แม้ว่าใบหน้าของเวธัสจะไม่ได้แดง แต่กลับจริงจังและเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
ความเยือกเย็นกระจายออกมารอบตัว
เขาโทรหาหมอล่วงหน้า ตอนที่เขาอุ้มณิชาเข้ามาในคลินิกนรีเวชนั้น ก็เจอแพทย์ชายคนหนึ่งที่รอต้อนรับอยู่ เขาขมวดคิ้วเข้มอย่างไม่พอใจในทันที “ฉันสั่งแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าเอาแค่แพทย์หญิงเท่านั้น?”
“แพทย์หญิงของแผนกเราคืนนี้ลากลับบ้านไปก่อนแล้วครับ ผมคือแพทย์ที่ดีที่สุดในตอนนี้......” แพทย์ชายพูดอย่างเยินยอแล้วส่งยิ้มไปทางเวธัส
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเวธัสเข้มขึ้นกว่าเดิม เขาออกคำสั่งอย่างเย็นชา “แพทย์ชายออกไปให้หมด แพทย์หญิงอยู่ต่อ”
สีหน้าของแพทย์ชายแข็งทื่อ และเดินจากไปพร้อมกับแพทย์ชายคนอื่นๆ
เวธัสวางณิชาที่อุ้มไว้ลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน
แพทย์หญิงแอบชำเลืองมองเวธัสจากหางตา หล่อมากๆ เธอระงับความตื่นเต้นในใจของเธอ แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณเวธัสคะ คุณผู้หญิงคนนี้เธอ......”
“ภรรยาของผมได้รับบาดเจ็บ” ใบหูของเวธัสแดงขึ้นอย่างน่าสงสัย น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ
เมื่อแพทย์หญิงได้ยินคำว่า “ภรรยา” หัวใจของเธอก็แตกสลาย แต่ก็รีบปรับอารมณ์ของตัวเอง แล้วส่งยิ้มให้กับณิชา “คุณผู้หญิงคะ คุณได้รับบาดเจ็บตรงไหนคะ? ขอดิฉันดูแผลของคุณหน่อยได้ไหมคะ”
ณิชาอยากจะขุดหลุมฝังตัวเองตรงนั้นเสีย ท้ายที่สุดเธอก็กางเข่าของตัวเองออกอย่างรู้สึกอาย พร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ
ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่หมอก็เข้าใจในทันที เธอยืนอืดอาดอยู่ระหว่างณิชาและเวธัสอย่างตกใจ
นี่มันแผลภายนอกจากการ......เสียดสีมากเกินไป!
รุนแรงกันเกินไปหรือเปล่า? แพทย์หญิงอึ้งไปครู่หนึ่ง
เวธัสไม่พอใจที่แพทย์หญิงเอาแต่ยืนจินตนาการอยู่ที่นั่น ความรู้สึกกดขี่แพร่ไปรอบตัว “รีบตรวจอาการของภรรยาผม”
แพทย์หญิงตัวสั่นกระส่าย รีบดึงสติกลับมาแล้วตรวจอาการของณิชา
หลังจากที่ตรวจเสร็จ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกโล่งอก
“คุณเวธัสคะ คุณผู้หญิงแค่แผลถลอกเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่มาก เดี๋ยวฉันจะจ่ายยาทาให้นะคะ พักผ่อนไม่กี่วันก็หายค่ะ”
“......” บรรยากาศเงียบสงบ ณิชารู้สึกอายจนแทบจะมุดดินหนีแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเวธัสที่ยืนยันจะอุ้มเธอมาโรงพยาบาล เธอคงไม่มาขายหน้าถึงโรงพยาบาลหรอก......
แวะซื้อยาทาที่ข้างถนนก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง?
