กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 436

หาตัวเจอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพาตัวกลับมาได้!

ปัณณ์เหมือนครุ่นคิดในใจ ทำปากมุ่ย“คุณพ่อรู้ที่อยู่ของหม่ามี๊?”

“หม่ามี๊อยู่ในบ้านของหม่ามี๊เจนนี่ของลูก แด๊ดให้คนส่งลูกไปได้”

เวธัสเล่าเรื่องราวให้กับปัณณ์ฟังไปอย่าง่ายๆ แต่เขาบิดเบือนความจริงที่ว่าเขาขับรถชนสิดา จุดสำคัญคือเน้นว่าณิชาจากไปโดยที่ไม่มีสัญญาณบ่งบอกล่วงหน้า

จะต้องมีจุดที่แปลกๆอย่างแน่นอน……

“พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ลูกจำเป็นต้องหาสาเหตุที่หม่ามี๊จากไปในครั้งนี้ให้เจอ ทำได้ไหม?”

ปัณณ์พอได้ทราบที่อยู่ที่แน่ชัดของหม่ามี๊ ก็สบถหึออกมาอย่างขอไปที

เวธัสพอได้ยินเขาสบถออกมา ก็จงใจทำเป็นประชดประชัน“ทำไม่ได้ก็บอกมาตรงๆ คุณพ่อไม่หัวเราะเยาะหรอก”

“คุณพ่อคิดว่าปัณณ์เหมือนกับคุณพ่อหรือไง? คิดรู้ที่อยู่ของหม่ามี๊แล้วจะกล่อมให้หม่ามี๊กลับมาไม่ได้เหรอ?”ปัณณ์จ้องมองเวธัสอย่างดูถูกดูแคลน พูดขึ้นอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ“รอดูเถอะ ปัณณ์จะตรวจสอบหาความจริงให้กระจ่างเอง!”

พูดจบ เขาก็เดินลากกระเป๋าเดินทางออกไปข้างนอก

ตอนที่เดินมาอยู่ข้างหน้าโซฟา เหลือบเห็นหมวกแก๊ปเด็กสีดำที่ดูเท่ใบหนึ่ง หยิบมาสวมลงอย่างไม่คิดแม้แต่นิดเดียว ท่าทางหล่อเท่

จู่ๆอรัลก็รู้สึกอิจฉาปัณณ์ขึ้นมานิดหน่อย บอกจะไปก็ไปได้อย่างอิสระสบายใจขนาดนี้

เขารู้สึกประหม่าอยู่สักพัก……

เวธัสหันมองอรัล“ไปกินข้าวซะ จะสายแล้ว”

“ครับ คุณพ่อ”อรัลหันสายตากลับมาอย่างไม่เต็มใจ ในใจคาดหวังที่จะตรวจสอบหาความจริงให้เร็วที่สุด ในใจของเขา หม่ามี๊ก็ไม่ใช่คนที่จะทอดทิ้งเขาและปัณณ์ไปอย่างง่ายดายแน่นอน

ในขณะนี้เอง โทรศัพท์ของเวธัสก็ดังขึ้น เขาพอเห็นสายที่โทรมาเป็นบอดี้การ์ดที่เขาส่งให้ไปติดตามณิชา ก็ขมวดคิ้วทันที

……

เวลาเกือบจะเที่ยงตรง ก้อยตอบรับคำเชิญของท่านประเสริฐ ไปยังคฤหาสน์เก่าของตระกูลสนธิไชย

หลังจากที่เอ้อระเหยไปมาในช่วงที่ผ่านมานี้ เธอก็มีความเข้าใจเบื้องต้นต่อความสัมพันธ์ของสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ในแวดวงชั้นสูงบ้างแล้วเหมือนกัน

สองสามวันก่อนท่านประเสริฐมาขอพบกับคุณย่าศิริจันทร์ถึงที่อยู่บ่อยครั้ง แต่คุณย่าศิริจันทร์หลีกเลี่ยงที่จะเจอ

ก้อยรู้ว่าคุณย่าศิริจันทร์เข้ากันไม่ค่อยได้กับท่านประเสริฐ จึงจงใจที่จะหลีกเลี่ยง

แต่ไม่คิดว่า ท่านประเสริฐจะให้ของกำนัลกับเธอ เป็นเครื่องประดับและวิลล่าหนึ่งหลังที่มูลค่าร้อยล้าน

เธอรับของกำนัลไว้แล้ว แน่นอนว่าถ้าไม่ไปพบกับท่านประเสริฐสักหน่อยก็คงจะดูไม่ดี

นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านประเสริฐเจอกับก้อย ก่อนหน้านี้เห็นแค่ในข่าวจากอินเทอร์เน็ตเท่านั้น

ผ่านการแต่งหน้าและเสื้อผ้าหรูหราระดับไฮเอนด์ ลักษณะท่าทางของก้อยดูไร้ซึ่งความอ่อนน้อมถ่อมตัวไม่เหมือนกับในสมัยที่ทำงานเสริมในวงการบันเทิง แต่พูดกันตามตรงแล้ว ท่านประเสริฐรู้สึกไม่ชอบความระมัดระวังในการพูด ท่าทางที่ดูตระหนี่ใจคับใจแคบของเธอ มันไม่เพียงพอที่จะเป็นนายหญิงของตระกูลสนธิไชย

