ณัฐนันท์กลับมาถึงห้องตอนเกือบสี่ทุ่มอาบน้ำเสร็จเขาก็นอนคิดทบทวนเรื่องราวในวันนี้ เอาไงดีนะ จะง้อพัลลภายังไงดี จะแก้ตัวแบบไหนเธอถึงจะยอมยกโทษให้เขา นึกหาเหตุผลไม่ออกว่าจะพูดยังไงดี เธอถึงจะยอมเชื่อ คนเพิ่งได้กัน เขาคงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆหรอกยังไงก็ต้องง้อเธอกลับมาให้ได้ คิดยังไงก็คิดไม่ตก
“เฮ้อ นอนก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ว่าจะทำยังไงดี”
คิดมากๆก็ปวดหัว นาทีนี้คงต้องนอนพักผ่อนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ เผื่อจะคิดเหตุผลดีดีไปบอกกับเธอได้
จวบจนกระทั่งแปดโมงเช้าของวันถัดมา ณัฐนันท์ถึงรู้สึกตัวตื่น เขาบิดกายอย่างเกียจคร้านบนเตียงนอนขนาดห้าฟุต ขาพาดหมอนข้างบนเตียงอย่างคุ้นเคยเวลานอนชอบกอดก่ายหมอนเอาไว้
เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ทำให้เขาหลับสบาย เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้ข้างเตียงมาดู มีข้อความเข้าจากติณณภพและพริมา เขาเลือกอ่านข้อความของพริมาก่อน เธอส่งสติกเกอร์ตอบรับรายละเอียดการจองตั๋วไปสิงคโปร์ของเขามาพร้อมนัดหมายเวลาคร่าวๆ เขาอ่านแล้วส่งสติกเกอร์กลับไป หลังจากนั้นกดเข้าไปดูข้อความของติณณภพ
ตี๋หล่อ : ไอ้นัทมึงไปทำอะไรให้น้องเพิร์ลเศร้าหรือเปล่า
ตี๋หล่อ : ส่งรูป เป็นภาพแคปเจอร์หน้าจอสเตตัสเฟซบุ๊กของเพิร์ลคนโปรดมาให้เขาดู
ณัฐนันท์ขมวดคิ้วตายห่า ดราม่ากว่าเดิมอีก เอาไงดีวะ ณัฐนันท์พิมพ์ตอบไป
Nut : ก็เมื่อวานน่ะสิ หลังแยกจากเพิร์ลกูไปรับปริม เพิร์ลดันมาเจอ
‘เชี่ย’ ติณณภพอ่านข้อความแล้วสบถออกมา ไม่พงไม่พิมพ์มันแล้ว ติณณภพกดสายโทรออกหาเพื่อน
“มึงว่าไงนะนัท ส่งน้องเพิร์ลเสร็จแล้วมึงไปกับพี่ปริมแล้วน้องเพิร์ลมาเจอเนี่ยนะ”
ติณณภพถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เออดิ”
ณัฐนันท์ยอมเล่าให้ฟังเพราะต้องการปรึกษา
“ไอ้ห่าเอ้ย แล้วเพิร์ลทำยังไง”
ณัฐนันท์ถอนหายใจอย่างกลุ้มๆ
“เขาถามว่าปริมเป็นใครกูตอบไม่ถูกเลยแกล้งโมโหกลบเกลื่อน”
“ไอ้เลว”
ติณณภพสรรเสริญเพื่อน
“เลวก็เพื่อนมึงไหมล่ะ”
ติณณภพถอนหายใจเครียดแทน
“แล้วมึงจะเอายังไงสรุปจะควบสอง จะเอาทั้งเพิร์ลเอาทั้งพี่ปริมเหรอ”
สงสารน้องเพิร์ลฉิบหาย
“มึงอย่าเพิ่งถามอะไรกูเลย ช่วยกูคิดดิ๊ว่าจะง้อเพิร์ลยังไงดี”
