กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 437

“เมื่อวานซืนท่านไปพูดอะไรกับณิชา?”เวธัสไม่ตอบแต่กลับถามกลับ น้ำเสียงดุดันก้าวร้าว

ประเสริฐดื่มชาไปหนึ่งคำอย่างไม่รีบไม่ร้อน

ไม่มีความสงสัยเลยสักนิดว่าเวธัสหาเบาะแสเจอแล้วมาถามกับเขาได้ยังไง

ถ้าเกิดเขาไม่มีความสามารถในส่วนตรงนี้ล่ะก็ ก็ไม่ยอมปล่อยให้เขามาบริหารจัดการสนธิไชยกรุ๊ปอย่างแน่นอน

“ฉันจะไปพูดอะไรกับเธอได้ นอกจากว่าทำให้เธอได้รู้ตัวเองสักหน่อย ว่าตอนนี้ตระกูลรุ่งโรจน์พาหลานสาวกลับมาได้แล้ว ถ้าเกิดเธอรักแกก็ให้รีบจากแกไปซะตั้งแต่แรก ให้แกได้แต่งงานกับลูกสาวของตระกูลรุ่งโรจน์ ดูจากท่าทางที่โมโหเกรี้ยวกราดของแกในตอนนี้แล้ว เธอน่าจะตัดสินใจอย่างชาญฉลาดที่สุดแล้วสินะ ก็ดี ถือว่าเธอรู้งานอยู่เหมือนกัน”

“ผมไม่ใช่หมากในมือของท่าน ไม่ได้โง่ขนาดนั้น”คิ้วที่เยือกเย็นของเวธัสเต็มไปด้วยความโกรธ

บอดี้การ์ดบอกกับเขา ว่าระหว่างที่ณิชาไปโรงพยาบาล เธอถูกรับตัวมาพบกับท่านประเสริฐ

ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังเกือบครึ่งชั่วโมง ตอนที่กลับออกมาอีกครั้ง ท่าทีของณิชาก็ดูผิดแปลกไปแล้ว

ปู่จะต้องทำอะไรเธอแน่ๆ……

“ไม่ว่าท่านจะใช้วิธีการไหนบีบบังคับให้ณิชาจากผมไป แต่ผมก็จะขอบอกกับท่านเลยว่า ผมไม่คิดที่จะหย่ากับณิชาเด็ดขาด อีกอย่าง……”เวธัสนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดเสริมขึ้นมาต่อ“ผมกับเธอเคยเซ็นสัญญาก่อนสมรสไว้แล้ว ถ้าเกิดหย่ากัน ทรัพย์สินทั้งหมดของผมก็จะตกไปอยู่ภายใต้ชื่อของเธอ”

“……”บรรยากาศราวกับถูกฉีกขาด ประเสริฐสำลักชาที่ไหลเข้าไปในลำคอ ใบหน้าแก่ชราก็แดงตามขึ้นมา

เขามองเวธัสด้วยความเหลือเชื่อ สงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป

“ตะกี้แกว่าไงนะ?”

“สัญญามีสามฉบับ นอกจากอยู่ที่ผมแล้วหนึ่งฉบับ ที่เหลือก็เก็บเอาไว้ที่สำนักงานทีปกร ท่านสนใจจะตรวจดูสักหน่อยไหม?”

ประเสริฐไอกระแอมออกมาหลายที ก่อนจะดึงสติกลับมา เขาถือไม้เท้าแทบอยากจะฟาดเข้าไปที่หน้าของเวธัส

“ไอ้ไร้ยางอาย!ของที่ตระกูลสนธิไชยให้กับแก แกกลับมอบให้กับผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ? เธอมีค่าอะไร ถึงได้คู่ควรกับทรัพย์สินเหล่านี้? ฉันไม่สน แกต้องคิดหาวิธีโอนทรัพย์สินหรือไม่ก็ยกเลิกสัญญาไปซะ ห้ามให้เธอแม้แต่ฉบับเดียว!”

เวธัสไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้น“ยกเลิกไม่ได้ นอกซะจากว่าเธอจะตาย แต่ถ้าเธอตาย ผมก็จะให้ทั้งตระกูลสนธิไชยสูญสิ้นไปพร้อมกันกับเธอ ท่านจะลองดูก็ได้นะว่าผมกล้าทำให้ตระกูลสนธิไชยสูญสิ้นไปจนหมดไม่เหลืออะไรเลยจริงๆไหม”

“แก……”ตอนนี้ประเสริฐรู้สึกโกรธถึงขีดสุดแล้ว

“ที่ผมจะพูดก็มีเท่านี้ ในเมื่อท่านไม่ยอมบอกผมว่าใช้วิธีการอะไรในการข่มขู่เธอ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะทำการหาด้วยตัวเองอย่างช้าๆ ขอตัวก่อน”พอเวธัสพูดจบไปอย่างเย้ยหยัน ก็หันตัวเดินจากไปทันที

ประเสริฐเดินค้ำไม้เท้าตามไปอย่างโซเซ หายใจถี่“เวธัส หรือว่าแกถูกผู้หญิงคนนี้คนเดียวทำลายไปแล้วเหรอ?”

“ผมไม่เคยต้องการที่จะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีเพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนกับอะไรมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว การแต่งงานของผมผมตัดสินใจเอง ปู่ อย่ามาทำเป็นพูดจาดูสวยหรูว่าเพื่อตระกูลสนธิไชยและอนาคตของผมเลย ท่านก็แค่ทำให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลงก็เท่านั้น ตอนแรกทรยศหักหลังคุณย่าศิริจันทร์ ทำให้ท่านรู้สึกเสียใจมาตลอดทั้งชีวิต พูดง่ายๆก็คือ ท่านก็แค่อยากที่จะให้คุณย่าศิริจันทร์ให้อภัยท่านในช่วงบั้นปลายชีวิตที่เหลืออยู่ของท่านก็เท่านั้น”

เสียงในลำคอที่ทุ้มต่ำของเวธัสแฝงไปด้วยอันตรายและดูถูกดูแคลน

“บังอาจ!แกบังอาจ……”

เวธัสหันตัวเดินต่อไป

พูดออกมาแล้ว ท่าทีของเขาก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว

ก็ต้องรอดูว่าพวกเขาใครจะโหดเหี้ยมกว่ากัน

ตอนที่เวธัสเพิ่งจะเดินมาถึงประตูของห้องรับแขกหลัก จู่ๆข้างหลังก็มีร้องเสียงตะโกนอย่างสุดเสียงของลุงพรดังขึ้นมา“นายท่าน!นายท่าน?!เร็วเข้า รีบไปแจ้งหมอว่าเตรียมการช่วยเหลือเร็วเช้า นายท่านเป็นลมไปแล้ว……”

ฝีเท้าของเวธัสเบาลงเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็จากคฤหาสน์เก่าไปอย่างเด็ดเดี่ยว

……

ผลจากอาการเมาค้างทำให้หัวปวดสุดๆ!

ณิชาหลับจนพระอาทิตย์อยู่กลางหัวแล้ว ถึงได้คลานขึ้นมาจากเตียง รู้สึกหนักหัว ตาบวมเหมือนกับวอลนัท ยังดีที่ไม่ต้องไปบริษัท

เมื่อคืนเจนนี่กับชาลี“จัดหนักกันทั้งคืน” ก็ไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มเหมือนกัน

ตอนที่ตื่นขึ้นมาถังขยะภายในห้องก็มีถุงยางใช้แล้วทิ้งไว้เต็มไปหมด รู้สึกอับอายสุดๆ

ชาลีหรี่ตาที่เรียวยาวลง“น้าเล็กของผมเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมาก ผู้ชายที่ถูกเธอดึงดูดในตอนนั้นมีมากมาย ต่อให้เธอจะลดสถานภาพตัวเองลงมา ก็ยังไม่ถึงขั้นที่สามารถแอบให้กำเนิดลูกสาวนอกสมรสที่ชนบทอย่างเงียบๆได้หรอก”

