กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 429

เวธัสรู้สึกชอบใจกับการว่านอนสอนง่ายของณิชาในตอนนี้มาก ฝ่ามือใหญ่ๆเลื่อนไหลไปตามชายเสื้อของเธอทีละนิด นิ้วมือเรียวยาววางอยู่ที่กระดุมเสื้อโค้ตของเธอ ริมฝีปากบางๆเข้ามาแนบอยู่ที่ข้างหูของเธอ……

“ผู้ชายประเภทนี้ ถ้าไม่ยอมเลิกแล้วจะเก็บไว้ข้ามปีหรือไง?”

ณิชาไม่ได้สังเกตความผิดปกติของมือของเขา ถามขึ้นต่อ“แล้วถ้าเกิดเพื่อนของฉันมีลูกกับสามีของเธอแล้วล่ะ?”

“ถ้าจำนวนเดือนยังไม่มากก็ต้องยอมเอาออกไปเลยตรงๆ ไม่อย่างนั้นคลอดออกมาก็จะมีแต่ยุ่งยากมากขึ้น บางทีในอนาคตอาจจะกลายเป็นจุดอ่อน ทำให้เพื่อนของคุณไม่สามารถพลิกตัวกลับขึ้นมาได้ตลอดชีวิตเลยก็ได้นะ”

ใช่

ถ้าเกิดวันนี้เธอไม่ยอมรับเงื่อนไขของท่านประเสริฐ คนที่เขาจะทำร้ายก็คือพ่อ แล้วต่อจากนั้นก็จะเอาลูกมาบีบบังคับเธอใช่ไหม?

ถึงยังไง เขาก็ดูถูกดูแคลนเธออยู่แล้ว แล้วก็ยิ่งดูถูกลูกของเธออีกด้วย……

“ไม่มีคำตอบที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ……”

ณิชาถามเบาๆ ดูเหมือนกำลังกับถามเขาแล้วก็เหมือนกับกำลังถามตัวเองด้วยเหมือนกัน

จู่ๆติ่งหูก็ถูกเขาเข้ามาเม้มเอาไว้อย่างแรง ทันใดนั้นเอง มือของเขาก็ลูบเข้าไปในชายเสื้อของเธอ ก้มตัวลงไปกดเธอลงบนเตียง พูดขึ้นอย่างไม่สนใจแม้แต่น้อย“แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว”

ณิชาคว้าชายเสื้อของเขาเอาไว้ด้วยความประหลาดใจ“คืออะไร?”

“ก็ให้เพื่อนร่วมชั้นของคุณคิดหาวิธีจัดการฆ่าผู้ใหญ่ของสามีเธอซะ ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปทันที”

รูม่านตาของณิชาหดตัวอย่างรุนแรงอยู่สักพัก แววตาสีดำสะท้อนเงาของเขา

เธอจะฆ่าท่านประเสริฐได้ยังไงกันล่ะ?

ดังนั้นนี่ก็เลยเป็นปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้

เวธัสไม่อยากฟังเธอพูดถึงเรื่องเพื่อนร่วมชั้นของเธออีกแล้ว

เขาอยากฟังเธอบอกว่าเชื่อเขา จะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป……

จริงๆแล้วช่วงบ่ายหลังจากที่เธอจากไป เขาก็ไปตรวจสอบบันทึกการขับขี่มาแล้ว

เมื่อคืนรถไมบัคคันนั้นแล่นผ่านไปแถวหมู่บ้านออเรนจ์จริงๆ……

จุดที่น่าสงสัยและความลึกลับของเรื่องนี้ที่จำเป็นต้องคลี่คลายมีเยอะแยะมากมาย

ไม่มีการกระทำอื่นใดอีก เขาจูบไปที่ติ่งหูของเธอค่อยๆเลื่อนลงมาที่ริมฝีปาก แนบเข้าไปโดยตรง

ข่มเหงครอบงำ ม้วนลิ้นของเธอคิดอยากที่จะแสวงหามันมากขึ้น

ณิชาไม่มีทีท่าจะขัดขืนตั้งแต่แรก คล้องคอของเขา ตอบสนองเขาอย่างอ่อนโยน บางทีนี่อาจจะเป็นจูบที่ดื่มด่ำครั้งสุดท้ายของพวกเขาก็ได้ แล้วก็บางทีอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้ด้วย……

เธอจะเห็นแก่ตัวขนาดนั้นไม่ได้ เพื่อความสุขของตัวเอง แล้วไม่สนใจไยดีแม้กระทั่งชีวิตของพ่อ

เธอค่อยๆหลับตาลง มือลูบอยู่บนหน้าอกของเขาโดยไม่รู้ตัว

เวธัสรู้สึกได้ถึงความตื่นตัวของณิชา รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ตอนที่อยู่ที่กองบังคับการตำรวจจาจร เธอยังปฏิเสธการแตะเนื้อต้องตัวของเขาอยู่เลย ทำไมในเวลาสั้นๆแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง กลับเปลี่ยนท่าทีซะแล้ว? แม้ว่าจะรู้สึกสงสัย แต่นี่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาที่กำลังหลงใหลและดื่มด่ำไปกับจูบที่แสนดูดดื่มในครั้งนี้

