แม้ว่าสติสัมปชัญญะจะไม่ค่อยแจ่มใส แต่ณิชาก็คุ้นเคยกับกลิ่นอายของเวธัส
จึงพิงอยู่ในอ้อมแขนเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์ และส่งเสียงทอดถอนใจด้วยความหมดอาลัยตายอยากอย่างรู้สึกปลอดภัย
“ในเมื่อมีชลิดาแล้ว ก็อย่ามาแตะต้องคนที่ไม่สมควรแตะต้องอีก” เวธัสมองไปทางดนัยอย่างโหดเหี้ยม
ดนัยก็ไม่ยอมแสดงว่าตนด้อยกว่า มือข้างหนึ่งซุกอยู่ในกระเป๋า “ครั้งนี้เมียนายเป็นฝ่ายมากอดฉัน ดูสิ เสื้อเชิ้ตของฉันถูกเธอทำให้ยับแล้ว งานแฮนด์เมดของนักออกแบบชาวอิตาลี ต้องจองล่วงหน้าหนึ่งเดือน”
“เสื้อผ้า ผมจะชดเชยให้ เช็คจะส่งไปถึงห้องทำงานพี่”
“นายมันรวย ฉันจะไม่เกรงใจแล้วกัน” ดนัยดันกรอบแว่นบนดั้งจมูก เหลือบมองน้ำเพชรที่อยู่บนพื้นแวบหนึ่ง “ใช่แล้ว คุณผู้หญิงคนนั้นคิดไม่ซื่อกับเมียนาย แนะนำว่าอย่าปล่อยเอาไว้ เพราะอาจจะมีภัยตามหลังมาได้"
สำหรับศัตรู เขาไม่เคยใจอ่อน
เอ่ยจบ ดนัยก็จากไปโดยไม่หยุดอยู่ตรงนี้อีก
เวธัสคิดเชื่อมโยงไปถึงข้อความขอความช่วยเหลือเร่งด่วนที่ณิชาส่งมาให้เขา บวกกับความเข้าใจบางอย่างที่มีต่อน้ำเพชร ก็พอจะเดาออกว่าคืนวันนี้คือหลุมพรางที่เธอขุดขึ้นมา
เอกที่จอดรถเรียบร้อยแล้วก็รีบตามมาทันที
เมื่อเห็นน้ำเพชรที่นอนอยู่บนพื้น และมองไปทางณิชาที่อยู่ในอ้อมกอดเวธัส “คุณเวธัส นี่...”
“ลากผู้หญิงคนนั้นตามผมมา” เวธัสอุ้มณิชาขึ้นมาอย่างอ่อนโยน พลางเอ่ยสั่งเอกด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
เอกก็ไม่ได้ชอบสไตล์แบบน้ำเพชร จึงคว้าขาข้างหนึ่งของเธอแล้วลากเธอตามหลังเวธัสไปตลอดทางจนกระทั่งถึงปลายทางจริงๆ เวธัสหยุดอยู่หน้าประตูห้องส่วนตัวที่วิชัยหมดสติอยู่
นี่คือห้องที่ณิชาส่งข้อความบอกเขาก่อนหน้านี้
เวธัสผลักประตูให้เปิดออก วิชัยนั้นได้สติขึ้นมาแล้ว กำลังนั่งจัดการบาดแผลบนหน้าผากอยู่บนโซฟา
เพราะว่ากินยาแต่ไม่ได้รับการผ่อนคลาย ร่างกายจึงร้อนรุ่ม เหงื่อท่วมศีรษะ
เลือดรินไหลไปตามแก้ม เพิ่มความชั่วร้ายให้กับเครื่องหน้าทั้งห้าที่เดิมก็แดงก่ำอยู่หลายส่วน
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็นึกว่าเป็นน้ำเพชรที่จับณิชากลับมาได้ จึงด่าเสียงดังว่า “คุณน้ำเพชร คุณรับรองกับผมว่าอย่างไร พอให้เกียรติ เธอถึงกับไม่ยอมรับ ทั้งยังเอาขวดเหล้าทุบผมอีก ครั้งนี้ผมจะ...”
เสียงเงียบไปในทันทีเมื่อเห็นเวธัสที่ยืนอยู่ตรงประตู
ในอ้อมแขนเวธัสอุ้มณิชาอยู่ ด้านหลังยังมีเอกตามมาด้วย ชายหนุ่มสองคนคล้ายกับเทพผู้ดุร้ายน่าหวาดกลัวสององค์
สายตาของวิชัยมองไปตามมือข้างขวาของเอกน้ำเพชรนอนคว่ำอยู่บนพื้น ถูกลากมานานขนาดนี้ เสื้อผ้าจึงยุ่งเหยิงไปหมด เดรสเข้ารูปก็ถูกเลิกขึ้นไปถึงสะโพก แต่เวธัสกับเอกล้วนไม่เหลือบมอง
วิชัยที่ได้รับผลกระทบจากยาบำรุงชั้นดี ก็มองจนลำคอแข็งเกร็ง และขยับขึ้นลงจากการกลืนน้ำลาย
แต่ต่อหน้าเวธัส เขาไม่กล้าบุ่มบ่าม
แม้ว่าจะไม่รู้จักเวธัส แต่คนคนนี้ออร่าแข็งแกร่งเกินไป ฐานะย่อมไม่ธรรมดา
“สวัส...สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณ...”
