ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1037

“นานาโกะคนนี้ฉันพอจะรู้จัก!”นังงูสาวพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ของตนออกมา ไม่รู้ว่าคิดจะทำอะไร ท้ายที่สุดเลือกรูปภาพหญิงสาวหน้าตาเคร่งขรึมคนหนึ่ง

“นี่คือข้อมูลของนานาโกะ”

นังงูสาวเพิ่งพูดจบก็พบว่าสายตาที่เย่เทียนมองตนนั้นแปลกๆ ทำให้เธอถามขึ้นอย่างอดไม่ได้:“พี่เทียน มีอะไรงั้นเหรอ?”

“มี!และเป็นปัญหาใหญ่มาก!”เย่เทียนหันไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:“คุณว่าไงล่ะ?”

ช่ายเหมยเป่าพยักหน้าเช่นกัน:“มีความคล้ายคลึง70-80% ถ้าแต่งหน้าหน่อย เหมือนกับเป๊ะ!”

“พวกคุณพูดอะไรกัน?”นังงูสาวงุนงง จากนั้นมองนานาโกะรูปภาพอย่างละเอียด เอ๋?ทำไมรู้สึกคุ้นๆหน้า?ดูไปดูมา จู่ๆเธอก็ส่งเสียงตกใจ:“โห!เหมือนมาก!”

“เธอก็ดูออกแล้วงั้นเหรอ?”เย่เทียนหรี่ตาลง แล้วถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง:“พูดสิ!เธอคือนานาโกะใช่ไหม!”

นังงูสาวไม่พอใจ:“พี่เทียน เลิกเล่นได้แล้ว?นานาโกะคนนี้ใช้มีด!ส่วนฉัน?ฉันใช้กู่!”

“แน่นอนฉันรู้ว่าเธอใช้กู่ แต่ด้วยใบหน้าของเธอที่คล้ายกับหล่อน พวกเราน่าสามารถใช้ประโยชน์ได้!”เย่เทียนพูดจบหรี่ตาลง จากนั้นลูบคางตัวเองไปมาอย่างลำพองใจ

“ก็ได้เหรอ?”นังงูสาวพูดอย่างตกตะลึง

“ทำไมจะไม่ได้!”เย่เทียนไหวไหล่เบาๆ จากนั้นหัวเราะร่าแล้วพูด:“ไม่ต้องห่วง เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะปะปนไปพร้อมกัน ฉันอยากรู้นักว่าสมเด็จพระสันตะปาปาจะทำอะไรกันแน่!”

“แต่ปัญหาคือมันจะทำได้เหรอ?”นังงูสาวมองนานาโกะในรูปด้วยความลังเล

“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน!”ช่ายเหมยเป่าอีกด้านออกตัวก่อน นี่เป็นวโอกาสดีที่สุดที่จะปะปนเข้าไปในงานประชุมใหญ่ยอดมนุษย์ของสมเด็จพระสันตะปาปาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่านี่ก็เป็นโอกาสที่ตนสามารถหลุดพ้นจากแก๊งได้ด้วย

เย่เทียนได้ยินที่ช่ายเหมยเป่าพูดก็มองเธอด้วยท่าทางแปลกอย่างอดไม่ได้ สุดท้ายทำได้แค่พยักหน้า:“งั้นผมจะให้คุณจัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน”

“ไม่ต้องห่วง!”พูดจบช่ายเหมยเป่าก็ลากนังงูสาวเดินเข้าไปในห้อง อีกทั้งพูดให้คำมั่นออกมา:“เดี๋ยวฉันจะส่งนานาโกะออกมาให้คุณ!”

