กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 552

สิ่งที่ตอบเธอกลับมาคือการปิดผนึกด้วยการจูบของเวธัส

เขาอุดริมฝีปากที่แห้งกร้านของเธอเอาไว้ ปลายนิ้วค่อยๆเช็ดคราบน้ำตาที่แก้มของเธออย่างอ่อนโยน ขณะที่จูบอย่างดูดดื่มนั้นก็พึมพำออกมาเบาๆ “คุณไม่สนแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง แล้วผมจะทำอะไรคุณได้อีก? แต่สัญญากับผมนะ ว่าต่อไปอย่าจะไม่ทำเรื่องที่อันตรายแบบนี้อีกแล้ว!”

“ขอแค่ลูกของฉันไม่เป็นอะไร แน่นอนว่าฉันจะไม่หนีไปกระโดดตึกอีก……”ณิชาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในตอนนั้นตัวเองถึงได้กล้าไปยืนอยู่ที่ระเบียงแบบนั้น

ตอนนี้พอมาคิดๆดูแล้วก็มารู้สึกกลัวเอาภายหลังขึ้นมา

น้ำตาค่อยๆหยุดลงช้าๆ ความกระวนกระวายแล้วความตื่นเต้นก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในใจ เธอได้ทำการเตรียมตัวเตรียมใจที่จะสู้กันจนตายไปข้างไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ผลที่ได้เวธัสกลับยอมประนีประนอมซะอย่างนั้น……

“ณิชา ทำไมเมื่อตะกี้หลานถึงหนีไปกระโดดตกแบบนั้นล่ะ!ถ้าหลานเป็นอะไรไป ยายจะอธิบายกับวีว่ายังไง?”ศิริจันทร์รู้สึกตกใจกลัวจนใจตกไปอยู่ตาตุ่ม ดึงมือของณิชาเอาไว้ ทั้งตกใจทั้งโกรธ “ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดหลานก็ลงมาอย่างปลอดภัย ยายเกือบจะถูกหลานทำให้ตกใจแทบแย่”

ณิชายิ้มอย่างรู้สึกผิดให้กับศิริจันทร์ “คุณยาย หนูทำให้คุณยายต้องเป็นห่วงแล้ว……”

“เด็กโง่!ยายบอกกับหลานตั้งแต่แรกแล้ว ว่าไปคบกับคนของตระกูลสนธิไชย หลานต้องอดทนแบกรับมากกว่าคนธรรมดาเยอะ แต่ว่าเด็กคนนี้……”ศิริจันทร์ใบหน้าหมดหนทาง เช็ดขอบตาที่เปียกชุ่ม พูดขึ้นด้วยความเป็นกังวล “ยายเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่ไปรับปากสัญญากับหลาน มันถูกต้องหรือว่าไม่ถูกต้องกันแน่?”

“คุณยาย หมอก็ไม่ได้รับประกันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านี่คือภาวะครรภ์เป็นพิษสักหน่อยนนี่คะ พวกเรายังสามารถคิดในแง่ดีได้ อีกอย่าง ตอนที่ธัสเกิดก็มีโรคติดตัวมาด้วยไม่ใช่หรือไง ไหนจะปัณณ์แล้วก็น้องอรัลอีก ตอนนี้พวกเขาก็แข็งแรงเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ?”

ศิริจันทร์พยักหน้า “ก็ทำได้แค่หวังว่าให้เป็นแบบนี้แล้วกัน”

แต่สายตาที่สงสัยของเธอ ก็เลื่อนไปหาเวธัสไป

ณิชาก็หันตามสายตาของศิริจันทร์ไปที่สีหน้าที่มืดมนคลุมเครือของเวธัสเช่นกัน เขาจ้องมองที่ท้องของเธอ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ณิชาก็พูดขึ้นด้วยความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที “คุณคงจะไม่ได้หลอกฉันอยู่ใช่ไหม?”

จากแผนการเล่ห์อุบายของเขาแล้ว กลยุทธ์ในการถอยทัพเพื่อรอจู่โจมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

เวธัสสูดหายใจหนึ่งที ขมับปูดนูนออกมา “คุณยายยืนอยู่ฝั่งคุณแล้ว ต่อให้ผมคิดจะหลอกคุณ ก็ไม่มีโอกาสพาคุณไปโรงพยาบาลอยู่ดีนั่นแหละ”

“ถ้าไม่มีคุณยาย คุณก็คิดจะหลอกฉัน แล้วพาฉันไปโรงพยาบาลจริงๆใช่ไหม?”

“ไม่ขอตอบคำถามที่สมมติเอาเอง”เวธัสพูดจบ ก็อ้าแขนโอบเธอเอาไว้แน่น พาเธอกับศิริจันทร์ลงไปชั้นล่าง เดินไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที

ต่อไปถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็ต้องล็อกประตูทางไปชั้นบนสุดเอาไว้ให้ดี

จริงๆแล้วเขาก็รู้สึกสับสนมากเหมือนกัน

ที่ยื้อเวลาสองเดือนให้กับความหวังอันริบหรี่ของเธอ มันถูกต้องหรือไม่กันแน่?

ถ้าหลังจากสองเดือนผ่านไปแล้วเด็กยังไม่แข็งแรงล่ะ?

