สายตาคมกริบของเวธัสมองไปที่เธอเหมือนมองมดตัวหนึ่ง “แล้วฉันจะรู้ได้ไง? ”
“ผู้ชายที่คุณจัดเตรียมมา จะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นใคร? ”ก้อยจะเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ ตอนนี้สีหน้าเธอเริ่มพังทลายแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอมีความสุขมาก คิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่สวยงามที่สุดสำหรับเธอ
เธอเห็นว่าประเสริฐมาที่นี่ และคิดที่จะคุยกับคุณยายเรื่องงานแต่งงานกับตระกูลสนธิไชย……
“เขาก็เป็นแค่แมงดาที่ฉันจ้างมาด้วยเงินไม่กี่ร้อยเท่านั้นแหละ”เวธัสยิ้มเยาะ พร้อมกับชื่นชมใบหน้าที่ร้องไห้ของเธอพร้อมกับพูดต่อว่า “ส่วนเป็นร้านไหนและชื่ออะไร เธอยังอยากจะถามต่อไหมล่ะ? ดูเธอมีความสุขขนาดนั้น แสดงว่าเขาคงจะบริการดีไม่น้อยเลยล่ะสิ? แถมตอนนี้เธอยังตั้งท้องลูกของเขาอีก ถ้าเกิดว่าไปหาเขาอีกครั้ง เขาน่าจะไม่คิดค่าบริการนะ……”
“แอว่ะ——”
พอก้อยได้ยินแบบนี้ ขนทั่วทั้งร่างกายของเธอก็ตั้งขึ้นพร้อมกันทันที เธอลูบท้องของตัวเองและรู้สึกอยากจะอาเจียน “หยุดพูดได้แล้ว!คุณหยุดพูดได้แล้ว!เวธัส คุณมันเป็นปีศาจ ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันทำอะไรผิดกันแน่……”
“ความผิดของเธอก็คือเธอไม่ควรจะมายั่วยุฉัน และไม่ควรเสแสร้งว่าเป็นญาติของตระกูลรุ่งโรจน์”
ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณย่าศิริจันทร์เดินมาตรงหน้าก้อยตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอก้มลงมองก้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า——
“ใครเอากำไลหงส์ให้เธอ? ”
ก้อยยังคงจมอยู่กับความจริงว่าจริงๆ แล้วลูกของตัวเองเป็นลูกของแมงดา เธอเอามือทั้งสองข้างกุมหัว รู้สึกว่าตัวเองสกปรกมาก
ถึงแม้ว่าเธอจะอ่อยเวธัส แต่ว่าเธอก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย
ร่างกายของเธอนั้นสะอาดบริสุทธิ์มาก……
พอคุณย่าศิริจันทร์เห็นดังนั้น ก็ให้คนมาจับแขนทั้งสองข้างของก้อยเอาไว้ แล้วก็บีบคางเธอให้เงยหน้าขึ้นา “ฉันถามก็ตอบสิ! ใครเป็นคนให้ข้อมือเธอมา? ”
“คุณย่า เดี๋ยวผมบอกคำตอบข้อนี้เองครับ” ชาลีเดินออกมาจากฝูงชน
เขาสวมใส่ชุดสูทสีเบอร์กันดีผูกเนกไทสีน้ำเงินเข้ม มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า และดวงตาคู่สวยคู่นั้นก็หรี่ลงอย่างน่าหวาดกลัว
หลังจากเขาพูดจบ ทุกคนก็ต่างพากันมองมาที่เขา
รวมถึงคุณย่าศิริจันทร์ด้วย
“แกรู้ถึงที่มาของกำไลนั้นงั้นเหรอ? ”คุณย่าศิริจันทร์าถามอย่างรีบร้อน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ “แล้วทำไมถึงไม่รีบบอก? ”
ชาลียักไหล่อยางไม่ใส่ใจ “ถ้าเกิดว่ารีบบอกวันนี้ก็ไม่ได้ดูละครใหญ่ฉากนี้สิครับ? ”
“ใครให้กำไลมา? ตอนนี้อาหญิงของแกเป็นยังไงบ้าง……” คุณย่าศิริจันทร์รู้สึกร้อนรนเป็นอย่างมาก สายตาเต็มไปด้วยความหวัง
คนที่เธอคิดถึงอยู่ตลอดเวลาเป็นเวลา20กว่าปีที่ผ่านมา ในที่สุดเธอก็จะได้รู้ข่าวคราวของกานต์รวีแล้ว……
ชาลีเหลือบมองณิชาจากหางตา สีหน้าของเธอนั้นดูซับซ้อนและกังวลมาก
พอณิชาเห็นว่าคุณย่าศิริจันทร์แคร์แม่ของเธอขนาดนั้น เธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
คุณยายอายุเยอะขนาดนี้แล้ว แต่กลับต้องบอกเธอว่า แม่ได้จากโลกนี้ไปตั้งแต่20กว่าปีก่อน……
ราวกับว่ามีด้ายล่องหนอยู่ตรงไหนสักแห่ง ตอนนี้คุณย่าศิริจันทร์ก็หันไปมองณิชาตามชาลี
