หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 495

“จึงพาคนไปจับชู้ แต่ชู้ที่จับได้คือชายฉกรรจ์ร่างใหญ่สามคนกับเขา!”

“ชิชะ พวกเจ้าไม่เห็นที่เกิดเหตุตาแทบบอดแล้ว! ขอดวงตาที่ยังไม่เคยเห็นมาเปลี่ยนที!”

ในเมืองหลวงเต็มไปด้วยความโกลาหล ตอนเช้าเขายังไม่ได้ไปเปิดร้านเสียด้วยซ้ำก็รีบเข้ามาร่วมสนทนาด้วยความอยากรู้

“ตอนนี้ในเมืองหลวงวุ่นวายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว หน้าตาของใต้เท้าลู่อับอายไม่เหลือ เมื่อครู่นี้รีบพุ่งมาตบหน้าเขาไปสองฉาด...ยังตะโกนด่าว่าเขาเป็นหายนะของวงศ์ตระกูลเลยนะ!”

“ลู่จิ่งไหวเกรงว่าคงจะจบเห่เสียแล้ว”

เด็กหนุ่มที่ร้านขายยาที่มุงดูอยู่ก็มาเป็นพยานให้ “เดิมทีลู่จิ่งไหวก็เป็นคนเสเพลอยู่แล้ว กินได้ทั้งชายและหญิง ผสมมั่วไปหมด! มาเอายารักษาแต่ละที ล้วนเป็นยารักษาส่วนทวารทั้งนั้น...”

“ครั้งที่แล้วเขายังเอายาที่ทำให้สลบอย่างแรงไปด้วยนะ ยังมีอันนั้นอีก...ยากระตุ้นอารมณ์” แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากเอาไว้ แต่เด็กหนุ่มที่ร้านขายยาก็จำเขาได้ทันที

อวี้ซูดวงตาเบิกกว้างราวกับเจอของล้ำค่า “พระเจ้าช่วย ลูกเล่นเยอะจริง ๆ”

ภาพตรงหน้าของเจียงอวิ๋นเหมี่ยนวูบวาบพร่ามัวไปหมด นางรู้สึกว่าสายตาของลู่จิ่งไหวเหมือนกำลังจะฆ่าคนก็ไม่ปาน และกรีดร้องอย่างทรมานไม่หยุด

นางไม่ได้คิดจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตเลย

แต่ใครจะคิดว่าวินาทีที่ประตูใหญ่ถูกเปิดออก

ก็มีขอทานเด็กนับไม่ถ้วนโผล่พรวดออกมาและตะโกนร้องเสียงดัง “จับชู้ได้แล้ว ๆ “ คำพูดเหล่านั้นเป็นการโยนนางเข้ามาในกองไฟ ไม่มีที่ทางให้หันหลังกลับได้

ขณะนี้เจียงอวิ๋นเหมี่ยนกัดริมฝีปากแน่น “ข้าจะหย่า!”

“ลู่จิ่งไหว ท่านหลอกลวงข้าได้แสนสาหัสมาก!” เจียงอวิ๋นเหมี่ยนไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้ว ถ้านางกลับไปลู่จิ่งไหวจะต้องฆ่านางตายแน่

เจียงอวิ๋นเหมี่ยนจึงพาคนกลับไปที่บ้านแม่ทันที

เรื่องตลกเช่นนี้ดังครึกโครมไปทั่ว

“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ ผู้ใหญ่ประพฤติตัวมิชอบยังไง ผู้น้อยก็จะเลียนแบบในทางมิชอบเช่นนั้น ใต้เท้าลู่เลี้ยงอนุข้างนอกตั้งสิบแปดปี ต้องนี้ถูกกรรมตามทันแล้ว จริงไหม?”

“นี่มันกรรมตามสนองชัด ๆ เขาเลี้ยงดูอนุข้างนอกมาสิบแปดปี ให้กำเนิดลูกชายมาเพื่อมาเลี้ยงดูชายฉกรรจ์!”

ลู่เจาเจาหยิบทองคำสองชิ้นออกมาจากกระเป๋า “ข้าต้องเลี้ยงพี่น้องทั้งหลายดื่มชาเสียแล้ว ลำบากทุกคนแล้ว...” ลู่เจาเจาไม่ได้วางท่าเหมือนเป็นองค์หญิงแต่อย่างใด ยังคงเรียกทุกคนว่าพี่น้องอยู่

เตาปารับเงินมา “ขอบคุณพี่เปียว ท่านวางใจได้ พวกเราจับตาดูเอาไว้แล้ว”

“ชื่อพี่เปียวยังคงดูน่าฟังกว่า องค์หญิงเจาหยางไม่โด่งดังเท่าพี่เปียว” พี่น้องแก๊งขอทานส่วนใหญ่รู้จักนางในนามของพี่เปียว ไม่ได้รู้จักนางในนามขององค์หญิงเจาหยาง

เมื่อเตาปาจากไป อวี้ซูก็พูดใส่นางอย่างเดือดดาล

“บ่าวช่างโง่จริง ๆ เมื่อครู่นี้เห็นสภาพที่น่าสังเวชของลู่จิ่งไหว ยังแอบเห็นใจเขาอยู่บ้าง” อวี้ซูโกรธจนหน้าเขียวปั๊ด

“แต่เขาอยากใช้วิธีสกปรกเหล่านั้นกับคุณชายใหญ่ ตอนนี้ถือว่าเขาสมควรได้รับแล้ว!!” คุณชายใหญ่เป็นอัมพาตมาตั้งสิบปีแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะยืนขึ้นมาอีกครั้งได้

หากได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้อีก ก็ไม่เป็นการเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนหรอกหรือ

“สมควรแล้ว เป็นกรรมที่ควรได้รับ!”

ส่วนทางด้านลู่หย่วนเจ๋อในตอนนี้ เขาโกรธจนถึงขั้นสุดแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์