มะนาวไม่ชินกับการเป็นคนใจร้าย จึงกระตุกชายเสื้อของแพร แล้วก็รีบจากไป
คุณหญิงเดือนอยู่ต่อด้วยความไม่พอใจ
ในห้องน้ำที่เงียบสงัด เธอเชิดหน้ามองสำรวจณิชา แล้วกล่าวด้วยความรังเกียจ “เธอได้ยินแล้วยังไง ที่ฉันด่าก็คือเธอ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ความร่าน ไม่รู้ว่าชาติก่อนเป็นจิ้งจอกหรือไง……”
ท่าทางโอหังนั้น ไม่ต่างไปจากปากแม่ค้าในตลาด
ณิชาเดิมทีมีความโมโห แต่เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ กลับรู้สึกนึกขำ
รู้สึกโชคดีจริง ๆ ที่ตอนนั้นไม่ได้แต่งงานกับฐานภพ
และก็โชคดีที่ลูกน้อยไม่ต้องใช้ชีวิตกับคุณย่าแบบนี้
เผชิญหน้ากับข่าวลือที่คมกริบแบบนี้ ความเย็นชาและเพิกเฉยกลับเป็นอาวุธชั้นดีที่ทรงพลังที่สุด
ณิชาเดินไปที่อ่างล้างมือ โดยที่เห็นเดือนเป็นเพียงมนุษย์ธาตุที่โปร่งใส
เดือนเห็นณิชาไม่พูดไม่จา ก็ยิ่งโมโหแล้วดุว่าด่าทอ “ชาลีจะชอบเธอได้อย่างไร ผู้หญิงที่เขาเล่นด้วย เหนือกว่าเธอตั้งเยอะ ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจจะลืมเธอไปแล้ว”
ณิชาล้างมืออย่างใจเย็น “อาจจะลืม อย่างน้อยก็หมายความว่าเคยจำ ดูเหมือนคนบางคนไม่แม้แต่จะเข้าไปอยู่ในสายตาของคุณชาลีด้วยซ้ำ”
เดือนฉับพลันก็นึกถึงแพรทันที
แพรชอบชาลีมาก แต่เมื่อรุกเข้าไป กลับถูกชาลีถากถางแดกดันว่าเป็นโคนม
เครื่องสำอางที่แต่งอย่างประณีตก็ไม่อาจจะปกปิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเธอได้
“ณิชา เธออย่าหวังสูงไปหน่อยเลย! เดี๋ยวฉันจะไปบอกกับคุณชาลีว่า เธอมีลูกติด ฉันจะดูสักหน่อยว่าเขาถูกเธอปิดหูปิดตาไว้หรือเปล่า!”
ดวงตาของณิชาเย็นชาขึ้น
เธอไม่สนใจการถูกด่าทอหรือเหยียดหยาม
แต่ว่าลูกของเธอ ไม่ควรได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้
ณิชารีบอ้อมเดินออกไปจากห้องน้ำ และบังเอิญเห็นมีไม้ถูกพื้นวางไว้ที่มุมพอดี
ริมฝีปากชมพูยกขึ้นเป็นเส้นโค้งอย่างเจ้าเล่ห์ เธอจึงทำการล็อกประตู แล้วใช้ไม้ถูกพื้นคั่นปิดไว้ จากนั้นนำป้ายกำลังปรับปรุงวางห่างจากประตูสองสามเมตร……
แล้วตบมืออย่างสง่างาม เสร็จ
นี่เรียกว่ากรรมตามสนอง
แต่คาดไม่ถึง เมื่อณิชาหันหลังไปก็เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงเอนพิงหลังกำแพงอย่างเกียจคร้าน ที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งเมตร
เวธัสถูกปกคลุมไปด้วยรัศมี ถือบุหรี่หนึ่งมวนอยู่ในมือแล้วดูดอย่างช้า ๆ ริมฝีปากบางเบาเป็นเส้นโค้งเฉกเช่นปกติ ดวงตาลึกของเขาจ้องจับมาที่เธอ——
“คุณคิดจะจับชาลีจริงเหรอ”
เสียงแหบดังขึ้นด้วยหนึ่งประโยคที่แฝงด้วยความเย็นชา ที่เหมือนกับกระแทกเข้ามาในทรวงอกของณิชา
เธอเบิกตากลมโตขึ้น ลำคอเกร็งแน่น
เวธัสได้ยินทั้งหมดเลยเหรอ!
