“……”
“พี่กันญ่าเป็นแฟนพี่ชายผมมาตั้งสี่ปี แต่พอคุณปรากฏขึ้นพวกเขาก็เลิกกันเลย! ผมขอเตือนคุณนะ ถ้าคุณกล้าทำเรื่องอะผิดต่อพี่ชายผม ผมจะจับคุณโยนลงทะเลให้ฉลามมันกิน!”
“……”
“คุณได้ยินผมพูดอยู่มั้ยเนี่ย?”
จากนั้น วินาทีที่คำพูดของมาวินเพิ่งสิ้นสุดลง ณิชากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่บีบเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จู่ๆ เธอก็คว้ามือของ มาวินอย่างทันทีทันใด เพื่อดึงเขาให้วิ่งไปยังลานจอดรถ
“คนเหล่านี้ไม่เป็นมิตรแน่ อย่าหันกลับไป วิ่งไปทางข้างหน้า!”
มาวินถูกณิชากระชากมาแบบนี้ จนร่างกายทรงตัวไม่อยู่แล้ว
พอหันศีรษะไป แก๊งรถพวกนั้นก็เขยิบเข้ามาใกล้เรื่อย พลันเหยียบเบรกและจอด จากนั้นมีผู้ชายใส่เสื้อแจ๊กเก็ตสีดำลงมาจากรถ ใส่หมวกกันน็อค ในมือยังถือกระบองไฟฟ้าไว้หนึ่งอัน
เดิมมาวินยังสบถด่าพวกเขาว่าเป็นไอ้พวกโง่อยู่ แต่หลังจากที่มองรูปพรรณสัณฐานจนชัดเจนแล้วถึงกลับตะลึงงันทันที
เวรเอ๊ย ทุกคนต่างโหดร้ายทารุณมาก มีความพยาบาทอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งไม่ใช่กลุ่มคนพวกนั้นที่เขาเรียกมา...
แล้วมันโผล่มาจากไหนเนี่ย?
ราวกับโดนณิชาฉุดกระชากลากถูกให้วิ่งเข้ามาในลานจอดรถ ทางด้านหลังก็มีคนพวกนั้นตามมาติดๆ
“หยุด! อย่าหนี—"
ถ้าหยุดก็แปลกแล้วแหละ ณิชาดึงมาวินให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
เธอใส่ส้นสูงจึงเดินเหินไม่ค่อยสะดวก จึงถอนรองเท้าทันที และใช้เท้าเปล่าวิ่งอย่างบ้าคลั่งบนพื้น และไม่ไปคิดว่าคนเหล่านี้ใครเป็นคนส่งตัว ความคิดเพียงอย่างเดียวณิชาก็คือการหนีเอาตัวรอดไปได้อย่างใด
การวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเช่นนี้ ต้องวิ่งหนีคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังไม่รอดแน่...
พวกเขามีการเตรียมการไว้ก่อนที่จะมา
มาวินสับสนเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะแสร้งทำตัวมีประสบการณ์โชกโชน แต่ก็แค่วัยรุ่นที่มีอายุ 17-18ปีเท่านั้นเอง
แม้ว่าจะตีหน้าขรึมเป็นคนกล้าหาญ แต่ยังมีเสียงสั่นเล็กน้อย “คนเหล่านี้มาทำอะไรเหรอ?”
ณิชาครุ่นคิด และก็ให้คำตอบที่มีความเถรตรงมา--
“ฉันเดาว่า น่าจะเป็นศัตรูทางธุรกิจของพี่ชายของคุณ หรือว่า...คนของพี่เก้าของคุณ ต้องการข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการเมืองในเมืองจากปากของพวกเรา
มาวินกลืนน้ำลาย ทำไมรู้สึกว่าทุกคยต่างชอบเล่นวิธีการเหมือนๆ กันนะ?
เขาก็อยากฉวยโอกาสในการทดสอบณิชา…
ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการเรียกอริตัวจริงมา!
ตอนนี้ควรจะทำอย่างไรดี?
ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนคนมาก ความแข็งแกร่งก็สู้พวกเขาไม่ได้
ท่ามกลางความตื่นตระหนก ณิชาวิ่งไปทางด้านหน้า พร้อมทั้งคอยชะเง้อคอมองโดยรอบอย่างเคร่งเครียด
ทันใดนั้น เธอก็มองเห็นถังขยะสีดำที่อยู่ในจุดที่ไม่ไกลนัก
ตอนกลางคืนถุงขยะทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นในเวลานี้ด้านในถือว่าสะอาดมากเป็นพิเศษ
เธอคว้ามือของมาวินทันที พลันผลักเขาไปอยู่มุมอับ จากนั้นก็พลิกถังขยะขึ้นเพื่อครอบลงบนร่างกายของเขา มาวินตื่นตระหนกพร้อมทั้งชะเง้อมองฉากนี้ พลันตะคอกเสียงเข้ม “นี่คุณจะทำอะไร?”
