“แล้วไงล่ะ? ”เวธัสยังคงพูดแค่ไม่กี่คำอย่างเย็นชาอยู่เหมือนเดิม ณิชาไม่เห็นความอ่อนโยนเลยแม้แต่นิดเดียว
เหมือนกับว่าเพียงแค่เวลาสั้นๆ ไม่กี่วันเท่านั้น เขาก็ได้เปลี่ยนไปกลายเป็นผู้ชายที่เธอรู้จักในตอนแรก
ไม่สิ
แม้แต่เย็นชามากกว่าตอนนั้นอีก
หัวใจของเธอบีบแน่น ณิชาสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดกับเขาอย่างจริงจังว่า “ฉันอยากจะรบกวนให้คุณบอกให้แอดมินคนนั้นลบโพสต์หน่อย”
ประโยคเพียงง่ายๆ แค่ประโยคเดียว แต่ณิชากลับพูดออกมาอย่างยากเย็น
ทุกประโยค กำลังทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองต่อหน้าเขา
อย่างไรก็ตาม เวธัสกลับไม่ได้ยอมรับ แม้แต่ยิ้มอย่างเยาะเย้ยอีกต่างหาก “ลบงั้นเหรอ? ฟอรั่มของพนักงานภายในสนธิไชยกรุ๊ปไม่เคยถูกลบมาก่อน แล้วคุณมีสิทธิอะไรถึงต้องเป็นคนแรก? ”
ณิชาอับอายจนยืนแข็งอยู่ตรงนั้น ความหนาวเย็นที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นที่ก้นบึ้งของหัวใจของเธอ จากนั้นจึงแพร่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว
“มันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเพราะฉันทั้งหมด เพราะว่าในโพสต์นี้มีรายละเอียดมากมายที่ถูกแต่งขึ้นมา ถ้าเกิดว่าไม่ลบ จะต้องส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคุณอย่างแน่นอน”
“แต่ผมไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรที่ไม่เป็นความจริงหนิ”
เวธัสหยิบกระดาษพวกนั้นขึ้นมาด้วยความเกียจคร้าน เหลือบมอง สีหน้าดูไม่แยแส
ประโยคนี้เปรียบเสมือนมีดที่แหลมคมที่แทงทะลุหัวใจของณิชา
เจ็บจนหายใจไม่ออก
ในโพสต์เขียนไว้ชัดเจนว่า เพื่อเงินแล้ว เธอไม่ลังเลเลยที่จะขายร่างกายและใช้วิธีการต่างๆ เพื่ออ่อยเขา
ที่แท้เขาก็คิดว่าพวกนี้คือเรื่องจริง!
ดวงตาของเธอทั้งเจ็บปวดและร้อนผ่านขึ้นมาทันที น้ำตาที่เธอพยายามอดทนอดกลั้นอยู่นาน ในที่สุดก็เขื่อนแตกและไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้
เธอพยายามปาดน้ำตาอย่างดื้อรั้น แต่ว่ายังเช็ดไม่ทันเสร็จ ดวงตาก็เริ่มมัวด้วยน้ำตาอีกครั้ง……
เวธัสโยนกระดาษสองสามแผ่นเหล่านั้นลงในเครื่องทำลายเอกสาร
ตามมาด้วยเสียง และกระดาษพวกนั้นก็กลายเป็นกองขยะที่แตกหัก กลายเป็นเส้นๆ ณิชารู้สึกว่าสิ่งที่แตกสลายไม่ใช่กระดาษ แต่ว่าเป็นหัวใจที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเธอ
เลือดในร่างกายของเธอก็เย็นลงเรื่อยๆ เธอไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่หันหลังและเดินออกมาเงียบๆ
เธอพึ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู โทนี่ก็ก้าวเข้ามาอย่างกระตือรือร้น “เป็นยังไงบ้างครับ คุณเวธัสเขา……”
“โทนี่ ถ้าเกิดว่าไม่พอใจก็เปลี่ยนงานได้นะ ไม่ยังงั้นต่อไปอย่าปล่อยคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอีก”ยังไม่ทันรอให้โทนี่พูดจบ เสียงที่เย็นชาและไร้หัวใจของชายคนนั้นดังมาจากห้องทำงานอีกครั้ง
ณิชาเหมือนกับถูกบีบคอ เธอหายใจไม่ออกด้วยความสิ้นหวัง
ไม่เกี่ยวข้อง……
ใช่ นอกจากเด็กทั้งสองคน นอกจากการแลกเปลี่ยนที่เธอไม่ได้มอบความจริงใจให้ เธอกับเขาจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกล่ะ?
