ลูกวางใจเถอะ แม่ต้องแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน ชีวิตไร้ค่าของนาง แม่ดูสิว่าจะยืมออกไปได้สักกี่วัน!” เผยซื่อจับเงินห้าร้อยตำลึงไว้แน่น

“ท่านแม่ ท่านลองไปดูที่ถนนจูเชวี้ย”

เผยซื่อชะงักไป

“ถนนจูเชวี้ยหรือ? ที่นั่นล้วนเป็นที่พักอาศัยของขุนนางต้องโทษในราชวงศ์ก่อน”

กระทั่งตระกูลเซวียในราชวงศ์ก่อนก็อยู่ที่นั่นด้วย

หลังจากฮ่องเต้องค์ก่อนปราบราชวงศ์ก่อนสำเร็จ เพื่อแสดงความเมตตา จึงไม่ได้สังหารราชนิกุลทั้งหมด

และเพราะการกระทำนี้ ทำให้รวบรวมขุนนางในราชวงศ์ก่อนได้มากมาย เพื่อทำงานให้เป่ยเจาต่อไป

ทว่าการเฝ้าดูถนนจูเชวี้ยของฮ่องเต้ไม่เคยหยุดพักมาก่อน

เพราะอย่างไร ฮ่องเต้ก็ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่ในราชสำนัก ยังมีคนมากน้อยเพียงใดที่มีใจสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ก่อน

“ตระกูลเซวียนคิดจะปราบเป่ยเจาหรือ”

“แต่สายเลือดเดียวของราชวงศ์ ใกล้จะไม่รอดแล้ว...”

เผยซื่อตาลุกวาว

ลู่เจาเจาเป็นองค์หญิงเจาหยาง เป็นคนสนิทของฮ่องเต้

ตระกูลเซวียนในราชวงศ์ก่อน ต้องเกลียดเข้ากระดูกแน่

หากยืมชีวิตของลู่เจาเจา ต่อชีวิตให้ตระกูลเซวีย พวกเขาคงไม่สนใจอะไรแล้ว!

เมื่อฟ้าสาง เผยซื่อรีบพาชายชู้ออกจากจวนอย่างเงียบเชียบ

แล้วส่งไปนอกเมืองในระยะสิบลี้

“เจ้าโกนหัวออกบวชเถอะ จากนี้สามวัน ข้าจะรับเจ้าเข้าจวน”

ขณะนี้ ฮ่องเต้เองก็กลุ้มเรื่องตระกูลเซวียเช่นกัน

“พิธีสักการะ? ตระกูลเซวียยังมีหน้ามาขอทำพิธีสักการะอีกหรือ?”

“หากไม่ใช่ฮ่องเต้องค์ก่อนพระทัยอ่อน ตอนนั้นก็ควรจะขุดสุสานหลวงในราชวงศ์ก่อนขึ้นมาด้วยซ้ำ” ฮ่องเต้เซวียนผิงโยนฏีกาอย่างโมโห

“จำต้องเลี้ยงเอาไว้ เพื่อแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ ตอนนี้กลับกลายเป็นข้าที่ต้องมาจัดการเรื่องบ้าๆนี่!”

“ส่วนขุนนางพวกนั้น ผิวเผินเหมือนภักดิ์ดีต่อข้า แต่ก็ยังแอบเฝ้าสังเกตราชวงศ์ก่อน! จนตอนนี้ ทำให้ข้ายากจะลงมือ!” แววตาฮ่องเต้ดุร้าย

องค์รัชทายาทเปิดฎีกาดู

“มีขุนนางไม่น้อยเห็นด้วยที่จะให้ตระกูลเซวียสักการะหรือ?”

สุสานหลวงตระกูลเซวียยังอยู่ ตระกูลเซวียอยากสักการะ ฮ่องเต้เซวียนผิงจำต้องเห็นด้วย

“คาดว่าสายเลือดสุดท้ายของตระกูลเซวียน่าจะไม่ไหวแล้ว จึงอยากสักการะสุสานหลวงตระกูลเซวีย เพื่อให้สายเลือดสุดท้ายคงอยู่” ฮ่องเต้ตรัสเสียงเรียบ แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

“หากสามารถกำจัดความคิดของราชวงศ์ก่อนได้อย่างสิ้นเชิง เช่นนั้นคงจะสงบสุขสักที” นิ้วมือของฮ่องเต้เคาะบนโต๊ะเบาๆ คล้ายกำลังตรึกตรองบางสิ่ง

“ได้ยินว่าสายเลือดสุดท้ายตระกูลเซวียป่วยหนัก หากสามารถ...” ตัดสายเลือดสุดท้ายทิ้ง จะดีเพียงใด?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์