กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 458

น้ำตาลเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ แล้วก็เหมือนมีเสียงเตือนดังขึ้นในใจของตัวเอง

เธอเตรียมจะหนีออกไปเงียบๆ แต่ว่าชาลีไม่ได้คิดจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งที่สอง เขาส่งคนไปเฝ้าประตูเอาไว้ แล้วก็จับเธอกลับมา

แล้วน้ำตาลก็ถูกโยนตัวกลับมาในห้องโถงจัดงาน

ก้อยที่หมดหวังพอเห็นน้ำตาลนั้น ก็รีบเข้าไปกัดน้ำตาลเหมือนหมาบ้าทันที “เธอ!ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะเธอทั้งนั้น!ฉันก็เป็นแค่ผู้สมรู้ร่วมคิด คุณย่าศิริจันทร์คะ หนูยอมรับความผิดของตัวเอง แต่ว่าทุกอย่างน้ำตาลเป็นคนคิดขึ้นมาทั้งนั้น คนที่เผาโรงรับจำนำก็คือเธอ กำไลเธอก็เป็นคนแย่งมา……ขอร้องล่ะค่ะ ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ……”

น้ำตาลลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วก็ตะคอกกลับไปอย่างตื่นตระหนก “มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คุณย่าฟังหนูก่อนนะ หนูไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้เลยด้วยซ้ำ เธอกำลังใส่ร้ายหนูอยู่!เธออยากจะได้เงินจนเป็นบ้า แล้วตอนนี้พอถูกเปิดโปงก็มายัดให้เป็นความผิดของหนู……”

“น้ำตาล อย่าปฏิเสธเลย เธอต่างหากที่เป็นฆาตกรตัวจริง……”

ก้อยอยากจะคิดโยนความผิดทั้งหมดให้กับน้ำตาล ก็เลยพูดทุกอย่างออกมาในครั้งเดียว

รวมถึงเรื่องที่ว่าน้ำตาลตามหาเธอเจอได้ยังไง แล้วก็สั่งให้ให้เธอสวมใส่กำไลหงส์ แล้วก็ให้เธอมาแสดงตัวเป็นญาติ

รวมถึงเรื่องที่พิภพโดนน้ำตาลหลอกด้วย!

ยิ่งก้อยพูดเยอะมากเท่าไหร่ น้ำตาลก็ยิ่งร้อนใจ เธอตะคอกออกมาอย่างรุนแรงว่า “ฉันไม่เคยมีอะไรกับเธอเลยนะ แล้วเธอมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าฉันเป็นคนชี้นำเธอบ้างไหม? ฉันว่าเธอก็เหมือนหมาบ้า เที่ยวลากคนนู้นคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องไปทั่ว!ถ้าเกิดว่าเธอยังกล้าใส่ร้ายฉันอีก ก็รอหมายเรียกจากฉันได้เลย……”

“เหอะ โชคดีที่ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอจะทรยศ ก็เลยแอบอัดวิดีโอเอาไว้”

พอก้อยพูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและกดเล่นวิดีโอทันที

วิดีโอนี้ถูกถ่ายอย่างลับๆ กล้องน่าจะถูกวางอยู่บนโต๊ะกาแฟหรืออะไรสักอย่าง เห็นได้ชัดว่ามุมที่ถ่ายนั้นค่อนข้างเอียง

ในภาพคือน้ำตาลกำลังออกคำสั่งกับก้อยอย่างเจ้ากี้เจ้าการ——

“เธออย่าลืมสิว่าใครสร้างให้เธอเป็นหลานสาวของตระกูลรุ่งโรจน์? ถ้าเกิดว่าไม่มีฉัน ตอนนี้เธอก็เป็นได้แค่ไก่ฟ้าเท่านั้นแหละ”

“พรีเซนเตอร์ของFCGคนนั้นน่ะ ถอดออกซะ”

หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงสั่นๆ ของก้อย “ถึงแม้ว่าคุณยายจะให้ฉันรับผิดชอบดูแลFCG แต่การที่ฉันพึ่งจะมาแล้วก็เปลี่ยนตัวพรีเซนเตอร์ ฉันจะดูใจร้อนต้องการความสำเร็จเกินไปรึเปล่า? ”

“กลัวอะไร? ตอนนี้ยัยแก่ตายยากนั้นรักเธอจะตาย เธออยากได้อะไรมันก็ให้อย่างนั้นแหละ ก็แค่พรีเซนเตอร์คนเดียวเอง……”

หลังจากนั้นพูดอะไรต่อ น้ำตาลก็ไม่ได้สนใจฟังแล้ว

วิดีโอคลิปนี้ได้ตัดสินความผิดของเธอเรียบร้อยแล้ว!

แก้มที่ซีดเซียวของเธอในตอนนี้นั้นมันแทบจะโปร่งใสอยู่แล้ว สมองตื้อไปหมด

แขกที่ยังไม่ทันจะดึงสติกลับมาจากเรื่องที่คุณหนูตัวปลอมโยนกรวดล่อหยกและคุณหนูตัวจริงโผล่ออกมา ก็ต้องระเบิดออกมาอีกครั้ง

“ที่แท้น้ำตาลก็เป็นคนทำเรื่องทุกอย่างอย่างนั้นเหรอ? ”

“ฉันก็ว่าอยู่ คนบ้านนอกที่มาจากถิ่นทุรกันดารเหมือนก้อยเนี่ย จะไปรู้ได้ยังไงว่าถ้าจะมาแสดงตัวเป็นญาติของตระกูลรุ่งโรจน์ต้องเอากำไลหงส์มาด้วย? ”

“ได้ยินมาว่าหลังจากที่น้ำตาลถูกคุณหญิงตระกูลรุ่งโรจน์ขับไล่ออกมานั้น ทำผิดแล้วก็ไม่ยอมแก้ไขแถมยังเข้าไปในวงการบันเทิงอีก ที่แท้ก็เล่นละครเป็นจริงๆ ด้วย……”

“วันนี้สื่อมาเยอะแยะมากมาย ถือว่าช่วยให้เธอมีชื่อเสียงแล้วนะ!”

