ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1027

“ว้าว โรงแรมเวลลิงตัน?” พอคนขับแท็กซี่รู้ว่าจุดหมายของคนเหล่านี้อยู่ที่ไหนก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ

“ทำไม? ตรงนั้นมันมีอะไรครับ?” สีหน้าชองชิโปโตะเปลี่ยนไปแล้วรีบถามไป

คนขับเป็นคนที่ช่างพูด พอได้ยินคำถามของชิโปโตะเขาก็ถึงกับต้องยิ้มออกมา “เวลลิงตันนะเหรอ เป็นโรงแรมห้าดาวที่มีชื่อเสียงของตูริน ที่สำคัญคือพวกคุณเป็นคนจีนใช่มั้ยครับ? เพื่อนๆ จากชาติเดียวกับพวกคุณก็ชอบไปที่นั่นมากเลย!”

สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย สำหรับชาวต่างชาติแล้ว หน้าตาของชาวเอเชียค่อนข้างคล้ายกัน ด้วยเหตุนี้ถึงได้มีคำว่าคนชาติเดียวกันเกิดขึ้น เพราะพวกเขาไม่เข้าใจความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศหยิงกับประเทศจีน

“หลายวันนี้คนชาติเดียวกับเราไปที่นั่นเยอะเลยเหรอครับ?” ชิโปโตะหันมองเย่เทียน จากนั้นก็ถามคนขับราวกับเป็นการพูดคุยทั่วไป

“ใช่ครับ คนจีนอย่างพวกคุณค่อนข้างใจกว้าง หลายวันมานี้ผมหารายได้ได้เยอะเลย ขอบคุณพระเจ้า!” ระหว่างที่พูดคนขับก็แบมือทั้งสองข้างออก ปล่อยมือจากพวงมาลัยไปเลย

ภาพที่เห็นทำเอาเย่เทียนหางตากระตุก ฝีมือของเขาอยู่ในระดับฟ้าแน่นอน แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุเขาเองก็คงจะเจ็บไม่เบาเหมือนกัน

“นี่ ลูกพี่ ขับรถดีๆ หน่อย!” ชิโปโตะก็แตกตื่นเหมือนกัน จึงรีบตะโกนไป

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับเพื่อนๆ นี่มันเป็นแค่การกระทำทั่วไปเท่านั้น!” คนขับหันมองชิโปโตะด้วยสีหน้าที่ทะเล้น จากนั้นก็ยักไหล่ แล้วกลับไปขับรถอย่างตั้งใจ

แต่พอมีประสบการณ์จากครั้งก่อน ชิโปโตะก็ไม่กล้าถามอะไรมาก กลัวคนขับจะแสดงท่าทีอะไรที่ทะเล้นออกมาอีก

เย่เทียนกลับหรี่ตาลง ในเมื่อท่านจ้าวให้เข้ามาที่ตูรินก็แสดงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน บวกกับสิ่งที่คนขับแท็กซี่พูด ที่นั่นน่าจะมีคนจากประเทศหยิงอยู่ไม่น้อยเลย

ไม่แน่พอถึงตอนนั้นอาจจะมีเบาะแสเกี่ยวกับการเรียกชุมนุมของเหล่ายอดมนุษย์ในครั้งนี้ก็เป็นได้

รถถูกขับมาที่โรงแรมเวลลิงตันอย่างรวดเร็ว สำหรับข้อมูลที่คนขับให้มาอย่างไม่ตั้งใจ ชิโปโตะเองก็ใจกว้างมากตะโกนออกมาว่าพระเจ้า แล้วบอกว่ารักคนจีนมากๆ

แต่เย่เทียนก็อดใจที่จะไม่ทำลายกำลังใจของเขา ใช่ว่าคนจีนทุกคนจะใจกว้างแบบนี้สักหน่อย!

“ท่านจ้าว พวกเราถึงแล้ว!” เย่เทียนหยิบมือถือออกมาแล้วโทรหาท่านเจ้า เนื่องจากตอนนี้จิ่วเจี้ยและเสวียนเฉิงยังอยู่กับเขา ถ้าเป็นไปได้เย่เทียนก็อยากให้ท่านจ้าวช่วยดูแลพวกเขาไปอีกสักพัก

ท่านจ้าวมีวิธีการเยอะ บวกกับความสัมพันธ์ที่มีกับปรมจารย์เจตสิกอีก การที่จิ่วเจี้ยกับเสวียนเฉิงอยู่กับพวกเขาอาจจะลำบากไปบ้าง แต่ชีวิตก็จะปลอดภัยแน่นอน

แต่ถ้ามาอยู่กับเขามันก็จะแตกต่างออกไป เนื่องจากตอนนี้พวกสายเลือดพิเศษก็เพ่งเล็งมาที่เขาแล้ว มันก็เท่ากับมีอันตรายมากมายกำลังรายล้อมเขาไว้

