ณิชาหน้าแดงเมื่อได้ยินเอกถามอย่างเป็นห่วง เธอตอบกลับมาว่า “เปล่า” แล้วรีบเดินไปห้องน้ำทันที
แม้ว่าจะพยายามเดินเร็วแค่ไหน แต่เอกเป็นบอดี้การ์ด เขาจึงตาไวมาก
มองแว๊บเดียวก็เห็นแล้วว่าปากของณิชาบวมและแดงมาก…
จึงคิดสงสัยขึ้นมาในใจว่า
หรือว่าคุณณิชากับคุณผู้ชายจะเข้าใจกันแล้ว?
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลย เอกกับโทนี่จะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติบ้าง!
ณิชาที่มาถึงห้องน้ำ ถูริมฝีปากที่ร้อนผ่าว ซึ่งตอนนี้มันก็บวมมากแล้ว
เวธัสคนป่าเถื่อน เรียกว่าจูบไม่ได้แล้ว นี่มันกัดแทะกันชัดๆ !
ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ริมฝีปากเธอแตกด้วย ต่อให้ทายาลดการอักเสบ ก็ลดอาการบวมไม่ทันหรอก และยิ่งไปกว่านั้น ณิชาจะไปหายาจากไหนล่ะ
จะออกไปด้วยปากแบบนี้ไม่ได้หรอก
ตอนที่ณิชากำลังร้อนใจอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ว่าที่โรงพยาบาลมีหน้ากากแจกฟรี
ณิชาจึงแบกหน้าไปขอรับหน้าหากฟรีมาหนึ่งอัน แล้วจึงไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ช่องชำระเงิน
เมื่อกี้รีบไปหน่อย เลยเหมือนว่ายังไม่ได้จ่ายค่ารักษาในส่วนของเวธัส
ที่เขาต้องมาเจ็บตัว ก็เพราะช่วยตัวเองไว้ ณิชาเองก็ไม่ได้คิดจะเทเขา
“สวัสดีค่ะ ทั้งหมด13829.4ดอลลาร์ยุโรปค่ะ” พยาบาลยื่นบิลให้ณิชาที่ช่องชำระเงิน
ณิชาเบิกตากว้างเพราะอึ้งกับตัวเลขที่เพิ่งได้ยิน คิดว่าตัวเองฟังผิดไป “ขอโทษนะคะ ยอดทั้งหมดเป็นเท่าไรนะคะ?”
พยาบาลสาวมองณิชาเหมือนรำคาญ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความมีมารยาทอยู่ “ลูกค้าVVIPของโรงพยาบาลเรา นอนโรงพยาบาลคืนละ2,500ดอลลาร์ยุโรป และมีค่าอาหารกับค่ารักษาพยาบาลด้วย บวกกับที่คุณได้ทำการนัดจองเพื่อมาตรวจกับหมอสูตินรีเวชผ่านทางออนไลน์ด้วยไงคะ ทั้งหมดก็รวมอยู่ในยอดนี้แล้วค่ะ”
“……” ทุนนิยมนี่มันโหดเกินไปแล้ว ถึงมีคนพูดว่า มาโรงพยาบาลทีหนึ่งก็ถึงกับต้องกระอักเลือดกันเลยทีเดียว!
ไม้จะเสียดายเงินแค่ไหน แต่ณิชาก็ยื่นบัตรเพื่อชำระเงินให้กับพยาบาล
“ขอโทษค่ะ ยอดเงินคงเหลือไม่พอนะคะ” ไม่นาน เสียงเย็นชาของพยาบาลดังมาด้วยคำพูดที่คาดไม่ถึง “มีบัตรใบอื่นไหมคะ?”
ยอดเงินคงเหลือไม่พอ?
ณิชาทำตาโต และเพิ่งนึกได้ว่าเธอได้ลงทะเบียนคลาสเรียนให้กับลูกสองคนไป ซึ่งก็แพงมาก
“ถ้าเงินไม่พอแบบนี้ ฉันคงต้องทำการยกเลิกการนัดจองทั้งหมดนะคะ”
พยาบาลมองณิชาทีหนึ่ง และขยับเมาส์เพื่อทำการยกเลิกการจองห้องVVIP…
ณิชาหยิบแบล็คการ์ดอีกใบที่สามารถใช้ได้ทั่วโลกออกมาจากกระเป๋า แล้ววางบนโต๊ะก่อนยื่นไปให้พยาบาล “เดี๋ยวค่ะ ใช้ใบนี้แทน”
ยอดหนึ่งหมื่นสามพันกว่าๆ ดอลลาร์ยุโรปออกไป และได้ใบเสร็จเป็นกองกลับมา
ณิชามองใบเสร็จพวกนั้นอย่างละเอียดอีกที ยิ่งมองก็ยิ่งโมโห…
เมื่อกี้นี้ณิชาเกือบใช้เงินของดนัยแล้ว แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเวธัสเหมือนจะเกลียดดนัยมาก ณิชาจึงตัดสินใจใช้แบล็คการ์ดของเวธัสแทน
คราวนี้คงต้องทำงานหนัก เพื่อคืนเงินจำนวนนนี้ให้เขาแล้วล่ะ
……
หมอห้ามเลือดที่แผลของเวธัสและฉีดยากันบาดทะยักให้ด้วย เขาจึงค่อยๆ ได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว
หลังจากที่เวธัสตื่นขึ้นมา เขาก็มองไปรอบๆ ห้องเพื่อหาณิชา
ณิชาล่ะ?
