“มะนาว คุณฟังผมอธิบายก่อน...” ด้วยท่าทีของฐานภพ จึงได้ทำสีหน้าที่ไม่รู้สึกผิดออกมาอย่างเร่งรีบ “ณิชาตั้งใจลากผมมา ผมไม่ได้เสนอตัว เธอบอกว่าเธอเป็นลมแดด คุณดูสิเธอตัวร้อนผ่าวไปหมด จริง ๆ นะ เชื่อผมเถอะมะนาว หากผมโกหกแม้แต่คำเดียว ขอให้ฟ้าผ่าตายเลย”
มะนาวน้ำตาไหลอาบหน้า แม้ว่าเธออยากจะเชื่อฐานภพมากก็ตาม แต่ความจริงกลับทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจได้
ภายในดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความขมขื่นและความเวทนา
“ที่คุณบอกว่าคุณไม่เคยรักณิชา เป็นณิชาที่เป็นฝ่ายมาตอแยคุณตลอด และตั้งใจคลอดเด็กคนนั้นมาเพื่อรีดไถคุณ! ในเมื่อเธอเป็นลมแดดไปแล้วแบบนี้ ทำไมคุณถึงไม่พาเธอไปส่งให้พนักงานล่ะ กลับพาเธอมาเปิดห้อง แล้วยังถอดเสื้อผ้าของเธอ...”
มะนาวพูดต่อไปไม่ไหว พร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้น “หากคุณยังรักเธออยู่ งั้นต่อไปก็ไม่ต้องมาหาฉันอีก!”
“ผมสาบานได้ ผมไม่ได้ชอบเธอ...”
เมื่อได้เห็นสภาพของมะนาวที่น้ำตาไหลนอง ฐานภพก็ไม่กล้าที่จะหักหน้าเธอจริง ๆ
เขารีบก้าวไปด้านหน้า พร้อมสวมกอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น เพื่อปลอบประโลมเธอ “ผมสัญญา ผมจะรีบให้พนักงานพาตัวเธอส่งโรงพยาบาล โอเคไหม”
มะนาวได้กลิ่นหอมของณิชาบนตัวของฐานภพ จึงผลักเขาออกด้วยความโกรธ “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”
ฐานภพถูกผลักออกอย่างไม่ได้เตรียมตัว
ขณะที่กำลังจะพูดคำพูดดี ๆ ก็เห็นมะนาวเอามือข้างหนึ่งไปจับหน้าท้อง พร้อมสีหน้าที่เจ็บปวด “ท้อง...ฉันปวดท้อง ช่วยด้วย ช่วยลูกของเราด้วย...”
มะนาวเอื้อมมือไปทางฐานภพอย่างยากลำบาก แม้แต่คำคำหนึ่งก็ยังไม่สามารถพูดให้จบได้
ฐานภพตกใจเป็นอย่างมาก พร้อมปรายตามองไปยังณิชาที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสุขุม จากนั้นจึงก้มลงตรวจสอบอาการบาดเจ็บของมะนาว “ทำไมอยู่ ๆ ถึงปวดท้องได้ล่ะ”
“พาฉันไปส่งโรงพยาบาล...”
มะนาวบีบคลึงมือของฐานภพอย่างแนบแน่น จนเล็บมือได้จิกเข้าไปในผิวหนัง
เหงื่อได้ไหลย้อยลงมาทีละหยด ๆ
ฐานภพลนไปชั่วขณะ ไม่อยากที่จะเสียเวลาอีกต่อไป จึงอุ้มมะนาวพร้อมตรงดิ่งไปที่ลานจอดรถใต้ตึกอย่างรวดเร็ว
.…..
เมื่อทั้งสองคนได้ออกไป เงาอันสวยงามก็ได้โผล่ออกมาจากความมืด
แพรได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาเฮือกหนึ่ง
ณิชาที่เพิ่งวิ่งออกไปก็ได้พบกับพี่ชายของเธอ เธอบอกฐานภพไปตามตรงไม่ได้ว่ายาที่อยู่ในตัวของณิชาเป็นฝีมือของเธอ แต่โชคดีที่มะนาวให้พี่ชายของเธอ...
เธอได้เตรียมชายร่างกำยำไว้ให้ณิชาหลายคน เพื่อที่จะได้ไม่มายุ่งกับพี่ชายของเธอ
แพรได้พาชายร่างกำยำสามคนนำตัวณิชาไปยังห้องที่ได้เตรียมไว้ตอนแรก
ณิชาถูกโยนลงบนเตียง
ลากกันไปลากกันมา ณิชาก็ได้สติกลับมาเล็กน้อย
เธอรู้สึกเจ็บแผลที่ขาเป็นอย่างมาก จนทำให้เธอลืมตาขึ้น
แสงในดวงตาที่เปล่งประกายดุจสายหมอก มองไปยังชายรูปร่างกำยำสูงโปร่งอย่างจนปัญญา
ภาพเงาดำของผู้คนที่สุมหัวกัน ขณะที่ณิชาได้ข่มใจมองภาพภายในห้อง เหล่าชายหนุ่มที่ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย ก็ได้เดินเข้ามาหาเธอ...