“คุณแอบอยู่ที่นี่ ฉันจะแยกคนพวกนั้นออกจากคุณเอง...” ณิชาพูดออกมาทันที โดยไร้การไตร่ตรอง
มาวินที่เตรียมจะปฏิเสธณิชาแต่ร่างกายกลับแน่นิ่งทันที จ้องมองเธอราวกับคนโง่เขลา พลันพูดอย่างไม่เชื่อ “คุณ...คุณบ้าไปแล้วเหรอ? คนที่ต้องออกไปล่อให้ไปทางอื่นมันคือผม ผมเป็นผู้ชายนะ!”
“นายอายุยังไม่ถึง 18 ปี ในสายตาของฉันก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง! เชื่อฟังนะ รอให้คนพวกนั้นไล่ตามฉันไปไกลแล้ว นายค่อยให้พี่ชายนายมาช่วยฉัน....”
ในเวลาคับขัน ณิชาไม่ปล่อยโอกาสให้มาวินต่อสู้ต่อ พลันปิดฝาถังขยะลงทันที
มาวินยังอยากจะขัดขืนต่อ แต่ฝีเท้าพวกนั้นมันก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว...
“เธออยู่นั่นไง! หยุด ตามไปเร็ว—"
เธอกำไว้แน่นมากถึงมากๆ เขาลองหยิบจี้หยกออกมา แต่เธอกลับขู่ฟ่อเหมือนแมวพลันกัดเขาอย่างดุร้ายทันที แถมยังใช้เล็บข่วนเขา ข่วนแผงอกของเขาจนมีเลือดไหลซึมเป็นรอยขีด ท้ายที่สุดเขาก็จนปัญญา ได้แต่ปล่อยเธอไป
ความโศกเศร้าปรากฏอยู่ในดวงตาคมกริบ เวธัสแหงนหน้าขึ้นเพื่อกระดกน้ำที่อยู่ในมือจนหมดขวด
ครืด ครืด ครืด
โทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างสั่นเทาขึ้นมาในเวลานี้
เวธัสเห็นว่ามาวินโทรเข้ามาหา พลันขมวดคิ้วทันที
“มีเรื่องอะไร?”
“พะ...พี่ ถ้าผมพูดพี่อย่าต่อยผมนะ” เสียงมาวินที่อยู่ปลายสายเบามาก ราวกับมีอาการกังวลเล็กน้อย “ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมก็แค่อยากจะช่วยลองใจว่าเธอมีความจริงใจกับพี่ก็เท่านั้นเอง”
ลองใจความจริงใจของเธอเหรอ?
ณิชา…
กร๊อบ ขวดน้ำแร่ในมือถูกเขาบีบเล็กน้อยจนเปลี่ยนรูปร่างทันที นัยน์ตาดำของชายหนุ่มเย็นชาสนิท พลันพูดโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “นายทำอะไรกับเธอ?”
……
ณิชาถูกพาตัวมายังโกดังร้างแห่งหนึ่งเขตชานเมือง ซึ่งมันเหมือนว่าถูกทิ้งร้างมานานมากแล้ว และละแวกใกล้เคียงไม่มีคนมาจนเงียบสงัด ซึ่งปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ทอแสงลงอย่างเงียบสงบ ทำให้อ้างว้างโดดเดี่ยวว้าเหว่เหลือเกิน
ผู้ชายหิ้วตัวเธอมา และโยนตัวเธอราวกับโยนลูกเจี๊ยบจนนั่งจุมปุ๊กอยู่ที่พื้น
พวกเขาใส่หมวกกันน็อคไม่เคยแม้จะถอดออกมาตั้งแต่ต้นจนถึงเวลานี้ น่าจะกลัวว่าณิชาจะเห็นหน้าคร่าตาเข้า จึงใช้สายตาดุร้ายคู่นั้นในการจดจ้องมองณิชา เพื่อให้ณิชาเกิดความรู้สึกเป็นภาพหลอนว่าจะถูกกลืนกินได้ตลอดเวลา!
“คุณณิชา การที่พวกเราเชิญคุณมา ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไรเลย ตราบใดที่คุณยอมพูดออกมาถึงข่าวคราวโครงการเมืองในเมืองในครั้งนี้ พวกเราจะปล่อยคุณกลับไปอย่างนอบน้อม คุณคิดว่ายังไงครับ?”
ตอนที่พูด ผู้ชายยังตั้งใจสะบัดปลายแหลมคมในมือด้วย ความเย็นชาที่เปล่งประกายจากใบมีด มันสะท้อนแสงเย็นเฉียบออกมา สะบัดจนณิชาไม่ยอมลืมตา จนเกิดความรู้สึกหวั่นใจที่มากขึ้นอยู่ในใจ...
“ฉันเป็นแค่เสมียนของสนธิไชยกรุ๊ปก็เท่านั้นเอง ซึ่งมันไม่สามารถแตะต้องเอกสารโครงการเหล่านี้ที่แกพูดถึงเลย แกถามฉันถามผิดคนแล้วแหละ ฉันขอร้องให้พวกแกปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะทำเป็นว่าเรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย...”
เธอถอยหลบไปทางด้านหลังอยู่ตลอด มองดูแล้วก็หวาดกลัวเหลือเกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...