อย่างนั้นเธอทำอะไรแย่ ๆ เขาก็เห็นหมดอย่างเลยงั้นสิ
เมื่อนึกถึงเดือนที่อยู่ในห้องน้ำ ณิชาชี้ไปทางระเบียงที่อยู่ไม่ไกล เพียงเพราะอยากให้เขาไปจากที่นี่เร็ว ๆ “คุณเวธัส คุณมีอะไรมีอะไรเหรอ พวกเราไปคุยกันตรงนั้นนะคะ”
……
เมื่อเทียบกับครึกครื้นในงานเลี้ยง ระเบียงนี้เห็นได้ชัดว่าเงียบสนิทมาก
น้ำพุในชั้นล่างประกายแสงระยิบระยับสะท้อนอยู่บนผ้าม่าน ราวกับความฝัน
เธอเดินเร็วมาก จึงไม่ได้สังเกตเห็นคราบน้ำบนพื้น เธอจึงลื่นไถลล้มในทันที
“ว๊าย……” รองเท้าสูงของณิชาจึงเอียงและเซไปด้านข้าง
จิตใต้สำนึกอยากจะคว้าม่าน……
คิ้วของเวธัสขมวดขึ้น
ขาที่เรียวยาวก้าวมาด้านหน้า และคว้าข้อมือเธอด้วยฝ่ามือที่ใหญ่
ขาข้างหนึ่งของณิชาแตะลงบนพื้น ถูกเขาดึงเช่นนี้ถึงได้ยืนตรงขึ้นมาได้
“ขอบ……ขอบคุณค่ะ”
ถึงว่าจู่ ๆ เวธัสก็ไปสืบเรื่องคืนนั้นเมื่อสี่ปีก่อน……
เขาจะต้องเกิดความสงสัยอย่างแน่นอน!
เพลิงแห่งความโกรธยิ่งประกาย กันญ่าก็ยิ่งทำให้ตัวเองดูเสียใจเศร้าโศกยิ่งขึ้น “คุณเวธัส พวกเราหมั้นกันมาสี่ปี ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณ ทำไมคุณกับณิชาถึง……”
นิ่งไปสักพัก ดวงตาของเธอก็แดงขึ้น ใบหน้าซีด “คุณทำแบบนี้กับฉันได้ไง”
เวธัสคิ้วขมวดเบา ๆ ขมับกระตุกสองสามที แล้วปรับน้ำเสียงของเขาให้อ่อนลง “เรื่องราวไม่ได้เหมือนอย่างที่คุณคิด”
“คุณกันย่า ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว……” ณิชาอยากจะอธิบาย “เมื่อสักครู่เป็นเพราะฉันไม่ทันระวังจึงทำท่าจะล้ม คุณเวธัสก็เลยมาประคองไว้ก็เท่านั้น ต้องขออภัยด้วยที่ทำให้เข้าใจผิด ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ล้ม?
เธอเห็นอยู่ตำตาว่าเวธัสยื่นมือหยอกล้ออยู่บนตัวของเธอ!
เห็นเธอตาบอดหรือไร
เมื่อก่อนกันญ่าไม่เคยรู้สึกว่าความหึงหวงจะน่ากลัวขนาดนี้ ทำให้เธอนั้นแทบอยากจะฉีกเธอให้แหลกละเอียด
“ณิชา อย่าลืมนะว่าต่อไปเขาจะเป็นพี่เขยของเธอ!”
ณิชามองไปทางเวธัสแวบหนึ่ง ในแง่ของความสัมพันธ์เธอควรเรียกเขาว่าพี่เขยจริงๆ
“ฉันไม่ลืม”
“เมื่อก่อนเธอเร่ร่อนอยู่ตามถนน ฉันไม่ได้ช่วยเหลือเธอ รู้สึกเสียใจมาก ตอนนี้ฉันกับพี่เขยของเธอกำลังจะแต่งงานกัน เขาดูแลเธอ ก็ช่วยเติมเต็มความรู้สึกผิดของฉัน แต่ว่าในเมื่อเธออยู่กับคุณชาลีแล้ว ก็อย่าได้โลเลอีกเลย”
แต่ละคำเหมือนกับเข็มทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของณิชา และกำลังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ
แต่ณิชาคิดถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเวธัสตอนที่อยู่ในโรงแรม จึงเกิดความละอายใจ จึงไม่ตอบโต้กลับสักคำ
“ฉันจำไว้แล้ว ขอบคุณที่พี่สั่งสอน”
กันญ่าเห็นหน้าเธอที่หนาเช่นนี้ จึงโกรธจนเสียงแหลมมาก——
“ในเมื่อเธอเรียกฉันว่าพี่ อย่างนั้นฉันก็จะบอกเธอว่า ผู้หญิงของตระกูลสถานนท์แต่ละคนล้วนบริสุทธิ์ผุดผ่อง หากเธอขาดเหลือเงินก็สามารถมาหาฉันได้ เพราะอย่างไรโสเภณีก็ต้องมีค่าบริการ แต่อย่าคิดหวังที่จะไปเป็นเมียน้อยของคนอื่น เช่นนั้นจะต้องจ่ายกลับด้วยราคาแสนแพง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...