ระหว่างที่แขกพูดคุยกันอย่างดุเดือดนั้น รถตำรวจก็มาถึง

ตากล้องที่อยู่ในที่เกิดเหตุบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเรื่องที่ก้อยกล่าวหาน้ำตาลนั้นก็เป็นเรื่องจริง

ณิชามอบหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจ แล้วก็พูดอย่างมีมารยาทว่า “คุณตำรวจทั้งสองท่านคะ เกี่ยวกับเรื่องที่มีคนพยายามฆ่าแม่ของฉัน แล้วก็เรื่องที่โรงรับจำนำไฟไหม้ หวังว่าคุณจะสืบหาความจริงได้ และมอบความยุติธรรมให้กับทุกคนนะคะ”

ตำรวจรับ USB ไป แล้วก็รับประกันอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเราจะพยายามให้ถึงที่สุด และแก้ไขคดีให้ได้โดยรวดเร็วครับ”

“ถ้ายังงั้นก็ต้องรบกวนด้วยนะคะ”

และหลังจากนั้น ก้อยกับน้ำตาลก็ถูกตำรวจพาตัวไป

ชาลีสืบเจอหลักฐานที่น้ำตาลกับก้อยสมรู้ร่วมคิดกันตั้งนานแล้ว แล้วก็มอบให้ตำรวจไปทั้งหมด พวกเธอทั้งสองคนก็จะมีจุดจบแบบเดียวกัน

ตอนที่น้ำตาลจะถูกพาตัวไปนั้น ก็หันมาตะคอกใส่ณิชาอย่างไม่ยอมตายใจ สายตาเต็มไปด้วยความดุร้าย “ฉันเกลียด ฉันเกลียดมันมาก!ทำไมฉันไม่ฆ่าแกให้ตายตั้งแต่ตอนแรกนะ? ณิชา รอเลยนะ ต่อให้ฉันต้องติดคุก ฉันก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน!”

สายตาของณิชาเยือกเย็นลง “ได้เลย ว่ากันว่าชีวิตในเรือจำหญิงนั้นโหดร้ายมาก กันญ่าอยู่ในนั้นได้ไม่ถึงเดือนก็เป็นบ้าไปแล้ว ฉันล่ะอยากจะรู้มากเลยว่าเธอจะไม่ปล่อยฉันไปได้ยังไงกัน? ”

ไม่อย่างนั้น ตอนนี้เขาก็คงยังถูกปิดหูปิดตาต่อไป

ณิชาเข้าใจในทันที แล้วก็ขยิบตาให้กับเขา “ทำไมต้องทำซึ้งขนาดนี้ด้วย ไม่เหมาะสมกับบุคลิกพี่เลยนะ”

“ถ้ายังงั้นเธอคิดว่าพี่มีบุคลิกแบบไหนกันล่ะ? ”

“ขี้เล่นน่ะ”

ชาลียิ้มอย่างรักใคร่ แล้วทันใดนั้นก็เหมือนมีภาพซ้อนขึ้นมาตรงหน้าเขา

และภาพนั้นก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็นฉายภาพเหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่ง——

น่าจะเป็นตอนที่เขาอายุสามสี่ขวบ

เพราะว่าพ่อแม่ของเขาถูกจับให้แต่งงานกัน หลังจากแต่งงานกันแล้วต่างคนก็ต่างไปเล่นสนุก และแม่ของเขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างแค้นเคือวทุกวัน พี่ข้างบ้านต่างก็ล้อว่าเขาเปลี่นแม่เลี้ยงทุกวัน

มีวันหนึ่งเขารู้สึกโกรธมาก ก็เลยมีเรื่องกับพี่ชายคนนั้น

แต่เพราะว่าเขาตัวเล็กกว่า แรงก็ไม่เยอะเท่าอีกฝ่าย ก็เลยต่อสู้ไม่ชนะ แถมยังมีแผลเต็มตัวไปหมด

เขาเดินคอตก และขากะเผลกกลับบ้าน

แต่ว่ายังไม่ทันจะได้เข้าไปในห้องนั่งเล่น ตอนที่เขายืนอยู่ตรงหน้ารั้วดอกไม้ตรงบันไดหินนั้น ก็ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกัน และก็เสียงแจกันและข้าวของต่างๆ ที่ถูกปาลงกับพื้น

เขากัดฟันด้วยความขมขื่น แล้วก็หันหลังและวิ่งหนีออกมาอย่างไม่ส่งเสียง

คืนนั้น พ่อกับแม่ของเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไม่กลับบ้าน มีแค่อาหญิงเท่านั้นที่พาคนขับรถมาตามหาเขาตอนดึก แล้วก็รับเขามาจากใต้สะพานลอย ทายาให้เขาอย่างอ่อนโยน เป่าลมให้แผลที่เลือดออกของเขา แล้วก็ปลอบลูกผู้ชายที่ไม่มีน้ำตาคนนี้

และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็เริ่มสนิทกับอาหญิง

ทันใดนั้นเสียงบอดี้การ์ดตรงหน้าประตูก็ขัดความคิดของชาลี——

“ คุณเวธัส คุณชายใหญ่ได้สั่งเอาไว้ครับว่าห้ามคนนอกเข้าไป”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