“พวกโทรสแปม ”ณิชาวางสายโดยแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไร
หัวใจกลับบิดจนรวมกันเป็นก้อน……
คนปริศนาโทรมา จะบอกเธอว่าอะไร?
เหตุผลบอกเธอว่าเธอควรหาทางกลับไปที่ชั้นบนสุดของร้านกาแฟตอนนี้ แต่เธอกับเวธัสไม่มีทางที่จะแยกจากกัน
เธอยืดหลังตรงและขึ้นรถ เวธัสเหลือบมองโทรศัพท์ในมือของเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
รถขับออกไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก เมื่อเพิ่งผ่านสี่แยกไฟแดง ระหว่างรอสัญญาณไฟเปลี่ยน โทรศัพท์ของณิชาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
สัญชาตญาณของณิชาบอกว่าเป็นคนปริศนาคนนั้น เธอไม่มองหน้าจออีกต่อไป และตัดสายทิ้งไปในทันที
แต่ว่าตอนเธอหยิบโทรศัพท์ออกมา ยังไม่ทันจะได้ตัดสาย เวธัสที่นั่งอยู่เบาะคนขับยื่นมือที่เรียวยาวออกมา แล้วก็แย่งโทรศัพท์ของณิชาไปในทันที
“เดี๋ยวผมช่วยดู ว่าใครกล้าขนาดที่จะมารบกวนคุณ? ” น้ำเสียงของเขาจริงจังมาก ดูเคร่งขรึมอีกด้วย
ณิชารู้สึกตื่นตระหนกจนถึงขีดสุด เธอรีบยื่นมือไปแย่งคืนมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้อง เอาโทรศัพท์คืนฉันมานะ!”
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนปริศนากล่าวถึงลูกทั้งสอง และเวธัสเจอความลับเข้า?
ณิชากลัวมาก พยายามสุดชีวิตเพื่อแยกโทรศัพท์กลับมา
แต่แขนของเวธัสนั้นยาวกว่าเธอ แถมเขาเป็นผู้ชายด้วย และความแข็งแกร่งของเขาก็มากกว่าณิชามาก ระหว่างพวกเขาทั้งสอง เธอบังเอิญพุ่งเข้าใส่หน้าอกของเวธัสอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เวธัสวางมือข้างหนึ่งไว้ที่หลังคอของเธอ ณิชาถูกกดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ลมหายใจเธอใกล้กับต้นขาของเขา ณิชาอับอายจนกลายเป็นโกรธ จึงเอื้อมมือไปตีข้อพับขาของเขา
เวธัสไม่ขยับเขยื้อน นิ้วที่ข้อต่อชัดเจนของเขากดปุ่มรับสาย……
หัวใจของณิชาแทบจะหลุดออกมาจากลำคอ เธอแข็งทื่อไปทั้งตัว
แต่สิ่งที่ได้มาไม่ใช่การสอบถามจากบุคคลปริศนา แต่กลับเป็นเสียงของเด็กน้อย——
“หม่ามี๊ ทำไมสองวันนี้ไม่กลับบ้านครับ? ”
ณิชาอึ้งไปในทันที
เวธัสหรี่ตาลง รถก็เงียบไม่มีใครพูดอะไร
วินาทีนั้น ปัณณ์ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่เป็นกังวลที่ณิชาไม่กลับบ้าน ก็เลยถามอย่างเป็นห่วงต่อว่า “หม่ามี๊ ยังฟังอยู่ไหม? การแข่งขันไม่ค่อยราบรื่นเหรอครับ? ……”
เส้นประสาทตึงเครียดของณิชาค่อยๆ คลายลง เป็นสายเรียกเข้าจากปัณณ์ ไม่ใช่คนปริศนาคนนั้น
“หม่ามี๊ของนายอยู่กับฉัน คืนนี้ไม่กลับบ้าน”เวธัสขมวดคิ้วเข้าหากัน สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าณิชาไม่ได้เครียดเหมือนเมื่อกี้แล้ว แล้วทิ้งประโยคนี้ให้ปลายสาย แล้วก็ตัดสายในทันที
ภายในรถ ณิชาอาศัยตอนที่เวธัสไม่ได้ใส่ใจผลักเขาออก แล้วก็แยกโทรศัพท์มาจากมือเขา และก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เธอเปิดประตูรถ แล้วก็วิ่งหนีออกไป
ดูเหมือนว่าอีกก้าวหนึ่ง ความลับของเธอจะถูกค้นพบ……
เวธัสจ้องมองดูแผ่นหลังของเธอหายไป สายตาของเขาก็เริ่มมีความเยือกเย็น
สรุปแล้วเธอจะมาเจอใครกันแน่ และรอสายจากใครอยู่?
