ณิชาไม่ฟังเขา ถ้าไม่หนีลูกของเธอก็จะตาย
ณิชาสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสอง เธอเดิมทีคิดที่จะขังตัวเองเอาไว้ภายในห้อง ยื้อเวลาเอาไว้แล้วค่อยคิดหาวิธีอื่น แต่ใครจะไปรู้ว่าตรงทางเดินชั้นสองมีคนรับใช้สองคนเดินตรงมาพอดี……
“จับเธอไว้!”เวธัสกดเสียงต่ำ พูดออกคำสั่งกับคนรับใช้ทั้งสองคน “คุณท่านสั่งแล้วว่าให้ฉันพาตัวเธอกลับไป”
คนรับใช้ทั้งสองคนหันมองหน้ากัน ก่อนจะหันมองไปยังตุ๊ก เพื่อขอสัญญาณ
ตุ๊กก็พยักหน้าอย่างยากลำบาก “ทำตามที่คุณผู้ชายบอก ขวางรั้งคุณผู้หญิงเอาไว้”
คนรับใช้ทั้งสองคนอ้าแขนออกทันที ขวางรั้งตรงทางเดินเอาไว้ได้อย่างรัดกุมพอดี ณิชาพอเห็นแบบนี้ ตอนนี้ต่อให้เธอคิดอยากที่จะกลับไปที่ห้องก็กลับไปไม่ได้แล้ว ทำได้แค่ต้องกัดฟันวิ่งขึ้นไปชั้นบนเท่านั้น……
ไม่นานก็วิ่งมาถึงระเบียงชั้นบนสุด
ระเบียงชั้นบนสุดเป็นเรือนดอกไม้ ปกติแล้วหญิงชราจะชอบเดินเล่นข้างบนมาปรับสภาพจิตใจของตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จะคำนึงถึงความสะดวก ชั้นบนสุดก็เลยมีลิฟต์ที่สามารถลงไปยังชั้นล่างได้โดยตรงอยู่หนึ่งตัว
เมื่อตะกี้ตอนที่อยู่ที่ห้องโถงเธอก็แทบจะไม่มีโอกาสวิ่งผ่านเวธัสออกไปข้างนอกห้องโถงเลย ทำได้แค่เอาความหวังไปฝากไว้ที่ลิฟต์ตัวนั้นแล้วเท่านั้น
แต่พอเธอมาถึงแล้วจึงได้พบว่า วันนี้ลิฟต์อยู่ระหว่างการซ่อมแซมพอดี กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ……เธอไม่มีที่ให้หนีแล้วนั่นเอง
เธอถูกบังคับให้หยุดฝีเท้าลง เนื่องจากวิ่งหนีอย่างรีบร้อนเกินไป หน้าผากก็เลยเริ่มมีเหงื่อไหลออกมา เธอหันหน้ามองไปยังเวธัสที่ไล่ตามมา เมื่อเทียบกับสภาวะที่ยากลำบากของเธอแล้ว เวธัสราวกับเดินเล่นอยู่ในลานกว้าง ท่าทางทั้งเกียจคร้านและผ่อนคลายสบายๆ
“ณิชา มานี่”เวธัสมองณิชาราวกับสัตว์ป่าที่ติดกับดัก ในใจนอกจากความตื่นตระหนกเสียใจแล้วมากไปกว่านั้นยังมีความโกรธอีกด้วย
ณิชาถูกเสียงของเขาทำให้ตกใจ เท้าก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ชนกับรั้วระเบียงที่อยู่ชั้นบนสุด “คุณอยู่ให้ห่างจากฉันนะ!”
“ผมอยู่ห่างจากคุณได้ ขอแค่คุณเชื่อฟังผม……”
“เชื่อฟัง? เชื่อฟังให้ไปเอาลูกออกน่ะเหรอ!”ถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ป่านนี้เธอก็อาจจะหาข้ออ้างหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ให้เขาได้รู้ว่าเด็กคนนี้ยังมีชีวิตอยู่อีกตลอดไป
เธอรีบร้อนลนลานจนโทนเสียงเปลี่ยน ผสมปนเปกับเสียงสะอึกสะอื้น “คุณอย่ามาบังคับฉันอีกเลย ถ้ายังบีบบังคับฉันอีกฉันจะกระโดดลงไปจากตรงนี้ซะ!”
พูดจบ ณิชาก็ปีนข้ามระเบียงทันที ยืนอยู่บนระเบียงที่มีความกว้างไม่กี่สิบเซนติเมตร
ลมพัดผ่านมา พัดร่างกายของเธอแกว่งไกวไปมา
เวธัสหายใจไม่เป็นจังหวะ
ศิริจันทร์เพิ่งขึ้นมาจากชั้นล่าง ก็ได้ยินณิชาบอกว่าจะกระโดดตึก เปลือกตาปลิ้นออกมา เธอรีบพูดขึ้นทันที “ณิชา หลานทำอะไร? รีบลงมาเร็วเข้า พวกเรามีเรื่องอะไรก็คุยกันดีๆก็ได้”
แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่ชั้นสูงอะไร แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ตั้งเจ็ดแปดเมตรเชียวนะ
ถ้ากระโดดลงไปทั้งอย่างนี้จริงๆ แล้วถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เธอจะไปหาณิชาคนที่สองจากที่ไหนได้อีก?