เธอทำได้เพียงขดตัวอยู่บนเตียงอย่างสุดกำลัง “อย่าเข้ามานะ....แพรให้เงินพวกแกเท่าไหร่ ฉันให้สองเท่าเลย...ปล่อย...ปล่อยฉันไปเถอะ...”
ชายร่างกำยำสามคนนั้นได้เข้ามาใกล้ณิชา แต่ไม่ได้ปรี่เข้ามาอย่างรีบร้อน
แต่กลับวนอยู่รอบณิชาก่อน ราวกับว่ากำลังพิจารณาอาหารอันโอชะ ว่าจะขย้ำเข้าปากอย่างไร
เมื่อทั้งสามคนเข้ามาใกล้ ณิชาก็ได้กลิ่นเหม็นตลบอบอวน
“พวกเราเป็นขอทานอยู่ใต้สะพานลอย ไม่ได้เล่นกับผู้หญิงมานานมากแล้ว คุณแพรให้งานดี ๆ แบบนี้มา จะให้พวกเราผิดคำพูดได้ยังไงล่ะ” หนึ่งในชายเหล่านั้นจ้องมองมายังณิชาอย่างหื่นกระหาย
ณิชาหายใจไม่ทั่วท้อง เอามือปิดปากเพราะคลื่นไส้อยู่หลายครั้ง
แพรมองดูฉากนี้อย่างสะใจ พร้อมกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวพวกแกได้สนุกแน่ มาตั้งกล้องก่อน ดูมุมให้ดีด้วย อย่าให้ถ่ายเห็นหน้าฉันล่ะ”
เหล่าชายหนุ่มต่างพากันพยักหน้า พร้อมถูฝ่ามือ แววตาที่หื่นกระหายส่องประกาย พรั่งพรูเอ่อล้นออกมา
จู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นภายในห้อง
.….
น้ำตาลที่ถือแก้วไวน์อยู่ท่ามกลางงานเลี้ยง เธอจิบไวน์คำแล้วคำเล่า
คล้ายกับกำลังรอบางอย่างอยู่
ลองนับเวลาดู ณิชาถูกพาขึ้นไปนานขนาดนี้ น่าจะนานพอตัวแล้วหรือเปล่า
ติ๊งต่อง
ในเวลานั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พร้อมข้อความที่เข้ามา
“จัดการเรียบร้อยแล้ว เริ่มแผนต่อไปได้เลย”
รอยยิ้มจาก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของน้ำตาลทันที กำจัดณิชาก่อน ไม่ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเวธัสจะเป็นแบบไหน ต่อไปเวธัสก็คงไม่ชอบเธอแล้ว และตัวเธอเองก็จะมีโอกาส
เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็เห็นเงาของเวธัสแล้ว...
ชุดสูทที่เรียบกริ๊บห่อหุ้มเรือนร่างที่แข็งแรงสง่างามของเขาเอาไว้ ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรกับชาลีอยู่ การเคลื่อนไหวนั้น เหมือนราชาผู้สูงส่ง ดูสง่าและเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
นี่ถึงจะเหมาะกับการเป็นผู้ชายของน้ำตาล ต่อให้เธอจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเขา แต่ก็จะเป็นผู้ชายที่เธอจะไม่มีวันลืม
น้ำตาลยกกระโปรงขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาทันที “คุณเวธัส สวัสดีค่ะ ไม่รู้ว่าคุณจะจำฉันได้ไหม ฉันชื่อน้ำตาล เมื่อก่อนเคยทำให้คุณเคืองมาเยอะ หวังว่าคุณจะไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยพวกนี้นะคะ”
เวธัสเหลือบมองเธออย่างช้า ๆ “ลืมไปแล้วล่ะ”
น้ำตาลเก็บสีหน้าไม่อยู่เล็กน้อย เขาเกลียดเธอขนาดนั้นเลยเหรอ
เธอคิดถึงณิชาขึ้นชั่วขณะ พลันรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย พร้อมแสร้งกล่าวกับชาลีด้วยท่าทีที่เป็นห่วงเป็นใย “จริงด้วย พี่คะ พี่เพิ่งมาด้วยกันกับณิชาหรือเปล่าคะ เหมือนฉันจะเห็นเขาขึ้นไปเปิดห้องกับผู้ชายที่ชั้นบนเลยนะ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...