หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 651

ขุนนางทั้งหลายมองดูเขาด้วยความตกตะลึง!

“แม้ว่าฮ่องเต้ผู้ล่วงลับจะเป็นฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์เป่ยเจา และวางรากฐานสำหรับความรุ่งเรืองเอาไว้ แต่เขาก็ไม่ได้เก่งไปกว่าเรา” ฮ่องเต้ส่ายหัวด้วยความรู้สึกเสียดาย

“เราอาจจะสู้ความยิ่งใหญ่ในการก่อตั้งราชวงศ์ของฮ่องเต้ผู้ล่วงลับไม่ได้ แต่เรามีความโชคดี เพราะเรามีเจาเจา...” เซวียนผิงตี้พูดด้วยความภาคภูมิใจ

เขารู้สึกชนะโดยที่ไม่ต้องพยายามอะไร

ฮองเฮาและเหล่าขุนนาง…

พวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

ฮองเฮาเรียบเรียงคำพูดอย่างยากลำบาก “ฝ่าบาท ฝ่าบาทมีความสุขก็พอแล้วเพคะ”

เซวียนผิงตี้ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแย้มแจ่มใส เดิมทีคิดว่าวันนี้คงจะต้องถูกตบหน้าอีกแล้ว แต่ผลปรากฏว่าพลิกสถานการณ์กลับมาโจมตีแคว้นใต้ได้อย่างหนักหน่วง ความรู้สึกดีใจจึงพลุ่งพล่านอยู่ในใจเขา

งานเลี้ยงในวังครั้งนี้ ทุกคนต่างมีความสุขกันถ้วนหน้า

อ้อ ยกเว้นแขกผู้มาเยือนนะ

จนถึงดึกดื่น งูเก้าหัวจึงพาทุกคนในงานขี่หลังเล่นรอบหนึ่งจนครบ แม้แต่หลี่จื้อซีผู้โชคร้ายก็ยังขี่อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ไปหนึ่งรอบ…

ถึงแม้จะโขกหัวกับคานในวังจนเป็นแผลเต็มหัว เขาก็ยังรู้สึกมีความสุข

แค่ยังมีครบถ้วนทั้งร่างกาย ก็ถือว่าโชคดีแล้ว

การเลี้ยงฉลองในวังสิ้นสุดลงแล้ว เหล่าขุนนางแห่งเป่ยเจาต่างดื่มกินกันอย่างอิ่มเอมใจ

ทูตจากแคว้นใต้ลุกออกจากงานเลี้ยงไปด้วยความโกรธแค้น

เซียงหลิ่วเหลือบมองลู่เจาเจา เมื่อเห็นว่านางไม่ทันได้สังเกต มันจึงรีบวิ่งตามหนานมู่ไป๋ไปอย่างรวดเร็ว

ปลายหางของมันยังม้วนกิ่งหลิวไว้ด้วย

เมื่อกลับถึงสถานทูต

หนานมู่ไป๋ตะโกนเสียงดัง “เซียงเซียง ก้มหัวลง ข้าจะขี่!” เขาเลียนแบบท่าทางของลู่เจาเจาในการสั่งสอนสัตว์ร้าย

ในอดีต พวกเขาเคยทั้งอ่อนน้อมถ่อมตน พูดจาหว่านล้อม และสรรหาสิ่งของมาบูชาเซ่นไหว้ มันไม่เคยถูกเรียกแบบนี้มาก่อนเลย

ตอนนี้…

เซียงหลิ่วยืนอยู่บนที่สูง มองเขาด้วยสายตาหยิ่งยโส เมื่อได้ยินหนานมู่ไป๋พูดเช่นนั้น ดวงตาของงูที่ดุร้ายก็ปรากฏขึ้น

เซียงเซียงงั้นหรือ? นี่ไม่ใช่ชื่อที่เจ้าจะเรียกได้!!

เกล็ดของมันตั้งขึ้น…

ไม่รู้ว่าองครักษ์เงาปรากฏตัวที่ลานตั้งแต่เมื่อไหร่

“ใต้เท้าหมิงประจำการอยู่ในค่ายทหารทุกวัน ข้าไม่กล้าทำอะไรอย่างโจ่งแจ้งเกินไป จึงได้แต่แอบสืบหาข้อมูลมาได้บ้างเท่านั้น”

“จู่ๆ คนที่เราส่งไปเมืองหลวงก็หายตัวไป เกรงว่า...” องครักษ์เงาหยุดชะงักเล็กน้อย

หนานมู่ไป๋หัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนว่า ท่านอาของข้าจะอยู่ในเมืองหลวงสินะ”

“ไปสืบมาว่าในวังหลวงเคยเกิดเหตุการณ์อะไรสำคัญบ้าง แล้วมีบ้านหลังไหนที่ถูกโจรปล้นบ้างไหม”

องครักษ์เงาตอบรับคำ แล้วจากไปอย่างเงียบๆ

หนานมู่ไป๋มองไปยังสัตว์ร้ายที่อยู่ในลาน ด้วยสายตาที่มืดมน

ท่านปู่ของข้าแก่ตัวลงทุกวัน แต่ท่านกลับไม่ยอมสละราชบัลลังก์ให้กับท่านแม่ของข้าสักที ดื้อดึงที่จะออกตามหาลูกสาวที่พลัดพรากอยู่ข้างนอก ใครจะไปรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ท่านแม่มีความเข้ากันได้กับดวงจิตเทพ น้องสาวก็มีความเฉลียวฉลาดปราดเปรียวเกินกว่าใคร แล้วไยจะต้องหวาดหวั่นต่อหญิงสาวผู้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาด้วยเล่า?

ช่างน่าขันสิ้นดี

การอัญเชิญเทพในแคว้นใต้ จะให้ความสำคัญกับพลังแห่งสายเลือดมากที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์