เวธัสเจ็บหนักขนาดนี้ ณิชายังจากไปโดยไม่แยแสได้อีกเหรอ?
ใจของเธอเป็นก้อนหินหรือไง?
เวธัสทำหน้ามุ่ย แล้วเอาผ้าห่มออกเพื่อลงจากเตียง
ณิชาเดินออกห้องน้ำมา ก็เห็นเวธัสนั่งอยู่ที่ขอบเตียงและหารองเท้าอยู่
เนื่องจากมีแผลอยู่ที่แขนขวา พอถอดเสื้อนอกออกก็ไม่ได้ใส่อีก ที่แขนยังมีผ้าพันแผลพันไว้หนา กล้ามเนื้อผิวสีน้ำผึ้งแลดูมีกำลังใบหน้าหล่อเหลาที่ได้รูปกลับดูฉุนเฉียว ริมฝีปากที่อยู่ใต้จมูกโด่งของเขาก็เม้มแน่น ดูแล้วเหมือนว่ากำลังหัวร้อนเลย
“อย่าเพิ่งลุกสิ!เดี๋ยวแผลก็ฉีกอีกหรอก เดี๋ยวได้เรียกหมอมาทำแผลใหม่นะ…” ณิชาที่เพิ่งล้างมือมา และยังไม่ได้เช็ดให้แห้ง
บวกกับเขายังไม่ได้สวมเสื้อด้วย ณิชาจึงไม่ได้ไปช่วยประคองตัว แต่ยืนตะโกนจากตำแหน่งที่ห่างจากเขาประมาณหนึ่งเมตร
เวธัสที่ได้ยินเสียงของณิชา ก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา
เพราะแผลของเขาอยู่ที่แขนนู่น…
หมัดของณิชาเบาเหมือนเม็ดฝน ไม่สร้างความเจ็บปวดใดๆ ได้เลย โดนจมูกบ้าง โดนไหปลาร้าบ้าง
แต่เวธัสก็ไม่มีท่าทีรำคาญหรืออยากห้ามเลย และเหมือนว่าไม่เจ็บเลยด้วย
แต่กลับเป็นตัวณิชาเองที่เริ่มเจ็บแปล๊บๆ ที่กระดูกก้นกบ หมัดน้อยๆ ที่ทุบรัวๆ อยู่เริ่มหมดแรง ก่อนนอนลงที่เตียงพร้อมกับหายใจกระหืดกระหอบ
เวธัสแอบขยับตัวเข้ามาใกล้ แล้วเอาหน้าผากแนบเธอไว้
“ผมโดนคุณหลอกจนต้องลำบากขนาดนี้ ผมตีคุณยังถือว่าเบาไป ถ้าคุณกล้าหลอกผมอีก ก็ลองดู?”
ณิชาหงุดหงิดจนต้องเอามือขยุมหัว ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาตอบเขาจริงๆ
ตอนแรกยังคิดว่าจะบอกเขาเรื่องที่ใช้บัตรไปรูดค่ารักษาพยาบาลมา แต่ตอนนี้ไม่อยากพูดแล้ว รู้สึกเสียดายมากกว่า รู้งี้รูดให้หมดตัวเลยก็ดี!
เอกเข้ามาส่งอาหารกลางวัน จึงทำให้ทั้งคู่หลุดจากสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วนออกมาได้
ณิชาหาข้ออ้างแล้วหนีออกมาได้ เธอรีบเดินออกจากโรงพยาบาล ก่อนออกจากที่นั่น ณิชาหันไปมองที่ตึกผู้ป่วยในอีกที แล้วเธอก็รู้สึกว้าวุ่นในใจ
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอเองก็จะไม่มีขีดจำกัดอีกแล้ว
อาหารกลางวันที่เอกเอามาส่งเป็นอาหารจากภัตตาคารห้าดาว
เขากางโต๊ะเล็กออก แล้ววางอาหารทีละอย่างลงบนโต๊ะ ซึ่งมีประมาณ 5-6 อย่าง อาหารทั้งหมดเป็นอาหารรสชาติอ่อน เหมาะกับเวธัสในตอนนี้
“คุณธัส ใช้มือซ้ายทานข้าว อาจไม่ค่อยถนัด ให้เรียกพยาบาลมา…”
“ช่วยป้อนไหม” อีกสามคำที่เหลือยังไม่ทันได้พูดจบ สายตาเย็นชาของเวธัสก็มองไปที่เอก และเหมือนมีลมหนาวจากไซบีเรียพัดผ่าน
เอกรีบปิดปาก เวธัสจะไม่ยอมแสดงด้านที่อ่อนแอให้ใครได้เห็น นอกจากณิชาคนเดียวจริง ๆ
เวธัสนั่งที่ขอบเตียง แล้วใช้มือซ้ายถือช้อน แม้จะดูเก้ๆ กังๆ ไปบ้าง แต่เขาก็กินข้าวได้ปกติเลย ท่าทางยังดูสง่าอีกด้วย ส่วนเอกก็เงียบปากอยู่
เวธัสเห็นว่าเอกยังนิ่งอยู่ที่เดิม “มีเรื่องอะไรอีกเหรอ?”
เมื่อเอกได้ยิน ก็รีบเรียกสติกลับมา
“คุณธัส ผมไปตรวจสอบมาแล้วครับ ป้ายโฆษณาอันนั้น ที่มันตกลงมาไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ แต่มีคนไปขันน็อตให้หลวมเอาไว้ก่อนแล้วครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...