“หนูก้อย เธอชอบเครื่องประดับที่ฉันให้ไหม?”ภายในห้องรับแขกของคฤหาสน์เก่า ท่านประเสริฐนั่งอยู่ตรงที่นั่งหลัก ในมือถือชาหนึ่งแก้ว จิบไปทีละนิด

ก้อยแอบมองสำรวจใบหน้าที่เข้มงวดจริงจังของท่านประเสริฐ ถ้าเกิด ดูเข้มงวดจริงจังไม่ต่างจากที่เขาเล่าต่อกันมาเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ พยักหน้ายิ้มๆ

“ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ก้อยชอบมากๆ”

“คือแบบนี้ ตระกูลสนธิไชยกับตระกูลรุ่งโรจน์ หลายปีก่อนเนื่องจากความเข้าใจผิดกันบางอย่างทำให้เกิดการทะเลาะขัดแย้งกันอย่างหนัก ฉันอยากจะจัดการแก้ไขมาโดยตลอด วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อกัน”แม้ว่าท่านประเสริฐจะจงใจทำให้น้ำเสียงดูอ่อนลง แต่ที่ตัวก็ยังคงให้ความรู้สึกกดดันตามธรรมชาติอยู่

“ที่ฉันเรียกเธอมาในวันนี้ ก็อยากที่จะถามว่าเธอมีคนที่ชอบแล้วหรือยัง ถ้าไม่มี เธอรู้สึกว่าหลานชายของฉันเป็นยังไงบ้าง”

ก้อยกำลังดื่มชา พอได้ยินคำพูดนี้ของท่านประเสริฐ ใจก็เต้นแรงทันที มองท่านประเสริฐด้วยความประหลาดใจ“ทาน……ท่านพูดว่าอะไรนะคะ?”

ท่านประเสริฐจ้องมองเหตุการณ์ที่วุ่นวายโกลาหลนี้ ส่งเสียงห้ามขึ้นมา“พอได้แล้ว!หยุดให้หมด”

บอดี้การ์ดถึงได้ออกไปจากห้องรับแขกตามคำสั่ง เวธัสเดินฝ่าแดดยามเข้ามาข้างใน

เนื่องจากการมาของเขา ทำให้อุณหภูมิภายในห้องรับแขกหลักราวกับลดต่ำลงไปหลายองศา กล้ามเนื้อที่ดูชัดเจนนั้นพออยู่ใต้เสื้อสีดำ ทำให้ดูน่าดึงดูดมากขึ้น บวกเข้ากับใบหน้าที่ดูดีไร้ที่ตินั่น ทำให้ใจของก้อยเต้นแรงอยู่ไม่น้อย

นี่ถือว่าเป็นการเจอกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากค่ำคืนที่แสนสับสนวุ่นวายของพวกเขาในวันนั้น

พอคิดถึงตอนที่เขาทารุณอยู่บนตัวเธอในคืนนั้น ก็หน้าแดงอย่างอดไม่ได้

“คุณเวธัส? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”เธอทักทายอย่างยิ้มแย้ม

แต่อย่างไรก็ตาม เวธัสกลับไม่อยากที่จะชำเลืองตามองเธอแม้แต่นิดเดียว แววตาดำจ้องมองท่านประเสริฐอย่างเย็นชา“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับท่าน”

“แกพูดจากับผู้อาวุโสแบบนี้เหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอความกรุณาพวกท่านถามตัวเอง ว่าได้ประพฤติตัวเหมาะที่จะเป็นผู้อาวุโสแล้วหรือยัง?”นี่เป็นครั้งแรกที่เวธัสมีกริยาท่าทางไม่เคารพท่านประเสริฐที่สุด เมื่อก่อนต่อให้พวกเขาสองคนจะมีทะเลาะมีปากเสียงกัน แต่เขาก็จะไว้หน้าและให้เกียรติคุณท่านตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าของก้อยในตอนนี้

ท่านประเสริฐสีหน้าท่าทางบึ้งตึง หันไปมองลุงพร

ลุงพรเข้าใจขึ้นมาทันที เชิญก้อยออกไป

ก้อยเองก็รู้สึกอึดอัดที่จะอยู่ต่อไป แต่ว่าก่อนจะไป เธอก็ส่งสายตาแฝงนัยยะให้กับเวธัส“คุณเวธัส สิ่งดีๆที่คุณกระทำต่อฉันในคืนนั้น ฉันจำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าคุณจะหย่ากับณิชาหรือไม่ ฉันก็รักคุณมาตลอด”

คืนนั้น?

ท่านประเสริฐดูเหมือนจะได้ยินความลับที่น่าตกใจบางอย่างเข้า สายตาหันมองไปที่เวธัสและก้อย

หลังจากที่ก้อยไปแล้ว ประเสริฐก็ไล่ถามขึ้นมาทันที“แกกับก้อยมีความสัมพันธ์กันมาก่อนแล้ว?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