กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 105

“ไอ้โง่ ก็ถอดปลั๊กไฟออกสิ!” เดือนอุทานด้วยความโกรธ รังเกียจเจ้าภาพที่ชักช้า ตัวเองเลยวิ่งโซซัดโซเซไปดึงปลั๊กออก

แต่ว่าเธอโกรธจนรีบเกินไป จนไม่ทันระวังขั้นบันไดที่อยู่ใต้เท้าเธอ เธอเลยสะดุดล้มลงกับพื้น ขาชี้ฟ้า กระโปรงถูกถลกขึ้นมา เผยให้เห็นกางเกงเลกกิ้งสีเนื้อที่อยู่ด้านใน

ความเขินอายถึงขีดสุด เธอจึงรีบจัดการกับกระโปรงของเธอ

“เอ๋ ไม่น่ามองเลย…”

“แพรและแม่เธอน่าขยะแขยงมาก!”

“ได้ยินมาว่าลูกสาวของทัตพงษ์จะต้องแต่งงานกับลูกชายของเดือน? เป็นลูกสะใภ้ของเธอ ฉันเสียใจแทนคุณมะนาวคนนั้นจริงๆ…”

เมื่อเดือนล้มลงแล้ว ไม่สามารถฟังคำเยาะเย้ยของพวกแขกได้

เธอที่ตาแดงก่ำ ลุกขึ้นและรีบพุ่งไปข้างหน้าจอใหญ่ มองหาปลั๊กไฟอย่างบ้าคลั่ง ใช้เวลานานกว่าจะถอดปลั๊กไฟออกได้

ในฉากสุดท้ายของวิดิโอ ชายคนนึงถือมีด ก่อนจะใช้มือกรีดลงบนหน้าด้านขวาของแพร

เลือดพุ่งออกมาที่แก้มของเธอ แพรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด…

จึก

ปลั๊กไฟถูกถอดออก หน้าจอมืดลง

ใบหน้าของน้ำตาลซีดราวกับกระดาษ

สิ่งสุดท้าย เป็นสิ่งที่เธอขอ

คนพวกนั้นต้องการทำลายรูปลักษณ์ของณิชา เพื่อที่เธอจะได้ไม่สามารถหลอกล่อเวธัสได้อีก แต่ว่าสุดท้ายมีดเล่มนั้นก็กรีดลงบนหน้าของแพร

เดือนก็เสียสติไปหมดแล้ว ในสมองเหลืออยู่เพียงแค่สองคำ

จบแล้ว

มันจบแล้ว แพรถูกข่มขืน ชื่อเสียงก็ล่มจม ความบริสุทธิ์ก็หายไป อนาคตก็ยิ่งสับสนไปอีก เธอเพียงแค่สลบไปครู่หนึ่ง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?

เธอทรุดตัวลงกับพื้น ราวกับถูกสูบแรงจนหมดทั้งตัว

เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้งด้วยความงงงัน และมองไปรอบๆ มีแขกรับเชิญนับไม่ถ้วนที่มีท่าทีดูสนุกสนานกับการร้บชมการแสดง ในมือถือโทรศัพท์ไว้ พูดคุยเกี่ยวกับหนังสั้นที่ถ่ายทำ จนกระทั้งอัพโหลดคลิปลงบนอินเทอร์เน็ต

สิ่งที่เกลียดที่สุด แล้วณิชาล่ะ ?

คนที่ควรจะโดนปล่อยคลิปไม่ใช่ณิชาหรอ?

น้ำตาลกับเดือนรีบพาคนขึ้นไปช่วยแพร

แพรระทมทุกข์ด้วยแผลทั่วร่าง ร่างกายเธอมีเลือดไหลออกมา

เดือนรีบใช้ผ้าห่มคลุมตัวแพรและรีบนำเธอส่งโรงพยาบาล

ตอนหมอวินิจฉัยแพร น้ำตาลฝืนใจทำอารณ์ให้สงบ โชคดีที่แพรสลบไป ไม่งั้นเธอคงจะพูดจาเปิดโปงเธอ

“บาดแผลบนหน้าของคุณผู้หญิงคนนี้ลึกถึงกระดูก ต่อให้หายดีแล้วก็จะเหลือรอยแผลเป็น นอกจากนี้ตามร่างกายก็มีการฉีกขาดอย่างรุนแรง พวกเราทำการเย็บเรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้ไม่เหมาะจะขยับตัว ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น…”

หมอในเสื้อกาวน์สีขาวออกมาจากห้องฉุกเฉิน พูดกับน้ำตาลในขณะที่เขากำลังถอดหน้ากากออก

เมื่อเดือนได้ยินคำพูดของหมอ ต่อให้ฟ้าดินถล่มก็คงไม่ทรมานเท่านี้

เธอเกือบจะยืนไม่อยู่ เธอล้มลงคุกเข่า ดวงตาแดงก่ำ เธอดึงหมอมาแล้วแผดเสียงใส่ “ไม่มีวิธีรักษาแล้วหรอ หน้าของเธอ…แพรรักความสวยงามที่สุด การทำให้เธอเสียโฉมจะให้เธอใช้ชีวิตยังไง?”