มีสิทธิอะไรไปขอให้เขาช่วยลบโพสต์ให้เธอ?
เธอเป็นใครสำหรับเขา? คำตอบก็คือ ไม่ได้เป็นอะไรเลย!
……
ถึงแม้ว่าเวธัสจะปฏิเสธเธอ แต่ว่าณิชาก็ไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเอง
เธอเช็ดน้ำตา แล้วก็ไปล้างหน้าในห้องน้ำ พร้อมกับเติมเครื่องสำอางใหม่อีกครั้ง ดูไร้ที่ติเหมือนเคย จากนั้นก็ค่อยๆ กดลิฟต์กลับไปที่แผนกออกแบบ แต่เธอนึกไม่ถึงเลยว่า ตอนที่เธอกลับมานั้น ก็พบว่าบนโต๊ะทำงานของเธอมันว่างเปล่า
และของทุกอย่างบนโต๊ะของเธอนั้นก็ถูกเอาไปใส่ไว้ในกล่องกระดาษ
และกล่องก็ถูกโยนลงที่พื้น ของด้านในก็ระเกะระกะไปหมด เห็นได้ชัดว่าไม่ได้จัดแจงเลย ได้แต่เก็บแบบส่งๆ เท่านั้น
ณิชาอุ้มกล่องขึ้นช้าๆ ของพวกนั้นหลายชิ้นเป็นของที่เธอเอามาจากโบรุยกรุ๊ป
ณิชาตาแดงขึ้นมาในทันที เธอรีบกะพริบตาอย่างรวดเร็วเพื่อไล่น้ำตาออกไป
ก้มหน้าไปอุ้มลูกน้อยขึ้นมา แล้วก็ชื่นชมด้วยความใกล้ชิด “วาดได้สวยมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปซื้อกรอบรูปกัน แล้วเอารูปนี้ใส่กรอบดีไหม? ”
“ไม่ดี”ปัณณ์ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดมาก
ณิชางงงวย “ทำไมล่ะ? ”
“เพราะว่ารูปนี้ได้แค่ที่สอง ครูน้ำฝนบอกว่าในรูปวาดของผมมันยังขาดอะไรไปบางอย่าง ก็เลยไม่ให้ผมเป็นที่หนึ่ง ได้แค่ที่สองทำไมต้องใส่กรอบด้วย หรือว่าจะคอยเตือนเกี่ยวกับความผิดพลาดของผมเหรอ? ”
เด็กน้อยยกริมฝีปากขึ้นอย่างเย็นชา จู่ๆ เขาก็รู้สึกเสียใจที่เอารูปนี้ให้หม่ามี๊ดู
รูปนี้ได้แค่ที่สอง……
แต่เขารู้สึกว่าเขาวาดได้ดีมากด้วยหญ้าและดวงอาทิตย์ตลอดจนแม่น้ำและภูเขา
พวกเขากอดกัน และเป็นแม่และลูกที่มีความสุขที่สุดในโลก
ณิชาหัวเราะออกมา แล้วก็กอดลูกชายของตัวเองแน่นขึ้นพร้อมกับพูดด้วยเสียงเบาว่า “ไม่ว่าครูน้ำฝนจะพูดว่ายังไง แต่ว่ารูปนี้ในสายตาของหม่ามี๊แล้วมันยอดเยี่ยมที่สุดเลย สมควรจะได้ที่หนึ่งที่สุดด้วย”
“จริงเหรอครับ? ”เด็กน้อยเม้มปากแน่นด้วยความเขินอาย “เห็นแก่ที่หม่ามี๊ชมผม เย็นนี้ผมอนุญาตให้หม่ามี๊ทำพาสต้าให้ผมกินได้”
“……”
……
ตอนเย็น ตอนที่เธอกำลังยิ้มและทำพาสต้าให้เด็กน้อยนั้น จู่ๆ ก็ได้รับสายตานิต้า
ตอนแรกเธอนึกว่านิต้าจะโทรมาโม้ใส่เธอ แต่นึกไม่ถึงเลยว่า น้ำเสียงของเธอจะดูคร่ำครวญ เหมือนกับว่าไปเจออะไรที่ไม่ดีมา เธอตะคอกใส่ณิชาว่า——
“ณิชา เธออย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะเอาชนะฉันได้นะ ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่ธัส เขาต้องปกป้องฉัน!”
ณิชายังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่ตอบไปตามสัญชาตญาณว่า “ในเมื่อคุณเวธัสปกป้องคุณ แล้วยังจะโทรมาหาฉันทำไม? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...