ผ่านไปครู่หนึ่ง ชาลีก็ผิวปากอย่างไม่แคร์ “ผมสนแค่ผลลัพธ์ ไม่อยากรู้กระบวนการ นอกจากนี้ ผมจะบอกคุณว่า ผมแต่งงานแล้ว คุณคงจะไม่ได้นึกว่าผมรอคุณอยู่หรอกนะ”
แต่ง…แต่งงานแล้ว?
อันนาตาเบิกกว้างทันที
“คุณ…คุณแค่อยากจะบีบให้ฉันถอย จึงจงใจแต่งเรื่องโกหกแบบนี้ใช่มั้ย ปาปารัสซี่จับจ้องคุณมากมายขนาดนั้น ถ้าหากคุณแต่งงาน ทำไมถึงไม่มีข่าวคราวอะไรเลย?” เธอไม่เชื่อหรอก!
ชาลีหัวเราะเหอะๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นอันธพาล “แล้วแต่คุณจะคิดแล้วกัน สรุปว่าผมมีภรรยาแล้ว”
“นั่นจะต้องเป็นการแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลใช่มั้ย” น้ำเสียงของ อันนาเเฝงความเสียใจและจนปัญญาหลายส่วน “ล้วนเป็นความผิดของฉัน ฉันไม่ควรจะไปจากคุณ แต่ว่าฉันหมดหนทางแล้ว คุณพ่อคุณมาหาฉัน เขาใช้โรคหัวใจของคุณแม่ฉันมาข่มขู่ฉัน ถ้าหากฉันไม่ยอมเลิกกับคุณ คุณแม่ฉันก็ต้องตาย! ชาลี ฉันรักคุณจริงๆนะ เหตุการณ์ที่คุณเห็นในห้องชุดนั้นล้วนเป็นเรื่องโกหก ฉันจ้างคนมาแสดงให้คุณดู…”
มือที่วางอยู่บนโต๊ะของชาลีกำหมัดแน่น
เป็นฝีมือพ่อเขา?
เขายิ้มเย็น “ในเมื่อเป็นการแสดง ทำไมไม่แสดงจนถึงที่สุดล่ะ ตอนนี้คุณกลับมาทำอะไร”
เมื่อมีการหักหลังครั้งหนึ่ง ครั้งที่สองก็ไม่ต้องสงสัยเลย
ถ้าหากว่าเธอถูกพสิษฐ์บีบบังคับจริง เธอควรจะมาหาเขา หรือไม่ก็ทิ้งคำบอกใบ้ไว้ให้เขาตั้งแต่ห้าปีก่อน ไม่ใช่เหมือนกับตอนนี้ที่ผ่านไปห้าปีแล้ว…
ตอนที่ทั้งหมดไร้หนทางในการกอบกู้คืนมา เธอเพิ่งจะมาเอ่ยถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้ว!
“คุณแม่ของฉัน…เป็นมะเร็งในเดือนที่แล้ว อาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เธอพูดให้กำลังใจฉันว่าอย่าให้ตัวเองมีเรื่องเสียใจในภายหลัง ชาลี ฉันขอร้องคุณล่ะ จ้างฉันเถอะนะ ฉันต้องการงานนี้จริงๆ ความจริงแล้วฉันไม่ได้ปิดบังคุณ ฉันก่อเรื่องที่ต่างประเทศนิดหน่อย เซ็นจูรี่เป็นบริษัทบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถ้าหากว่ากระทั่ง เซ็นจูรี่ก็ปฏิเสธฉัน ฉันก็ไม่เหลือเส้นทางให้เดินแล้ว!”
น้ำเสียงของชาลียังคงชั่วร้าย ฟังไม่ออกถึงความยินดีหรือโมโห ทว่าคล้ายกับรักและทะนุถนอม “ภรรยาผมอารมณ์รุนแรง ถ้าหากเธอรู้ว่าผมรับคุณเข้าทำงาน จะต้องอารมณ์ไม่ดีแน่นอน”
“…ฉันรับประกันว่าจะไม่ให้ภรรยาของคุณรู้ความสัมพันธ์ของพวกเรา ฉันขอร้องคุณจริงๆ เห็นแก่ที่พวกเราเคยคบกันมาก่อน คุณช่วยฉันเถอะนะ?”
…
ตอนที่ณิชาตื่นขึ้นมาก็กลางดึกแล้ว
เวธัสเฝ้าอยู่ข้างเตียงเธอตลอด เมื่อเห็นเธอได้สติก็รีบก้าวเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง และเหน็บมุมผ้าห่มให้เธอด้วยความระมัดระวัง พลางเอ่ยถามว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง
ได้ยินเขาถามไถ่ทุกข์สุข จู่ๆน้ำตาของณิชาก็อยากจะรินไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
เขาวางแผนเอาเด็กออกด้วยความใจดำด้านหนึ่งแล้วอีกด้านหนึ่งก็เป็นกังวลต่อสุขภาพของเธอได้อย่างไร
เวธัสนึกว่าเธอเสียใจเพราะลูกได้จากโลกใบนี้ไป จึงหยิบทิชชู่มาซับน้ำตาให้เธอ โค้งตัวลงไปจุมพิตริมฝีปากแห้งผากสีเชอรี่ของเธอ “อย่าร้อง พวกเราจะยังมีลูกกันอีก”
ไม่มีแล้ว!