……

พอทุกสิ่งทุกอย่างจบลง ตอนที่ณิชาตื่นขึ้นมาเวธัสก็ไม่อยู่บ้านแล้ว

เขาไปบริษัทเรียบร้อยแล้ว แปะโน้ตเอาไว้ที่หัวเตียงหนึ่งแผ่น ข้างบนเขียนเอาไว้ว่ามีโจ๊กอยู่ในหม้อหุงข้าว

เวธัสแทบจะไม่เข้าครัวเลย เขาค่อนข้างเชื่อในคำกล่าวที่ว่า สุภาพบุรุษจะไม่เข้าครัว

ณิชาเปลี่ยนชุดนอน ก่อนจะตรงไปที่ห้องครัว

เปิดหม้อหุงข้าว โจ๊กข้างในสุกแล้ว สีขาวนวล ควันสีขาวลอยโขมงออกมาเล็กน้อย

เธอตักโจ๊กออกมาใส่ในถ้วยเซรามิกสีขาว

นั่งลงที่โต๊ะอาหารคนเดียว ตักเข้าไปในปากคำแล้วคำเล่า

ไม่มีรสชาติ แต่กลับอร่อยยิ่งกว่าอาหารทุกอย่างบนโลก

นี่เป็นสิ่งที่เวธัสลงมือทำให้กับเธอ……

ตอนบ่าย ณิชาไม่ได้ไปบริษัท ลาหยุดต่อ เธอไปรับลูกๆทั้งสองคนที่โรงเรียนอนุบาลก่อน

ครูประจำชั้นนึกว่าที่บ้านของเธอมีเรื่องเร่งด่วนอะไรเกิดขึ้น จึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย

ปัณณ์กับอรัลต่างก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็น ว่าทำไมวันนี้จู่ๆถึงมารับพวกเขาโดดเรียนก่อน?

เมื่อก่อนหม่ามี๊เข้มงวดจะตายว่าห้ามโดดเรียนเป็นอันขาด!

ณิชารู้สึกเจ็บปวดใจจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่กลับยังอดกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดชีวิต

เธอจะร้องไห้ไม่ได้

เธอเป็นแม่ ต้องมอบความทรงจำที่สวยงามที่สุดให้กับพวกเขา

……

ปัณณ์กับอรัลปากบอกว่าไม่สนใจสนามเด็กเล่น แต่พอมาถึง พวกเขาก็เหมือนกับปลาที่ถูกปล่อยลงสู่ทะเล วิ่นเล่นไม่สนทิศไม่สนทางอย่างสุขอกสุขใจ

เธอแอบหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายบันทึกรอยยิ้มที่จริงใจที่สุดของพวกเขาเอาไว้

ยิ้มได้สดใสมากๆ เอามือเท้าสะเอว โบกมือให้กับเธออย่างไม่หยุดหย่อน

ตอนที่นั่งอยู่บนรถไฟของเล่นนั้น ก็ยังเอาสองมือมาป้องปาก ทำเสียงปู๊นๆ เอาอกเอาใจเธอ

ตลอดทั้งช่วงบ่าย รอยยิ้มบนใบหน้าของณิชาไม่ได้จางหายไปเลยสักนิด

พวกเขาสามคนแม่ลูกเล่นกันอย่างสนุกสนานมากๆ

เล่นกันจนสนามเด็กเล่นปิดในช่วงค่ำ

แม้ว่าจะเป็นฤดูหนาว แต่พวกเด็กน้อยกลับเล่นจนเหงื่อออก

เธอมองใบหน้าที่ดีใจมีความสุขของเด็กน้อยทั้งสองคน ก้มหน้าลงหอม“พวกลูกยังอยากเล่นอะไรอยากกินอะไรอีกไหม? วันนี้หม่ามี๊จะพาพวกลูกไปเล่นให้สนุกไปเลยทีเดียว”

ปัณณ์ดีใจมาก เขามาออดอ้อนที่ต้นขาของเธอ จูบหอมที่หน้าของเธออย่างไม่หยุดหย่อน จนน้ำลายเต็มหน้า

ดูออกว่า เขาไม่ได้ดีใจขนาดนี้มานานมากแล้ว……

แต่อย่างไรก็ตามอรัลยังคงขมวดคิ้วอยู่หลังจากที่ออกมาจากสนามเด็กเล่นแล้ว

เขามองสำรวจหม่ามี๊อยู่นานมาก เธอแอบเช็ดน้ำตาเป็นบางครั้งบางคราว

ทำไมกัน?

พาพวกเขาออกมาเที่ยวเล่น มันควรจะดีใจไม่ใช่หรือไง?

หรือเป็นเพราะว่ามีเบาะแสของตาแล้ว ก็เลยร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจอย่างนั้นเหรอ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