เวธัสมองเอกแวบหนึ่ง
เอกโยนน้ำเพชรลงตรงหน้าวิชัยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ผู้หญิงคนนี้ให้คุณเป็นรางวัลแล้วกัน”
น้ำเพชรนอนคว่ำอยู่ตรงหน้าวิชัยเรือนผมยุ่งเหยิง แต่เมื่อเรียวขาขาวเพรียวยาวสองข้างนั้นปรากฏเข้าสู่สายตา ก้นบึ้งนัยน์ตาของวิชัยก็แดงฉานทันที และสูญเสียแรงต้านทานไปอย่างรวดเร็ว เขาลากน้ำเพชรไปยังห้องหนึ่งที่อยู่ด้านใน
...
ตอนที่ณิชามีสติขึ้นมา ก็อยู่ที่โรงแรม
คุณหมอให้น้ำเกลือเธอ เพิ่งจะไปได้ไม่นาน เวธัสนั่งเฝ้าเธอให้น้ำเกลืออยู่ข้างเตียง
เธอลืมเปลือกตาอันหนักอึ้ง มือเท้ายังคงไร้เรี่ยวแรง ตอนที่เห็นว่าข้างกายมีเงาร่างร่างหนึ่งนั่งอยู่ก็ตกใจสะดุ้ง โชคดีที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเวธัสทับซ้อนชัดเจนอย่างรวดเร็ว ก็ถอนหายใจเสียงยาว
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ” ณิชานวดศีรษะที่บวม นึกไม่ออกอยู่บ้าง
ผู้ชายคนนี้สูญเสียการควบคุมเพราะเธอ ถูกเธอ “ยั่วยวน” โดยไม่แบ่งแยกสถานการณ์ และจูบเธออย่างลึกซึ้ง
เธอยกแขนคิดจะโอบรอบคอเขาโดยไม่รู้ตัว
“ให้ตาย! คุณขยับมั่วซั่วทำไม?!” เวธัสกลับเห็นว่าเลือดในสายน้ำเกลือเริ่มไหลย้อนกลับเพราะเธอยกมือขึ้น จึงปล่อยเธอ และกดลงกับเตียงทันที
ณิชาถูกตะคอกจนแววตาแจ่มใสขึ้นกะทันหัน เธอมองเห็นเลือดที่ไหลกลับแล้วก็เบนสายตาออกไป
เห็นอยู่ชัดๆว่าเขาเป็นฝ่ายที่ไม่สงบเสงี่ยมก่อน ดูเหมือนว่าตอนนี้จะกลายเป็นเธอที่ใจร้อนเสียแล้ว...
บรรยากาศดีๆถูกทำลายหมดแล้ว
ณิชาเอนตัวนอนลงบนเตียง เสียงโทรศัพท์มือถือเธอก็ดังขึ้นในตอนนี้พอดี
เมื่อเห็นเบอร์ที่เตือนขึ้นมาเป็นของปัณณ์ ณิชาก็ขมวดคิ้ว เวธัสที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยเตือนเสียงเย็นว่า “เจ้าเด็กนี่โทรมาหลายครั้งแล้ว รับเถอะ”
ตอนนี้ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ปัณณ์ยังไม่นอนอีก...
“ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้บอกเขาหรอคะว่าคืนวันนี้พวกเราไม่กลับบ้าน”
“ลูกชายแสนดีของคุณต้องการจะได้ยินเสียงของคุณถึงจะยอมเลิกรา” ทุกวันสงสัยว่าเขาจะทำเรื่องชั่วร้ายกับเธอ นี่สรุปว่าเป็นลูกชายหรือพ่อกันแน่ วันๆก็เอาแต่จ้องเขา ราวกับป้องกันโจรขโมยอย่างไรอย่างนั้น!
ณิชาหัวเราะพรืด หลังจากนั้นก็กดรับสายโทรศัพท์
“ฮัลโหล น้องปัณณ์...”
“หม่ามี๊ หม่ามี๊บอกว่าคืนวันนี้จะพยายามกลับบ้านเร็วหน่อยไม่ใช่หรอครับ ตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว หม่ามี๊เตรียมจะกลับมาตอนไหนครับ เมื่อครู่ปีศาจยักษ์บอกว่าหม่ามี๊หลับไปแล้ว ปัณณ์กับอรัลรอจนเป็นกังวลแล้วนะครับ”
ปัณณ์ถามผ่านหูฟัง ราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อยคนหนึ่งที่บ่นพึมพำไม่หยุด
ณิชากระแอมให้คอโล่ง ท่าทีนุ่มนวล อ่อนโยนมาก “หม่ามี๊เจรจาธุรกิจกับลูกค้า จะดึกอีกหน่อย พวกลูกไม่ต้องรอหม่ามี๊แล้ว รีบไปอาบน้ำนอนเร็ว พรุ่งนี้เช้าตอนตื่นมา หม่ามี๊จะอยู่ข้างๆพวกลูก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...