ความอยากรู้อยากเห็นเป็นสิ่งที่ทุกคนมี ตอนนี้ความอยากรู้อยากเห็นเย่เทียนถูกช่ายเหมยเป่ายกขึ้นมาจนหมด ทันใดนั้นเมื่อเขาเห็นหน้าต่างบานเล็กตรงกำแพงสายตาพลันเป็นประกาย

ความสูงระดับนี้เป็นเรื่องเด็กๆมากสำหรับเย่เทียน เขย่งปลายเท้าเบาๆ ปลายนิ้วมือของเย่เทียนวางบนขอบหน้าต่างที่ยื่นออกมา จากนั้นเขาพยายามทำท่าดันตัวขึ้น

ระดับสายตาอยู่บริเวณเหนือขอบหน้าต่างพอดิบพอดี แล้วมีงูสีเขียวมรกตปรากฏตรงหน้าเขา

เย่เทียน:...

“รบกวนแล้ว!”แม้ไม่รู้ว่างูเขียวตัวนี้ฟังเข้าใจที่ตนพูดหรือไม่ เย่เทียนพูดออกไปประโยคหนึ่งแล้วกระโดดลงจากขอบหน้าต่าง สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ส่วนในห้องได้ยินเสียงสะใจของช่ายเหมยเป่าดังขึ้น:“คนบางคนอย่าคิดว่าตัวเองมีฝีมือหน่อยแล้วจะทำตามอำเภอใจ!น้องสาว ดูเหมือนไอ้คนเลวคนนี้ต้องระวังให้ดีๆ!”

นังงูสาวไม่พูดอะไร แต่เสียงหัวเราะดังฟังชัด

นี่อาจเป็นเหตุผลที่นานาโกะมีสีหน้าเคร่งขรึมกระมัง

เย่เทียนอ่านตอนนี้จบก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ แม้ว่านี่จะถูกลิขิตให้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม แต่เย่เทียนกลับให้ความเคารพเธอ

ข้อมูลที่เหลือเป็นบันทึกการต่อสู้ของนานาโกะกับคนอื่นๆ ไม่ต้องสงสัยเลย ชนะทั้งหมด!แถมยังเป็นการชนะอย่างง่ายดาย ทำให้เย่เทียนพลิกอ่านข้อมูลที่เหลืออย่างอดไม่ได้ แต่ที่น่าเสียดายคือไม่ว่าจะเป็นบันทึกการต่อสู้สนามไหนๆ คำอธิบายฉากต่อสู้ล้วนมีอยู่น้อยนิด

การอ่านข้อมูลเล่มนี้ทำให้เย่เทียนเข้าใจนานาโกะอยู่บ้าง แต่ข้อสรุปส่วนใหญ่ไม่เป็นผลดีต่อตนเอง ถ้าจะพูดว่าเรื่องใดที่มีผลดีต่อแผนการในอนาคตของเย่เทียน นั่นคงเป็นที่นานาโกะชอบไปไหนมาไหนคนเดียว นอกจากพนักงานบริการทั่วไปแล้ว เธอไม่เคยชอบเล่นใหญ่

เป็นเช่นนี้ ตราบใดที่เย่เทียนหาโอกาสทำให้เธอแพ้หรือจับไปฆ่า แผนการของเขาก็จะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

แต่เมื่ออ่านสถิติการต่อสู้เล่มหนาเตอะของนานาโกะ ภารกิจนี้เหมือนจะยากหน่อยแล้ว!

เย่เทียนหรี่ตาลง พลิกอ่านข้อมูลหน้าสุดท้าย:“สองวันหลังจากนี้ นานาโกะจะไปเมืองตูริน !”

“เมืองตูรินอีกแล้ว?ดูเหมือนว่าที่นี่มีบางอย่างที่พวกเขาไม่อาจตัดใจได้!”เย่เทียนพูดพึมพำ จากนั้นเก็บเล่มข้อมูล ครั้งนี้ไม่มีคนรบกวนตนเสียที สามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้อย่างสบายใจ

โชคดีที่มีเวลาพักอีกสองวัน บาดแผลบนร่างกายของตนน่าจะหายดีแล้ว

เพียงแต่วันนี้เขาโชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพิ่งหลับตาเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทรา ประตูที่ปิดอยู่นานถูกช่ายเหมยเป่าผลักออก จากนั้นช่ายเหมยเป่าเดินอ้อนแอ้นเข้ามา:“ยังไ?ไม่ดูผลงานชิ้นเอกของฉันหน่อยเหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่