“สืบให้หน่อย ว่าณิชามาที่ร้านกาแฟเพื่อเจอใคร และทำอะไร”เวธัสโทรหาเอก ออกคำสั่งตรงๆ และเสียงเบาเหมือนลมหนาวทำให้คนฟังรู้สึกหนาวเหน็บ
……
ณิชาวิ่งออกจากห้างJN ขึ้นแท็กซี่ กำโทรศัพท์แน่น เส้นเลือดที่หลังมือของเธอดูเหมือนจะนูนออกมา แต่เธอยังไม่หายจากอาการประหม่าในตอนนี้
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็มองไปรอบๆ ด้วยความใจฝ่อ
นี่คือคู่แข่งทางธุรกิจของเวธัส หรือเป็นคนในตระกูลสนธิไชยที่มีความขัดแย้งกับเขา?
ณิชารู้สึกปวดขมับ
ราวกับตกลงไปในเหวลึกและลึกลงไปเรื่อยๆ ……
จู่ๆ เธอก็คิดอยากจะหนี!
ก็แค่พาลูกทั้งสองคนหนีออกไปจากเมืองพร ไปไกลได้แค่ไหนยิ่งดี……
แต่ความจริงแล้ว ณิชาก็จะทำแบบนี้แหละ เธอเปลี่ยนเส้นทางกับคนขับ ให้ไปรับเจนนี่
เธอบอกเจนนี่เรื่องไร้สาระทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอ
“เจนนี่ ฉันอยากหนีไปกับลูกอีกสองคนของฉัน……”ณิชารู้สึกเครียด จับมือของเจนนี่เอาไว้ ตอนพูดก็สะอื้นเล็กน้อย
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนสืบเรื่องของปัณณ์และน้องอรัล
และแม้แต่เอาความลับนั้นมาข่มขู่เธออีก
ก้าวต่อไป หรือว่าบุคคลปริศนาต้องการให้เธอขายเวธัสงั้นเหรอ?
และเห็นได้ชัดว่าเวธัสเตรียมพร้อมแล้ว
ตราบใดที่เขาสืบลึกลงไปอีกหน่อย ความลับของเธอและปัณณ์จะเก็บไม่ได้อีกต่อไป……
เจนนี่ฟังณิชาเล่าเสร็จ ก็อ้าปากค้าง จนแทบจะยัดไข่เข้าไปได้ทั้งฟอง
“เธอ……เธอกำลังจะบอกว่า ปัณณ์ไม่ใช่ลูกของผู้ชายสถุนอย่างฐานภพ แต่ว่าเป็นเวธัสงั้นเหรอ? คุณพระคุณเจ้า เธอโชคดีอะไรแบบนี้เนี่ย ถ้าเกิดว่าเธออุ้มปัณณ์ไปหาญาติอย่างเปิดเผย ไม่แน่ว่าเธอจะกลายเป็นเศรษฐินีในเวลาไม่นาน ทำไมต้องหนีด้วยล่ะ น้องปัณณ์กับน้องอรัลจะปกป้องเธอเอง……”
เมื่อจมอยู่ในความลับอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เจนนี่ได้จินตนาการถึงเนื้อเรื่องของละครหลังข่าวในใจของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...