พ่อแม่ของมาวินอยู่ออสเตรเลียระยะยาว
ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ใกล้ๆ กับคฤหาสน์สนธิไชยตัวคนเดียว และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอยู่บนพรมบนพื้นในห้องนอน ในมือถือเกมแพด กำลังฆ่าสัตว์ประหลาดในหน้าจอLCDที่แขวนอยู่บนผนัง
ปากเอาแต่ด่าไม่หยุด เพื่อระบายความโกรธ……
และโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นในสถานการณ์นี้
เขากำลังเล่นเกมอย่างฮึกเหิม ไม่ได้คิดจะรับโทรศัพท์เลย
แต่ว่าโทรศัพท์นั้นก็ดังอย่างต่อเนื่อง พอเสียงมันดับไปตามธรรมชาตินั้น มันก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่งทันทีอย่างไม่ขาดตอน เหมือนกับว่าถ้าเขาไม่รับสาย อีกฝ่ายก็จะเอาแต่โทรอยู่แบบนั้น
สุดท้าย มาวินก็รู้สึกรำคาญ เลยโยนเกมแพดทิ้งและรับโทรศัพท์
กำลังคิดจะด่าอยู่พอดี แต่ก็เห็นว่าตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าจอเป็นเบอร์โทรของ ณิชา……
มือไม้ของเขาอ่อน จนโทรศัพท์เกือบจะตกลงที่พื้น
เขาเคลียร์ลำคอ แล้วก็กดปุ่มรับสายด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย “เอ่อ……พี่ณิชา ดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่นอนอีกเหรอครับ? ”
เห็นได้ชัดว่าในน้ำเสียงของเขานั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและการเอาอกเอาใจอย่างชัดเจน ณิชาแทบจะแน่ใจได้ทันทีว่ามาวินต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เธอรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เธอกำหมัดแน่น คร่ำครวญเล็กน้อย——
“คนพวกนั้นนายเป็นคนเรียกมาหรือเปล่า? ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้?”
……
เวธัสที่อยู่ในห้องนอนใหญ่ด้านข้างก็นอนไม่หลับเช่นกัน
ห้องนอนใหญ่ของเขามีระเบียงเล็กๆอยู่ ตอนนี้เวธัสยืนอยู่บนระเบียง ผ้าม่านสีทองที่สูงจรดเพดานนั้นพลิ้วไหวเบาๆ ตามแรงลม ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงข้างๆ ราวจับ สายตามองไปยังระยะไกล
โทรศัพท์สั่นเล็กน้อย มีข้อความเข้ามา
มาจากเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้——
【คุณเวธัส ยังให้ดำเนินการต่ออยู่ไหม?】
ยังคงถ่อมตัวและนอบน้อมอยู่เหมือนเดิม แต่เวธัสที่ได้อ่านมันนั้นกลับขมวดคิ้วแน่น
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง นิ้วที่เรียวยาวของเขาก็พิมพ์ประโยคหนึ่งลงไป
【ทำทุกอย่างตามแผนเดิม】
ในเมื่อเกมนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว ก็ไม่มีถูกไม่มีผิด มีเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น
ณิชา คุณหักหลังผมก่อนเองนะ!
ถึงแม้ว่าจะคิดแบบนี้ เวธัสก็ยังเลือกที่จะดับบุหรี่ แล้วก็เดินมาถึงด้านนอกห้องนอนเล็กอย่างเงียบๆ
สายตาที่ซับซ้อนของเขามองไปยังประตู หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็บิดลูกบิด……
ภายในห้องนั้นเงียบสงบ มีเพียงแค่แสงไฟสลัวสีเหลืองที่อยู่หัวเตียงเท่านั้นที่ติดอยู่ ณิชานอนอยู่บนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ เหมือนกับว่าหลับไปแล้ว บนหัวเตียงยังมีนิยายวางอยู่เล่มหนึ่ง เปิดอยู่ครึ่งเล่ม เหมือนกับว่าเธอกำลังอ่านนิยายอยู่และผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
ริมฝีปากบางของเวธัสเม้มแน่น ได้แต่ยืนเงียบๆ อยู่ตรงหัวเตียงและมองเธอครู่หนึ่ง……
ผ่านไปนาน เขาก็เดินไปตรงหัวเตียง นิ้วที่เรียวยาวปัดผ่านคิ้วที่สงบของเธอ และดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาก็เกิดระลอกคลื่นขึ้น
ปลายนิ้วของเขาค่อยๆ เลื่อนลงมาจากคิ้วที่ขมวดของเธอ มาจนถึงริมฝีปาก แล้วก็ค่อยๆ ลากเส้นตามรูปปากของเธอ
เมื่อสายตามองมาถึงริมฝีปากที่ซีดเล็กน้อยของเธอ หัวใจของเขาก็สั่นเล็กน้อย โน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากกับเธอ ลมที่แผ่วเบาพัดเข้ามาทางหน้าต่าง พัดพาจูบเบาๆ นี้ออกไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าไม่เคยมีอยู่
……
น้องอรัลรู้ว่าเมื่อคืนณิชาพักผ่อนอยู่ที่คฤหาสน์สนธิไชย ก็รีบวิ่งเข้ามาเอาอกเอาใจอย่างรวดเร็ว
“หม่ามี๊ ทำไมถึงไม่นอนกับพ่อล่ะครับ?”