ณิชาตะโกนเสียงดังในใจ กลั้นเสียงสะอื้นอย่างหมดหนทาง
ในเมื่อเขาไม่ต้องการลูกคนนี้ เธอก็จะคลอดเขาเอง!
เวธัสซับน้ำตาเธอไม่หมด กล้ามเนื้อเกร็งเขม็ง นัยน์ตาดำล้ำลึกแฝงไปด้วยความเสียใจที่ยังปล่อยวางไม่ได้
เดิมณิชาควรจะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ถึงอย่างไรก็เพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ แต่เธออาศัยเหตุผลว่าไม่อยากอยู่ที่โรงพยาบาล ฝืนออกมา ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งถูกเปิดโปงได้ง่าย
เวธัสใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธ จึงพาเธอกลับไปส่งที่คฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์ในตอนกลางคืน
สำหรับเรื่องที่ณิชา “ทำแท้ง” เขาบอกเเค่ชาลี
เจนนี่ยัดขนมปังใส่มือเขา พลางชี้ไปที่ประตูห้องนอนแล้วเอ่ยว่า “คุณให้ฉันลองดูมั้ย?”
“กระทั่งผม เธอก็ยังไม่อยากเห็น คุณคิดว่าคุณมีความมั่นใจที่จะโน้มน้าวเธอให้เปิดประตูหรอ”
เจนนี่รู้สีกว่าตัวเองถูกสบประมาท จึงเอ่ยอย่างโมโหว่า “ณิชาไม่อยากเห็นคุณ ก็เป็นเพราะว่าคุณทำให้เธอคิดถึงลูกที่สูญเสียไปคนนั้น ฉันไม่เหมือนกัน ฉันสามารถปลอบโยนอบรมเธอได้”
คำพูดของเจนนี่ราวกับน้ำเย็นกะละมังหนึ่งสาดลงมา ทำให้ทั่วทั้งร่างเวธัสแข็งทื่อ
เห็นเขาแล้วนึกถึงลูกที่สูญเสียไปคนนั้น…
เวธัสกระตุกมุมปากราวกับเยาะเย้ยตัวเอง เขาหลุบตาลงเบาๆ ข่มเสียงสะอื้นเอาไว้ “เช่นนั้นผมจะมอบเธอให้กับคุณ โน้มน้าวเธอดีๆ ให้เธอปล่อยวาง ผมอยู่ที่ชั้นล่าง ต้องการอะไรก็เรียกผมได้ตลอดเวลา”
เจนนี่โบกมือให้เขา รอจนเขาจากไปแล้ว ก็เคาะประตูห้องด้วยท่าทางอ่อนโยน ภายในห้องไม่มีเสียงตอบกลับตลอด และในตอนที่เธอนึกว่าณิชาไม่อยากเจอเธอ เสียงประตูที่ถูกเปิดออกก็ดังแอ๊ด…
เจนนี่ที่กำลังวางแผนจะก้าวเท้าจากไป ก็ผลักประตูเข้าไปด้วยความดีใจ
หลังจากนั้น…ก็ตะลึงค้างไป!
เธอเห็นเพียงแค่ณิชาที่อยู่ในห้องใบหน้าเผือดสี มือหนึ่งจับอยู่ที่กลอนประตู บนหน้าผากมีเหงื่อเท่าเมล็ดถั่วผุดขึ้นมา ร่างกายงอมาด้านหน้า มุมปากยังมีคราบสกปรกที่ยังเช็ดไม่สะอาด แววตาไร้ชีวิตชีวา จนดูเหมือนจะหมดสติไปได้ทุกขณะ!
เจนนี่ถูกทำให้สะดุ้งตกใจ “ณิชา?!”
“อย่าตะโกน…” ณิชาฝืนเอ่ยออกมาแล้วรีบทำท่าทางให้เงียบ
“สวรรค์ ทำไมเธอถึงได้มีสภาพแบบนี้?” เจนนี่รีบประคองเธอไปนั่งบนเตียง ด้านหนึ่งก็เช็ดมุมปากให้เธอ อีกด้านก็ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของเธอ “ไม่ได้ๆ ฉันจะไปบอกคุณเวธัสให้เชิญคุณหมอมา รู้อยู่แล้วว่าไม่ควรให้เธอออกจากโรงพยาบาล! ผู้หญิงที่เพิ่งแท้งลูกที่ไหนวิ่งไปทั่วแบบนี้กัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...