……

พอลงมาจากชั้นบนสุดกลับมาที่ห้องโถง ใบหน้าที่ซีดขาวนั้นของณิชาถึงได้ค่อยๆดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา

สามวันที่ผ่านมา เธอกินอาหารอย่างไม่รู้รสชาติ อยู่ในสภาวะของความหวาดกลัววิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา

บางครั้งคนเราถ้าเกิดมีจุดอ่อนแล้วก็จะขี้ขลาดไม่มีความกล้าทำอะไร

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าจะมีวันที่เธอจะกระโดดตึกอย่างไม่รู้สึกเสียดายอะไรเพื่อที่จะบีบบังคับให้เวธัสสัญญาเรื่องบางเรื่องกับเธอแบบนี้

ในเมื่อตัดสินใจยอมให้ณิชาเอาเด็กไว้แล้ว ศิริจันทร์ก็รีบสั่งกำชับคนรับใช้ว่าให้ดูแลณิชาด้วยมาตรฐานสูงสุดสำหรับสตรีมีครรภ์ทันที

คนรับใช้ตุ๋นข้าวต้มบำรุงร่างกายเอาไว้ให้ ณิชายกถ้วยใบเล็กขึ้นซดด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้สึก ตอนนี้พอนั่งลงแล้วก็รู้สึกว่าท้องของตัวเองหิวมากๆ

พอกินข้าวต้มตุ๋นยาเสร็จ ณิชาเพิ่งจะวางถ้วยลง นิ้วมือที่เรียวยาวและแข็งแรงของเวธัสก็ยื่นออกมาทันที เกิดเป็นเงาจางๆบนแก้มของเธอ……

“เจนนี่ไม่ใช่ผู้หญิงแบบนี้สักหน่อย!”

ณิชาพูดหักล้างด้วยความโมโห

เธอหันหน้าไปพูดอธิบายกับศิริจันทร์ต่อ “คุณยายรู้จักกับเจนนี่มาระยะหนึ่งแล้ว คุณยายเห็นเธอเหมือนกับผู้หญิงที่เห็นแก่เงินไหม? ถึงเธอจะมีเงินก็เอาไปบริจาคให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่เคยเปรียบเทียบกับผู้ที่มีฐานะสูงกว่าเลย แม้แต่ไปออกงานก็ล้วนแต่เป็นสปอนเซอร์แบรนด์ทั้งนั้น”

“ในเมื่อเธอมีคุณธรรมสูงส่งขนาดนั้น ทำไมยังต้องอุ้มท้องปลอมมาหลอกลวงพวกเราด้วยล่ะ?”พสิษฐ์พูดเยาะเย้ยขึ้นต่อ

ณิชาแววตาเป็นกังวลทันที สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว “เพราะว่าในตอนนั้นคุณยายคิดว่าเจนนี่ตั้งท้องจริงๆ พี่ชาลีไม่อยากให้เธอต้องผิดหวัง ก็เลยตัดสินใจรายงานให้ทราบทีหลัง กะที่จะตั้งท้องเด็กภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ดังนั้นมันก็เลยเป็นคำโกหกด้วยเจตนาที่ดี!”

ศิริจันทร์สีหน้าเคร่งขรึมลงเล็กน้อย

ในตอนนั้นเธอก็โมโหมากจริงๆ หลังจากเรื่องผ่านไปแล้วพอคิดๆดู เจนนี่ก็ไม่ได้มีความกล้าและความสามารถมากพอที่จะติดสินบนหมอของคฤหาสน์ แต่ต่อให้เธอเข้าใจผิด ก็จะไม่เชิญเจนนี่กลับมาอีกแล้ว

“ไม่ว่าจะเจตนาดีหรือไม่ หลอกลวงก็คือหลอกลวงอยู่วันยังค่ำ ยายก็แค่รู้สึกอยากรู้มากว่าเธอแสดงบทบาทอะไรกันแน่ในการหลอกลวงครั้งนี้? ความคิดที่ว่าอุ้มท้องปลอมนี้ เป็นเธอหรือว่าชาลีที่เป็นคนเสนอออกมาก่อน?”

ณิชาน้ำเสียงทั้งสงสารทั้งเห็นอกเห็นใจ “ไม่ใช่เจนนี่แน่นอนอยู่แล้วค่ะ!เธอถูกกดขี่บีบบังคับมาตั้งแต่ต้นจนจบ เธอแทบจะไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับข้อพิพาทของตระกูลรุ่งโรจน์เลยด้วยซ้ำ……”

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าในคืนนั้นพี่ดื่มจนเมาแล้วลากเจนนี่ไปที่โรงแรม……

ต่อมาก็คงจะไม่เกิดเรื่องตั้งท้องที่เซ่อซ่าแบบนี้ขึ้น แล้วก็ไม่ถึงกับต้องถูกดึงเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน!

แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถบอกได้เหมือนกันว่าการเริ่มต้นของชาลีกับเจนนี่มันเกินจะรับไหวขนาดนั้น

“พูดไร้สาระมั่วซั่ว ฉันว่าชาลีถูกผู้หญิงคนนั้นสะกดจิตทำให้หน้ามืดมากกว่า เธอนั่นแหละที่เป็นตัวการของเรื่องทั้งหมด!”พสิษฐ์พอได้ยินณิชาโยนความผิดไปที่ชาลี แล้วเจนนี่ดูเหมือน

จะเป็นผู้เสียหายนั้น ก็พูดตะคอกออกมาด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