ณิชาถอนหายใจออกมา รู้อยู่แล้วว่าชาลีไม่มีทางถูกหลอกง่ายๆแบบนี้แน่นอน

“แล้วทำไมพวกคุณถึงรับเธอเข้ามาในตระกูลรุ่งโรจน์ล่ะ? เพื่อที่จะใช้เธอเป็นหน้ากาก ในการลากคนที่มีเจตนาแอบแฝงภายในตระกูลรุ่งโรจน์ออกมาอย่างนั้นเหรอ?”

“พูดกับผู้หญิงฉลาดนี่ช่างรู้สึกผ่อนคลายสบายจริงๆ”ชาลีชำเลืองตามองเจนนี่อย่างมีเลศนัย พูดขึ้นมาต่อ“ก้อยเอากำไลที่เป็นมรดกตกทอดกันมาของตระกูลรุ่งโรจน์มาเพื่อยืนยันว่ามีเชื้อสายของวงศ์ตระกูล ผมกับคุณย่าใช้เบาะแสนี้ในการดูว่าใครกำลังบงการอยู่เบื้องหลังของเธอ แล้วต่อมาก็เหมือนกับที่คุณพูดนั่นแหละ ก้อยตัวคนเดียวสามารถหลอกลวงคนมากมายได้”

จากที่เขารู้มา คนของตระกูลรุ่งโรจน์ไม่น้อยที่เป็นมิตรต่อก้อย

โดยเฉพาะพิภพ

แล้วก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของก้อยเหมือนกัน ดูเหมือนว่าในอนาคตจะส่งมอบธุรกิจของตระกูลให้ไปอยู่ในมือของเธออีกด้วย แถมยังไปยุให้เธอไปเกลี้ยกล่อมคุณย่าศิริจันทร์ให้เปลี่ยนพินัยกรรมอีก

ณิชาเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว พูดถามขึ้นมาต่อด้วยความสงสัย“กำไลที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลรุ่งโจน์?”

ก้อยมาจากชนบท ญาติสนิทเพียงคนเดียวก็คือสิดาเธอไปเอากำไลที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลรุ่งโรจน์มาจากไหน?

น้ำตาลเหรอ? แต่ไม่ว่ายังไงน้ำตาลก็ไม่น่าจะไปเอาก้อยมาสวมรอยเป็นลูกสาว มันเสี่ยงเกินไป

“ฉันขอดูหน่อยได้ไหม?”เจนนี่ก็ถลึงสองตาโต จ้องมองชาลีด้วยความอยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน

คิ้วที่ดูดีของชาลีขมวดเข้าหากัน

“ไม่เป็นไร ฉันกับเจนนี่ก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ไม่สะดวกก็ช่างมันเถอะ”ณิชาเห็นถึงความลำบากใจของชาลี ก็เลยพูดออกไปอย่างเข้าใจ

“กำไลที่ตระกูลรุ่งโรจน์มอบให้กับชายหญิงลวดลายจะไม่เหมือนกัน ผมก็ไม่ได้ไปศึกษาความหมายในส่วนตรงนี้ อีกอย่างกำไลทั้งสองวงตอนนี้ก็ถูกเก็บเอาไว้ในตู้เซฟนิรภัยของคฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์ด้วย”ชาลีพูดอธิบาย

เจนนี่ขนตาลดต่ำลงด้วยความสิ้นหวัง“ยุ่งยากขนาดนี้เชียว ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันแล้วกัน”

ชาลีพอเห็นความสิ้นหวังในตาของเธอ จู่ๆก็พูดขึ้นมา“แต่ในโทรศัพท์ของผมเซฟภาพเอาไว้อยู่ ผมเอาให้พวกคุณได้เชยชมสักหน่อยได้นะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