ในช่วงสิบเก้าปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยสัมผัสกับความรักที่รุนแรงและลึกซึ้งขนาดนี้มาก่อนเลย
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักเช่นนี้มาจากไหน
ในการประชุมทุกเช้าเย็น มักจะมีหญิงสาวมาชนตัวเขาเสมอ
หรือไม่ก็มีคนโยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งไว้
มาวันนี้ ถึงกับมีคนพลัดตกลงไปในน้ำ
“วันนี้ขอบคุณแม่นางโจวมากที่ช่วยไว้” เขารู้ดีว่าถ้าไม่ใช่โจวซูเหยาที่โดดลงไปในน้ำ ก็ต้องเป็นเขาแน่นอนที่ต้องโดดลงไป!
โจวซูเหยาโบกมือ “ไม่เป็นไร คุณชายลู่ ต่อไปเจ้านำคนติดตามมาอีกสักหน่อยเถอะ”
“หญิงสาวถูกจำกัดให้อยู่แต่ภายในบ้าน ต้องเชื่อฟังบิดา ครั้นออกเรือนก็ต้องเชื่อฟังสามี ชีวิตไร้หนทางเลือก เพื่อหาคู่ครองที่ดี จึงต้องใช้สารพัดกลวิธี มิใช่เพราะพวกนางต่ำช้า แต่เป็นเพราะนั่นคือหนทางเดียวที่จะเอาชีวิตรอด ล้วนเป็นเพราะความจำเป็นโดยแท้…” โจวซูเหยาถอนหายใจ
โจวซูเหยารู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจากหญิงสาวเหล่านั้น ทุกวันนี้ ผู้คนต่างให้ความสำคัญกับฐานะทางสังคมและการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพ
แต่นางกลับทำไม่ได้ เพราะในสายตาของนาง นั่นเป็นเหมือนดั่งกรงขังที่กักขังนางไว้
หากคนสองคนไม่สามารถมีความรักที่แท้จริงต่อกันได้ นางก็เต็มใจที่จะโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต
“ข้าเข้าใจแล้ว” ลู่เยี่ยนซูพยักหน้า
และในอีกด้านหนึ่ง
“นั่นคือพี่ใหญ่ของข้า เป็นพี่ใหญ่แท้ๆ!” ลู่เจาเจาเอามือเท้าเอว
“ใช่ใช่ใช่ เป็นพี่ชายที่แท้จริง พี่ใหญ่รักข้ามากที่สุดเลยนะ”
“เงินสิบตำลึงสามารถแลกกับพู่กันที่พี่ใหญ่ของข้าเคยใช้ได้…”
“เงินสามสิบตำลึงสามารถแลกกับเก้าอี้ที่พี่ใหญ่ข้าเคยนั่งได้…”
“เงินห้าสิบตำสามารถแลกกับถ้วยชาที่พี่ใหญ่ข้าเคยดื่มได้!”
“แต่ถ้าใครสามารถช่วยข้าทำการบ้านได้ ข้าก็จะยกให้ฟรีเลย” ลู่เจาเจาตาลุกวาว พี่ใหญ่นำโอกาสทางธุรกิจมาให้นางแล้ว!!
ทุกวันก็จะมีเหล่าพี่สาวแสนสวยมาถามไถ่นางว่า พี่ใหญ่ชอบกินอะไร ชอบดื่มอะไร และชอบอ่านหนังสืออะไร
พี่สาวเหล่านั้นป้อนอาหารให้อย่างไม่จำกัด
“ว้าว...ทีมเชิดมังกรออกมาแล้ว...”
มังกรไฟที่เหมือนจริงกำลังแกว่งไปมาอย่างต่อเนื่อง และผู้คนรอบข้างต่างก็ตะโกนส่งเสียงเชียร์
หนานมู่ไป๋ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเหล่านั้น และมองดูผู้คนด้วยความดูถูกเหยียดหยามเล็กน้อย “เชิดมังกรมีอะไรน่าดูกัน? ในแคว้นใต้ของเรา เทศกาลใหญ่ๆ แบบนี้มักจะเป็นพิธีอัญเชิญเทพเจ้า พวกเจ้าเคยเห็นพิธีอัญเชิญเทพเจ้ากันบ้างหรือเปล่า?”
“ดวงจิตที่ประดิษฐานอยู่ในวัดต่างๆ ลงมาสู่โลกมนุษย์โดยคำอัญเชิญของนักบวช แล้วจะโปรยปรายฝนอันแสนหวาน และนำพาโชคลาภมาสู่ผืนแผ่นดิน”
“ไม่เหมือนอย่างพวกเจ้า ที่มองดูสิ่งของไร้ชีวิตแล้วดีใจตื่นเต้น มันมีอะไรน่าสนใจกัน!”
“อ้อ จริงด้วย ข้าลืมไปว่าเป่ยเจาของพวกเจ้าไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นของตัวเองเลย” หนานมู่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง ในแคว้นใต้ ทุกครอบครัวล้วนมีความเชื่อเป็นของตัวเอง!
นั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเอง
ในสายตาของแคว้นใต้ เป่ยเจาก็เป็นแค่ชนบทที่ห่างไกลและกันดารเท่านั้นเอง
“ใครบอกว่าเป่ยเจาของเราไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นของตัวเอง? พวกเรามีเทพธิดาน้อย”
“ใช่ รูปปั้นเทพธิดาของเรานั้นศักดิ์สิทธิ์มาก! ครั้งก่อนยังมีปลาหลี่ฮื้อว่ายข้ามประตูมังกรอยู่เลย” ชาวบ้านรอบข้างทนไม่ได้ที่เขามาดูถูกเป่ยเจา ดังนั้นพวกเขาจึงรวบรวมความกล้าเพื่อตอบโต้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...