คนแก่และเด็ก ส่งสายตาหากัน
คนหนึ่งซึ้งใจ ส่วนอีกคนรู้สึกประหม่า
ริมฝีปากของคุณย่าศิริจันทร์เริ่มขยับ แต่ว่ากลับตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พูดออกมาทีละคำเท่านั้น “คือ……เธองั้นเหรอ? ”
ชาลีกลัวว่าคุณย่าจะตื่นเต้นจนเป็นลมไป ก็เลยเดินเข้ามาประคองเธอแล้วพูดว่า “ก้อยอาศัยความสัมพันธ์กับสิดา ไปที่ตระกูลสถานนท์เพื่อหยิบกำไลหงส์มาเพื่อแสดงตัวกับคุณย่า ดังนั้นผมก็เลยเอาเส้นผมของณิชาไปกับของคุณย่าไปตรวจ……”
“แล้วผลล่ะ? ”คุณย่าศิริจันทร์บีบมือชาลีด้วยความตื่นเต้น จนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของเขาโดยไม่รู้ตัว
ชาลีพยักหน้าเบาๆ “เหมือนกับผลที่ก้อยเอามาให้ย่าดูทุกประการ”
เหมือนกับพอจะเดาได้อยู่แล้ว แต่พอได้ยินความจริงจากปากของชาลี คุณย่าก็ยังมีความรู้สึกมากมายผสมปนเปกันอยู่ หัวใจก็เต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมา
เขาหน้าแดงขึ้นมาทันทีด้วยความรู้สึกผิด อยากจะยอมหน้าด้านอธิบายอะไรสักสองสามประโยค แต่ว่าต่อให้พูดอะไรไปตอนนี้มันก็คงไร้ประโยชน์ และไปทำลายความอบอุ่นของคู่ยายหลานนี่ซะเปล่าๆ
แล้วเขาก็บังเอิญไปสบตาเข้ากับดวงตาที่มืดมนของเวธัส ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าในสายตาของประเสริฐแล้วนั้น เหมือนกับว่ากำลังโดนต่อว่าว่าเขาทำอะไรตั้งมากมาย แต่กลับต้องกลับมาอยู่ที่เดิม
ประเสริฐเม้มปากด้วยความไม่พอใจ ตอนที่เตรียมจะถลึงตากลับไปนั้น เขาก็ไม่มีความมั่นใจพอ สุดท้ายก็เดินออกไปอย่างเศร้าซึม
ตอนนี้เขาไม่มีหน้าจะอยู่ตรงนี้ต่อไปแล้ว!
ชาลีหยิบทิชชูส่งให้คุณย่าศิริจันทร์กับณิชาแล้วพูดว่า “การที่ได้เจอน้องสาวเป็นเรื่องที่ดีออก คุณย่าอย่าตื่นเต้นเกินไปสิ ครอบครัวของเราได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง คุณป้าที่อยู่บนฟ้านั้นคงได้รับการปลอบใจแล้วล่ะครับ……”
“คุณยาย อย่าร้องไห้ไปเลยนะคะ พี่ชาลีพูดถูกแล้ว ร้องไห้ต่อไปเดี๋ยวคนอื่นจะหัวเราะเอาได้นะคะ”ณิชากุมมือคุณย่าศิริจันทร์เอาไว้แล้วพูดปลอบใจเธอ
ทันใดนั้นดวงตาสีเทาของคุณย่าศิริจันทร์ก็สว่างขึ้นทันที เธอกุมหลังมือของณิชาเอาไว้ แล้วก็พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “เมื่อกี้……หนูเรียกยายว่าอะไรนะ? ”
“คุณยาย” ณิชามองเธออย่างจริงจัง “หนูอยากเรียกคุณยายแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่หนูรู้ว่าคุณเป็นยายของหนูแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าขอโทษจริงๆ นะคะ อย่าหัวเราะเยาะหนูนะ เพราะว่าหนูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะได้เจอญาติของแม่”
“เด็กดี เด็กดี……”คุณย่าศิริจันทร์ตื่นเต้นจนไม่รู้จะพูดอะไรดี
ชาลีสบายใจขึ้นเยอะ ทันใดนั้นก็รู้สึกตัวเหมือนกับว่ากำลังมีสายตาที่ชั่วร้ายกำลังจ้องมองมาที่ตัวเอง เขาหันหน้าไปก็พบว่าเวธัสกำลังจ้องเขม็งมาที่เขา แล้วก็มีรัศมีสังหารปนอยู่ในสายตาที่เยือกเย็นของเขาด้วย
ชาลีรู้ว่าเวธัสโกรธที่ไม่ได้บอกความจริงกับเขาก่อนหน้านี้
แต่เขากลับยิ้มอย่างมีความสุขมากขึ้น
ไม่บอกแล้วจะทำไม? ทำให้น้องสาวเขาต้องได้รับความไม่เป็นธรรมตั้งมากมาย เธอว่าหาเรื่องเองนะ
เขาไม่ลืมเลยว่าช่วงเวลาก่อนหน้านี้ณิชาต้องเสียน้ำตาไปมากขนาดไหน……
สีหน้าของเวธัสมืดมนลงกว่าเดิม
เรื่องราวชีวิตของณิชา นี่เป็นอีกครั้งที่เขาถูกปิดหูปิดตาอีกแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...