ณิชาเพิ่งจะตื่น ก็เห็นเจ้าตัวน้อยนอนอยู่ข้างเตียงด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น
ณิชาลืมตาที่สะลึมสะลือ พอกะพริบตาแล้วถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป
เมื่อคืนนี้หลังจากที่เธอคุยโทรศัพท์กับมาวินเสร็จ ก็รู้สึกว่าจิตใจมันตึงเครียดไปหมด พอเริ่มผ่อนคลายลงได้แล้วก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
พอได้ฟังจริงๆ ก็รู้สึกไม่แปลกใจเท่าไหร่
น้องอรัลของเธอนั้นเป็นคนที่พิจารณาสถานการณ์โดยรวมเสมอ เธอรู้ดีว่า ถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่ความจริงแล้วมันมีอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญมาก
ถ้าเกิดว่าเธอลักพาตัวน้องอรัลไป เวธัสต้องไม่มีทางยอมง่ายๆ อย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะค้นหาทั้งเมืองเลยก็ได้ ถึงเวลานั้นเธอกับปัณณ์คงจะหนีไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
น้องอรัลถูหน้าในอ้อมแขนของณิชา ดวงตาที่ผิดหวังของเขานั้นเต็มไปด้วยความมืดมน
มือน้อยๆ ที่จับณิชาอยู่นั้นก็เพิ่มแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ขอโทษครับ หม่ามี๊ ผมโกหก
สิ่งที่ผมเลือกก็คือ ผมไม่ไปไหน และพวกหม่ามี๊……ก็ไม่ไปไหนเหมือนกัน
ผมจะคิดวิธีทำให้ทุกคนอยู่กับผม
……
ตอนที่ณิชากำลังเตรียมจะเปลี่ยนเสื้อผ้านั้น ก็มีแพทย์หญิงสวมชุดยูนิฟอร์มมาเคาะหน้าประตูเธอ
“คุณณิชาคะ ดิฉันคือหมอที่คุณเวธัสเรียกให้มาทำแผลของคุณ สะดวกให้ดิฉันเข้าไปไหมคะ?”แพทย์หญิงถามด้วยความเคารพ
เดิมแผลที่หลังเท้าของณิชาไม่ได้ร้ายแรงเท่าไหร่นัก เมื่อคืนก็ไม่ได้ทายาอะไร ผ่านไปคืนหนึ่ง แผลเล็กๆของเธอก็เริ่มตกสะเก็ดแล้ว มีแต่รอยขีดข่วนที่ค่อนข้างลึกเท่านั้นที่ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน ความจริงแล้วจะทายาหรือไม่ก็ไม่สำคัญหรอก แต่ว่าณิชาไม่คิดเลยว่าเวธัสจะเรียกหมอมาให้เธอ
“เข้ามาสิคะ”
เด็กน้อยก็อยู่เป็นเพื่อนณิชาตลอด พอเห็นว่าหมอผู้หญิงเข้ามา ก็ทักทายตามปกติแล้วก็พูดว่า “ผิวของคุณน้าณิชาอ่อนโยนมาก คุณหมอพันแผลระวังๆ หน่อยนะครับ อย่าให้เป็นแผลเป็นนะ”
แพทย์หญิงอึ้งไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ยิ้มออกมา “ได้ค่ะคุณหนู”
เธอมองไปยังแผลบนเท้าของณิชา
ความจริงแผลพวกนี้ไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ น่าจะไม่เป็นแผลเป็นได้ง่ายหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...