หมอส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “พวกเราพยายามทำเต็มที่แล้ว แต่ว่าบาดแผลรุนแรงเกินไป”

ตรงข้ามกระจก เดือนมองแพรที่นอนสลบอยู่ด้วยความปวดใจ

ร้องไห้จนแทบจะเป็นลม

น้ำตาลลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอพยุงเดือน ก่อนจะกัดปากอย่างกล้ำกลืน “คุณป้าคะ เรื่องนี้โทษฉันเถอะ มันเป็นความผิดของฉัน ถ้าหากไม่ใช่ฉัน ก็คงไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น”

“เธอพูดมาสิ ตกลงทั้งหมดนี้มันเกิดอะไรขึ้น!” เดือนจ้องเธอด้วยดวงตาสีแดงก่ำที่เบิกกว้างที่เหมือนกับงูพิษไปทางน้ำตาล

อะไรคือบอกว่าเรื่องนี้ให้โทษเธอ เธอทำอะไร

น้ำตาลตกตะลึงกับท่าทีของเดือน ข้อมือก็ถูกบิดจนเจ็บปวดมาก

แต่ว่ายิ่งเดือนโกรธก็ยิ่งดีสำหรับเธอ

เมื่อเขาคิดว่าณิชาจะไม่รับสาย ทันใดนั้นก็มีสายโทรเข้า

ดวงตาของฐานภพเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารีบถามด้วยความรวดเร็ว “ณิชา เธอไปไหน? เธอรู้ไหมตอนนี้เธออันตรายมาก บอกที่อยู่เธอมา ฉันจะส่งคนไปรับเธอไปโรงพยาบาล!”

“อืม…” แต่สิ่งตอบกลับมาให้ฐานภพกลับเป็นลมหายใจที่แผ่วเบา

ฐานภพฟังออกนี่คือเสียงของณิชา เส้นเลือดบริเวณหน้าผากของเขาก็ตึงเครียด

อีกด้านหนึ่ง

เวธัสพาณิชาออกจากโรงแรมมา เขาตั้งใจจะพาเธอไปโรงพยาบาล แต่ในรถก็คับแคบ ณิชาก็เดินโซซัดโซเซราวกับไม่มีกระดูก

เธอรู้สึกร้อนมากและไม่หยุดที่จะเปลื้องผ้าออก

“อึดอัด ฉันอึดอัดจัง ช่วยฉันด้วย ขอร้องช่วยฉันด้วย…”

เดิมทีชุดนั้นเป็นคอเสื้อกว้าง แต่เมื่อเธอดึงแบบนี้ ชุดก็เลื่อนลงมาเกินครึ่ง เผยให้เห็นผิวขาวราวกับหิมะ ฟันของเธอกัดริมฝีปากล่าง ใบหน้าเล็กๆที่มีเสน่ห์ของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทำอะไรไม่ถูก…

เวธัสมองผ่านๆ กล้ามเนื้อของเขาเกร็งมาก น้ำเสียงก็หยาบ เขากดเธอกลับไปบนที่นั่ง “อย่าขยับ!”

“อือ…ไม่เอา”

แต่ในขณะที่เวธัสขับรถไปกลางถนน ณิชาก็ไม่รู้ไปจับโดนอะไรเข้า ได้ยินแค่เสียงคลิก เข็มขัดนิรภัยก็ปลดออก และเธอก็ตกลงไปในอ้อมกอดของเวธัส

ไหลไปตามหน้าอกอุ่นๆ และค่อยๆ เลื่อนลงไป

ในที่สุดใบหน้าเล็กๆ ก็ติดอยู่ใต้เข็มขัดเพชรของชายหนุ่มก่อนจะหยุดลง

ความเย็นยะเยือกของเข็มขัด ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

เธอยังคงไม่หยุดที่จะแกะเข็มขัดของเวธัส ราวกับว่ายิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกสบาย…

เอี๊ยดๆ

มือเวธัสจับพวงมาลัยด้วยมือที่สั่น ในขณะที่รถกำลังขับบนถนนโค้งเป็นรูปตัวเอส จนเกือบจะโดนรถที่ขับตามมาด้านหลังชนเข้า เท้าข้างนึงของเขาจึงเหยียบเบรก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