ครั้งที่แล้วตอนที่เจนนี้โดนชาลีทำเรื่องแบบนั้น หมอก็แค่จ่ายยาให้แค่นั้น เธอยังจำชื่อยาได้อยู่เลย
“คุณผู้หญิงยังสาว ผิวบริเวณนั้นค่อนข้างเปราะบาง คุณเวธัสคะ แนะนำว่าคราวหลังตอนทำภารกิจ......อืม คงต้องระวังหน่อยนะคะ อย่ารุนแรงมากเกินไป” แพทย์หญิงใช้สายตาที่อาฆาต เตือนเขาอย่างมีจริยธรรมทางการแพทย์
สีหน้าของเวธัสนั้นแย่มาก แล้วใช้ความพยายามพูดออกมา “ไปเอายามา”
แพทย์หญิงมองณิชาด้วยสายตาที่อิจฉา และเดินออกไปอย่างเคารพและมีมารยาท
ภายในห้องพยาบาล ณิชารู้สึกเสียใจที่ก่อนออกบ้านทำไมตัวเองไม่สวมผ้าปิดปากออกมา เธอก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
ทันใดนั้น รองเท้าหนังสีดำวาววับคู่หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
เธอมองขึ้นไปตามรองเท้าหนังคู่นั้น เวธัสนั่งย่อลงมาพอดีกับหัวเข่าของเธอ และพูดด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด “ขอผมดูหน่อยว่าแผลเป็นยังไงบ้าง?”
“ก่อนหน้านี้คุณก็ดูแล้วไม่ใช่หรือไง?” ณิชาหุบเข่าตัวเองกลับ อย่างรู้สึกระวังตัวเป็นอย่างมาก
เวธัสวางฝ่ามือลงบนเข่าของเธอ น้ำเสียงของเธอแข็งทื่อ “ก่อนหน้านี้เห็นว่าคุณได้รับบาดเจ็บก็รีบส่งคุณมาเลย ไม่ได้ตั้งใจดูดีๆ”
“หมอก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นไร เดี๋ยวทายาก็ได้แล้ว!” ณิชาพูดอะไรเขาก็ไม่ฟัง แล้วยังหุบเข่ากลับเพราะความต้องการของเขาอย่างไม่รู้ตัว
เวธัสพูดอย่างบงการว่า “คุณจะอ้าเอง หรือจะให้ผมช่วยคุณอ้า?”
ความเจ็บแสบออกมาจากบาดแผล ณิชาหายใจอย่างยากลำบาก และกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ มือทั้งสองข้างกำชายเสื้อเอาไว้อย่างแน่น สีหน้าของเธอดูแปลกไปจากปกติ ทำให้เวธัสตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ทำคุณเจ็บอีกแล้วเหรอ?” เวธัสไม่กล้าขยับ
ราวกับว่าความเจ็บที่นี่ของเธอนั้นกับความเจ็บที่นั่นของเขานั้นคล้ายกัน ดังนั้นจึงยากที่จะลงมือ
ณิชารู้สึกว่าตัวเองถูกวางอยู่บนเตาเผา เค้นเสียงออกมาจากลำคอของเธอ “เปล่า! คุณรีบหน่อย ถ้าทาไม่เป็นก็เรียกหมอ......”
นี่มันทายารักษาบาดแผลให้เธอตรงไหน นี่มันทรมานเธออยู่ชัดๆ !
“คืนนี้ผมอัดอั้นมานานไปหน่อย เลยลืมควบคุมตัวเอง แต่คราวหลังผมจะพยายามระวัง เวลาที่คุณรู้สกไม่สบายก็รีบบอกให้หยุด” เวธัสก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่สงสาร
ณิชาแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้
อัดอั้นมานาน? ก็ไม่ได้นานขนาดนั้นหรอกมั้ง!
ตอนนี้เธอรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะได้พบเธอ เขาแก้ปัญหายังไงกัน?
มือซ้ายหรือมือขวา? หรือว่า......กลั้นเอาไว้......
เวธัสมองดวงตาสีดำเข้มของณิชาที่กำลังเหม่อลอย ราวกับพยาธิในท้องของเธอ ที่เดาความคิดของเธอได้อย่างถูกต้อง จึงพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ผมไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่น ถ้าต้องการมากก็จะใช้มือซ้าย”
หากผู้ชายคนอื่นเป็นคนพูดประโยคพวกนี้ ณิชาคงจะรู้สึกพวกเขาน่าขยะแขยงแน่นอน
แต่เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่าเวลาที่เวธัสทำเรื่องอย่างว่าจะมีสีหน้าแบบไหน ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกขยะแขยงเลยสักนิด
จึงมีความ......รู้สึกพลุ่งพล่านที่อยากลองสำรวจดูสักหน่อย
การทายาก็ได้สิ้นสุดลงท่ามกลางบรรยากาศที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เวธัสพาณิชาพักนอกบ้านคืนหนึ่ง จนเช้าวันที่สอง ใช้เวลาที่ฟ้าเพิ่งสว่าง ส่งเธอกลับบ้านตระกูลรุ่งโรจน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...