ที่ไม่ตอบเพราะยังตอบไม่ได้ กับพัลลภาก็คนโปรดไหมวะ ของเพิ่งได้มาใครจะยอมปล่อยไปง่ายๆ เห็นแบบนี้เขาก็เป็นคนดีอยู่ พัลลภาก็ใช่ว่าจะแย่ น่ารักซะขนาดนั้น เธอเป็นของเขาแล้วด้วย จะให้ปล่อยไปเลยคงไม่ได้
ส่วนพริมาเธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยจะให้เลิกก็คบมาตั้งสี่ปีแล้ว และที่สำคัญเธอไม่ได้ห้ามเขามีคนอื่นนี่ เพราะฉะนั้นนาทีนี้ต้องง้อพัลลภาก่อน
“โอ๊ย ง้อผู้หญิงเนี่ยนะ ถามกูแล้วกูจะรู้ไหม”
ณัฐนันท์มองคนที่ตาบวมใต้ตาคล้ำ แล้วรู้สึกผิดขึ้นมาทันที นึกด่าตัวเองในใจว่าทำเลวโมโหกลบเกลื่อนปิดเครื่องหนีเธอ ดูสิ น่าจะร้องไห้หนักมาก
“พี่นัทมาทำไมคะ”
น้ำเสียงหมางเมิน เขาจะมาทำไมในเมื่อ เมื่อวานเธอพยายามจะเรียกเขาแต่เขาก็เดินหนี ปล่อยให้เธอยืนร้องไห้อยู่คนเดียว
“คนดี พี่ขอเข้าไปคุยข้างในได้ไหม”
น้ำเสียงออดอ้อนสายตาอ้อนวอนของเขา เธอไม่อยากจะมองไม่อยากจะใจอ่อน แต่ในใจตอนนี้มันดีใจที่เขามาหา สุดท้ายเธอก็ยอมเปิดประตูให้เขาเข้ามาในบ้านจนได้
ณัฐนันท์มองตามหลังคนที่เดินนำเขาเข้าบ้านแล้วลอบผ่อนลมหายใจ เอาวะ น่าจะพอง้อได้ อย่างน้อยก็ได้เข้าบ้านแล้ว
เขามองสำรวจบ้านของเธอ บ้านขนาดสามห้องนอนไม่ได้ใหญ่นัก เหมาะกับการอยู่สองคนพี่น้อง
บ้านของเธอเรียบร้อยข้าวของเป็นระเบียบ บ้านดูเรียบร้อยเหมือนเจ้าของ เขานั่งลงบนโซฟารับแขกเมื่อเธอบอกว่าจะไปเอาน้ำมาให้ รอไม่นานเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับน้ำเย็นๆหนึ่งแก้ว
“น้ำค่ะ”
ณัฐนันท์เอื้อมมือไปรับน้ำมาจากเธอก่อนที่เธอจะวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเขา ถือโอกาสกอบกุมมือของเธอไว้ เธอชักมือออก ท่าทางจะยังโกรธอยู่ ไม่เป็นไรยังไงวันนี้ก็ต้องง้อให้ได้
“ที่รักครับพี่มาง้อ ซื้อกุหลาบมาให้ด้วยนะ มันเหมาะกับเพิร์ลมากเลยเพิร์ลชอบไหมคะคนดี”
ถ้อยคำออดอ้อนน้ำเสียงอ่อนหวานที่รู้ว่าเธอมักจะแพ้ถูกนำออกมาใช้ เขาขยับเข้าไปหาแล้วยื่นกุหลาบแดงช่อใหญ่ให้เธอ
พัลลภามองกุหลาบในมือเขาแล้วน้ำตาไหลออกมา มันกึ่งๆระหว่างโกรธเสียใจ และ อยากจะซบหน้าลงร้องไห้กับอกของเขา ให้เขาปลอบเธอว่าเรื่องเมื่อวานมันไม่มีอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ของตายคนโปรด My Deceitful Lover