“หนูเองก็อยากจะคุยดีๆนะคะ แต่พวกคุณยายให้โอกาสหนูได้คุยดีๆไหมล่ะ? พวกคุณยายเอะอะก็บอกว่าเด็กสุขภาพไม่ดี รายงานผลการตรวจก็บอกว่าเอาเด็กไว้ไม่ได้ ลูกของหนูทำไมหนูถึงไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจความเป็นความตายของเขาด้วยตัวหนูเองล่ะ?”ณิชาตาแดงร้องตะโกนออกมาด้วยใจที่แตกสลาย
ศิริจันทร์ก็ราวกับถูกมีดเชือดเฉือนหัวใจ “ณิชาหลานใจเย็นๆก่อนนะ ตอนนี้พวกเราจะฟังหลานพูดดีๆแล้ว หลานคิดจะเอายังไง?”
ณิชารู้สึกสิ้นหวังถึงขีดสุดแล้วจริงๆ
คนที่เธอสนิทคุ้นเคยที่สุดล้วนแต่อยากให้ลูกของเธอตายทั้งนั้น
ทั้งพ่อ ทั้งสามี แม้แต่คุณยายเองก็ไม่เว้น
“ง่ายมาก ให้เวลาหนูอีกสองเดือน ตอนที่เด็กอายุสามสี่เดือนแล้ว พวกเราค่อยทำการตรวจแบบเต็มรูปแบบอีกครั้ง ไม่ว่าเจาะเลือดหรือว่าเจาะน้ำคร่ำฉันก็จะให้ความร่วมมือทั้งหมด พอถึงตอนนั้นเด็กไม่แข็งแรงจริงๆก็ค่อยเอาเขาออก”
ศิริจันทร์ไม่อยากจะกระตุ้นอารมณ์ของณิชาต่อ อย่างน้อยก็โน้มน้าวให้เธอลงมาจากระเบียงก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เธอยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว เหมือนกับว่าจะตกลงไปได้ทุกเมื่อ……
“คุณอยากตายหรือไง? คุณไม่รู้เหรอว่ากระโดดลงไปแล้วจะเกิดผลอะไรตามมาบ้าง? ถึงได้กล้ากระโดดไปแบบนี้จริงๆ?”เวธัสดึงณิชากลับมาด้วยท่าทางแปลกประหลาดสุดๆ
เนื่องจากณิชายืนอยู่ข้างบนระเบียง ส่วนเวธัสยืนอยู่บนพื้น ดังนั้นร่างกายของณิชาก็เลยอยู่สูงกว่าระดับสายตาของเวธัส
เขาก็ทำได้แค่พยายามรักษาสมดุลของณิชาเอาไว้
ถ้าณิชาขัดขืนอย่างรุนแรง ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะร่วงตกลงไป
เธอโค้งเอว ยกกำปั้นขึ้นมาทุบลงไปที่หน้าอกของเวธัส พร้อมกับพูดตะโกนขึ้นมาอย่างสะเปะสะปะมั่วซั่ว น้ำเสียงแหบแห้งไปจนหมดแล้ว “คุณเป็นคนให้ฉันกระโดดลงไปเองไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้พอฉันกระโดด แล้วคุณมาดึงฉันทำไม?”
เวธัสไม่กล้าใช้แรงขัดขืน ทำได้แค่อุ้มเธอลงมาที่พื้นอย่างระมัดระวัง รอนาทีที่เธอเหยียบถึงพื้นอย่างปลอดภัยแล้ว ถึงได้ล็อกเธอเอาไว้แน่นอยู่ตรงหน้าอก น้ำเสียงสั่น……
“ผมให้คุณกระโดดคุณกระโดด พอผมให้คุณไปทำแท้งทำไมคุณถึงไม่ฟังล่ะ?”
“……”ณิชาพูดไม่ออก กลัวว่าความคับข้องใจจะท่วมท้นอยู่ภายในใจ
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเวธัสวางอยู่บนไหล่ของเธอ สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายและลมหายใจของเธอ ผ่านไปนานสองนานถึงได้พูดส่งเสียงออกมาเบาๆอย่างหมดหนทาง “คุณชนะแล้ว คุณชนะอย่างไม่มีข้อกังขา”
เขาแสร้งทำเป็นใจร้ายไร้ความเมตตา แต่ให้ไม่สนใจความปลอดภัยของเธอเขาทำไม่ได้จริงๆ
แม้ว่าเธอจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้และมีความผันผวนเล็กน้อยก็ตาม เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่ไปกว่าเธอเหมือนกัน
ณิชาได้ฟังแบบนั้นก็อึ้งตะลึงไปทันที เงยหัวขึ้นมาจากอ้อมกอดของเขา “คุณ……คุณว่าอะไรนะ?”
“คุณคิดอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ ต่อให้ทารกตายในครรภ์ มันก็ต้องรอผ่านไปสองเดือนแล้วถึงค่อยตัดสินใจอีกที”นิ้วมือที่เรียวยาวของเวธัสยกคางของเธอขึ้นมา จ้องมองคราบน้ำตาที่เต็มใบหน้าของเธอ “คุณพอใจแล้วยัง?”
ณิชากลัวว่าตัวเองจะฟังผิดไป พูดไล่ถามออกมาต่อราวกับว่าเป็นความหวังสุดท้าย “จริงเหรอ? คุณสัญญาว่าจะไว้เด็กเอาไว้ชั่วคราวแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...