ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้ การที่ได้รู้ว่าท้องนี้ของเธอเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกคือฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
เช่นนั้นการที่ค้นพบว่าทั้งหมดนี้มีเวธัสเป็นผู้บิดเบือนมันในตอนนี้ ก็ไม่น้อยไปกว่าฟ้าถล่มดินทลาย!
เป็นเขาจริงๆด้วย!
คุณพ่อไม่ได้โกหก เวธัสหลอกเธอ...
“ถ้าหากไม่ใช่ความต้องการของคุณเวธัส พวกเราจะกล้าตัดสินใจทำเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นความตายนี้ได้ยังไง คุณผู้หญิง ขอร้องล่ะค่ะ คุณต้องเชื่อฉันนะคะ...” คุณหมอยังคงอธิบายร้องขอความเมตตา
ณิชาประคองร่างที่โงนเงนให้นิ่ง เยาะเย้ยเสียงเย็นชาว่า “ในฐานะคุณหมอคนหนึ่ง ถูกคนข่มขู่ตามใจชอบจนสามารถทำผิดต่อจรรยาบรรณของอาชีพตัวเอง คุณจะต่างอะไรกับเพชฌฆาต?”
“ขอโทษค่ะ...”
“คุณรู้มั้ยว่าทำไมเขาต้องการเอาเด็กออก”
“คุณเวธัสไม่ได้บอกค่ะ เขาบอกเพียงแค่ว่าให้พวกเราทำรายงานผลการตรวจของการตั้งครรภ์นอกมดลูก ให้คุณรับปากผ่าตัดเอาเด็กออก”
ณิชายื่นมือไปลูบหน้าท้อง แววตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว ไม่ว่าเวธัสจะเอาลูกของเธอออกเพราะอะไร เธอก็จะไม่ให้เขาประสบความสำเร็จ ลูกไม่ใช่ของเขาคนเดียว เขามีสิทธิ์อะไรมาสร้างเรื่องหลอกลวงเช่นนี้มาโกหกเธอ?
แต่ด้วยความสามารถของเขาแล้ว คิดจะทำร้ายเด็กคนนี้เงียบๆนั้นง่ายดายมาก
น่าหัวเราะจริงๆ...
ตอนที่รู้ว่าท้อง เขายังแสดงท่าทางยินดีเสียขนาดนั้น
“ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสแก้ไขความผิดนี้ คุณจะทำมั้ย?”
...
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
เวธัสยังคงรักษาท่าทางยืนพิงกำแพงเอาไว้โดยไม่ขยับเขยื้อน
เลือดรินไหลไม่คล่องตัวทำให้เท้าชาอยู่บ้าง เขากำลังตั้งใจจะเปลี่ยนท่าทาง ก็เห็นว่าแสงของห้องผ่าตัดดับลงกะทันหัน ต่อมาคุณหมอสาวก็เข็นเตียงผู้ป่วยออกมา
สำหรับเวธัส ครึ่งชั่วโมงนี้เหมือนกับการทรมานฉากหนึ่ง เขารีบก้าวเข้าไป “ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้าง”
“การผ่าตัดเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ว่าฤทธิ์ของยาชายังคงอยู่ ดังนั้นคุณผู้หญิงจึงยังคงสลบอยู่...” คุณหมอสาวสวมผ้าปิดปาก เธอจงใจก้มหน้าลงต่ำเล็กน้อย เพื่อหลบเลี่ยงการสบตากับเวธัส
เพื่อที่จะไม่ให้เวธัสพบว่าตัวเองร้อนตัว คุณหมอสาวจึงทำได้เพียงแค่ยืมการเข็นเตียงผู้ป่วยของณิชามาอำพรางจิตใจที่ไม่สงบ
ณิชานอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแอ แก้มไร้สีเลือด ริมฝีปากขาวซีด มองดูแล้วเหมือนเพิ่งจะผ่านหายนะมา
“ขอโทษ...” ตอนนี้ความสนใจของเวธัสอยู่ที่ร่างของณิชา เขาจับมือเย็นยะเยือกของเธอขึ้นมาแนบลงบนริมฝีปาก
คุณหมอสาวมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น “คุณเวธัสคะ แม้ว่าการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จมาก แต่ร่างกายของคุณผู้หญิงอ่อนแอมาก ยังคงต้องส่งเธอกลับไปพักผ่อนที่ห้องพักผู้ป่วยนะคะ?”
เวธัสเม้มริมฝีปากจนขาวซีด และเข็นเตียงผ่าตัดจากไปด้วยตัวเอง
แผ่นหลังตั้งตรง แต่ฝีเท้ามองดูแล้วกลับเหมือนจะโงนเงนอยู่หลายส่วน
...
บริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่ ห้องทำงานประธานบริษัท
ชาลีกำลังอ่านเอกสารรับสมัครพนักงานที่ฝ่ายบุคคลส่งมาให้ ทุกครั้งที่ถึงปลายปีก็จะมีพนักงานจำนวนนับไม่ถ้วนอยากจะลองเปลี่ยนสายงานหรือไปทำงานที่อื่น Artist Directorที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่ก็เลือกที่จะลาออกจากงานเงียบๆเพราะแต่งงาน
ดังนั้นช่วงนี้บริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่กำลังรับสมัครArtist Directorคนใหม่
ตอนที่เขาพลิกอ่านประวัติส่วนตัวฉบับหนึ่งในบรรดาเอกสารทั้งหมดนั้น นัยน์ตาดอกท้องดงามคู่นั้นก็หรี่ลงเล็กน้อย
สายตาเบนไปยังรูปภาพทางด้านขวามือของประวัติส่วนตัว ผู้หญิงในรูปภาพมีใบหน้ารูปไข่ที่เป็นผู้ใหญ่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้ผู้คนหลงใหล ผมลอนสีทอง ออร่าแข็งแกร่ง ยิ้มให้กับกล้อง มองดูแล้วมีเสน่ห์มาก
ชาลีดึงประวัติส่วนตัวฉบับนี้ออกมาเดี่ยวๆ
ไม่รอให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลมีความสงสัยมากกว่านี้ ชาลีก็ตัดสายโทรศัพท์ไป และลุกขึ้นไปสูบบุหรี่หน้าบานหน้าต่างบานใหญ่
สายตามองไปยังสถานที่ห่างไกล ทันใดนั้นสมองปรากฏภาพที่อยู่ด้วยกันกับอันนาขึ้นมามากมาย จากประสบการณ์ของเขาในตอนนี้ ตอนนั้นก็ไม่ได้รักลึกซึ้งอะไรมากนัก เพียงแค่ถูกความดื้อรั้นเด็ดเดี่ยวบนร่างเธอดึงดูดเท่านั้นเอง
แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เขาไม่สามารถปล่อยวางจากเรื่องที่เธอหักหลังเขาได้มาโดยตลอด
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โทรศัพท์ภายในของชาลีก็ดังขึ้น
เขาสงบคลื่นอารมณ์ที่ปั่นป่วน เดินไปกดรับสาย “มีเรื่องอะไร”
“ชาลี คุณไม่อยากเห็นฉันขนาดนั้นเลยหรอ” ไม่ใช่การรายงานจากพนักงานอย่างที่คาดเอาไว้ แต่เป็นน้ำเสียงที่แปลกหน้าและคุ้นเคยของผู้หญิงคนหนึ่ง นี่ทำให้ชาลีชะงักไปเล็กน้อย
เสียงของผู้หญิงคนนั้นยังคงดำเนินต่อไป “ฉันเหมาะสมกับตำแหน่งArtist Directorที่บริษัทภายใต้การดูแลของคุณกำลังรับสมัครมาก คุณก็น่าจะรู้ดี เพื่อความเกลียดชังที่มีต่อฉัน กระทั่งโอกาสหนึ่งก็ไม่อยากจะให้ฉันเลยหรอ”
ชาลีรอเธอพูดจบ ก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจว่า “ไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร”
หญิงสาวดูเหมือนจะคาดการณ์ผลลัพธ์แบบนี้ได้ตั้งแต่แรก “ที่แท้คุณก็ลืมฉันไปแล้วจริงๆ ไม่เป็นไร พวกเรามาทำความรู้จักกันใหม่ ฉันอันนา นันท์นพิน อายุ 26 ปี ส่วนสูง 165 น้ำหนัก 45 กิโลกรัม ไม่มีความชอบที่ไม่ดีอะไร ส่วนเรื่องงาน...”
“ผมยุ่งมาก จะสมัครงานก็ไปหาฝ่ายบุคคล” ชาลีเอ่ยจบก็เตรียมจะวางสายโทรศัพท์
“ชาลี คุณไม่อยากรู้หรอว่าในปีนั้นทำไมฉันถึงได้หักหลังคุณ” ก่อนที่ชาลีจะวางสายโทรศัพท์ อันนาก็รีบเอ่ยหัวข้อสนทนาหลักขึ้นมาก่อน
นี่คือหนามที่กั้นระหว่างคนทั้งคู่ และเป็นเรื่องที่ติดค้างในใจที่สำคัญที่สุด
เมื่ออันนาเอ่ยจบ ก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าลมหายใจของชาลีสับสน เธอยกริมฝีปากอย่างได้ใจ
ก่อนจะกลับประเทศ เธอสืบดูเป็นพิเศษ แม้ว่าห้าปีมานี้ชาลีจะกลายเป็นคนเจ้าชู้มาก แต่ก็ไม่เคยมีดาราสาวคนไหนที่อยู่ข้างกายเขาเกินหนึ่งเดือน!
ในใจเขายังมีเธออยู่แน่นอน...
ขอเพียงแค่มีเธอ เธอมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำให้เขากลับมาอยู่ข้างกายเธอได้อีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...