“ใครเนี่ย! โทรมาเช้าขนาดนี้ ประสาทรึไง!” น้ำเสียงที่โมโหของท่านจ้าวดังขึ้น ถามแบบไม่ต้องสงสัย การที่เย่เทียนโทรไปตอนนี้มันดูไม่เหมาะจริงๆ นั่นแหละ ส่วนความสามารถในการได้ยินของเย่เทียนร้ายกาจแค่ไหน ก็ต้องได้ยินเสียงอุดอู้ของผู้หญิงที่ดังออกจากลำโพงอย่างแน่นอน

“ท่านจ้าว ผมมาถึงตูรินแล้วครับ” เย่เทียนถอนหายใจอย่างหมดคำจะพูด ในเรื่องบางเรื่องก็อดนับถือในความแข็งแกร่งของคนแก่อย่างท่านจ้าวไม่ได้เลย ในชีวิตที่เสเพลทุกคืนแบบนี้ต่อให้เป็นเขาก็ใช่ว่าจะทนไหว!

“ที่นั่นมีพวกบัดซบจากประเทศหยิงอยู่เยอะเลย เธอหาทางเอาข้อมูลเรื่องการเรียกชุมนุมยอดมนุษย์ในครั้งนี้มาให้ได้มันจะเป็นประโยชน์กับเธอมาก” ท่านจ้าวพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ

“คุณไม่ได้อยู่ที่ตูรินเหรอครับ?”

“ก็ไม่นะสิ!” ท่านจ้าวพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผล “โตขนาดไหนแล้ว ยังต้องให้คนแก่อย่างฉันมาปวดหัวอีก! เอาล่ะ แค่นี้นะ จะได้ข้อมูลอะไรรึเปล่าก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้ว! ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่ต้องโทรหาฉันอีก!”

ส่วนเย่เทียนก็ไม่ได้หลบตา แต่กลับยิ้มให้อีกฝ่าย

นั่นก็ทำให้อีกฝ่ายถึงกับขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าเย่เทียนหน้าคุ้นๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน และที่เขาออกไปครั้งนี้ก็เพื่อไปพบแขกที่สำคัญคนหนึ่ง จึงไม่สามารถเสียเวลาได้

แค่คนแปลกหน้าคนเดียวเท่านั้น เขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร

“คุณกาโต้ เชิญทางนี้ครับ!”

ข้างหน้าโคจิ กาโต้เป็นชายหัวล้านคนหนึ่ง นำทางด้วยความนอบน้อม พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “คุณกาโต้ คุณมีทเป็นคนใหญ่คนโตอันดับต้นๆ ของตูริน ถ้ามีเขาคอยช่วยแผนการของเราต้องสำเร็จแน่นอนครับ!”

“ยังไงก็ลำบากคุณฮิงาชิโนะแล้ว ถ้าไม่ได้คุณผมก็ไม่มีทางทำสำเร็จเหมือนกัน!” โคจิ กาโต้เป็นคนที่ไม่ชอบเปิดเผยจึงไม่ได้หลงตัวเองนัก

“คุณกาโต้อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ การที่ได้ทำประโยชน์ให้กับคุณมันก็เป็นเกียรติกับผมมากแล้ว!” โค้งคำนับอย่างนอบน้อม จากนั้นก็ลองพูดหยั่งเชิงไปว่า “ตระกูลฟูจิโนะฝากผมมาถามคุณกาโต้ว่าพอมีเวลาว่างมั้ย ถ้ามีก็อยากขอให้คุณช่วยจัดการปัญหาเล็กๆ ให้อย่างหนึ่งครับ”

“หืม?” พอ โคจิ กาโต้ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับเลิกคิ้วขึ้น แต่การที่ในครั้งนี้เขาสามารถมาพบกับมีทได้อย่างราบรื่นตระกูลฟูจิโนะก็มีส่วนช่วยเหมือนกัน ถ้าอีกฝ่ายบอกว่าเป็นเรื่องเล็กจริงๆ งั้นเขาก็ไม่ขัดข้องที่จะใช้หนี้บุญคุณในครั้งนี้ไป

“เรื่องเป็นแบบนี้ครับ” อากิระ ฮิงาชิโนะหยิบรูปใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้อถ้าเป็นไปได้อยากขอให้คุณกาโต้ช่วยจัดการคนๆนี้ให้หน่อยครับ!”

“หิม?” โคจิ กาโต้รับรูปมาดู จากนั้นก็ได้ยิ้มออกมา เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าชายหนุ่มเมื่อกี้จะเป็นเป้าหมายของตระกูลฟูจิโนะ!ประเด็นคืออีกฝ่ายอยู่ใกล้แค่นี้เอง การจะจัดการทิ้งมันก็เป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว

พอคิดได้อย่างนั้นเขาก็พยักหน้าไป “ได้!ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง แต่ตอนนี้การไปพบมีทเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่