ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1081

เพื่อให้สามารถแฝงตัวเข้าไปในงานประชุมใหญ่ของยอดมนุษย์ได้ เย่เทียนและคนอื่นๆ ก็เริ่มวางแผนกันอย่างรอบคอบ

และด้วยความที่ว่าครั้งนี้เย่เทียนได้พาคนมาช่วยตระกูลของมนุษย์หมาป่าเอาไว้ พวกเขาจึงได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด แบบนี้พวกเขาก็ถือว่าได้อยู่อย่างสุขสบายมาก

แต่เย่เทียนก็สามารถอดทนต่อหมาป่าสาวที่กระตือรือร้นได้ แล้วตั้งอกตั้งใจฟื้นฟูร่างกายของตัวเองไป พร้อมกับเตรียมแผนของตัวเองให้พร้อม ใช้สายข่าวของทีมสายฟ้าตรวจสอบข้อมูลของ กานโนเซน นากะ

ส่วนทางด้านแฟลิกส์ ถึงจะไม่ได้รับอนุญาตของสมเด็จพระสันตะปาปา แต่เขาก็ได้ทำการแก้แค้นให้ลูกรักเหมือนเดิม

และฝ่ายที่จะโดนเล่นงานก่อนก็ต้องเป็นพวกเผ่าเลือดอยู่แล้ว

ครั้งนี้พวกเผ่าเลือดถือว่าดวงซวยแล้ว ไม่ใช่แค่การร่วมมือกับทางครูเสด สันตะปาปาล้มเหลว แต่เพราะการสูญเสียบุคคลระดับสูงของอีกฝ่ายทำให้ต้องถูกล้างบาง พอเป็นแบบนี้ออนนีฮานก็ถูกจับมาอยู่ตรงหน้าเขา เป็นชายชราสบายๆ ที่ราวกับจะถูกลมพัดจนล้ม

เป็นชายชราที่ตาโบ๋ ตอนถูกนัยน์ตาสีครามนั้นจ้องมองก็ทำให้รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

“แฟลิกส์ ที่เคารพ ผมมาพร้อมกับความรู้สึกผิดที่อยากขอให้อภัย!” ชายชราทักทาย แฟลิกส์ อย่างนอบน้อม

“ตาเฒ่า โมปัสซองต์ นึกไม่ถึงว่าคุณยังมีชีวิตอยู่!” แฟลิกส์ แสดงแววตาที่โกรธเกรี้ยวออกมา พูดพร้อมกำหมัดแน่น

“ความสามารถอย่างอื่นของเผ่าเลือดอาจจะด้อยไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกันเรื่องอายุยืนนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปจริงๆ ครับ!” โมปัสซองต์พูดด้วยรอยยิ้ม การแสดงออกก็นอบน้อมมากขึ้นทุกที

“คุณไม่สามารถระงับความโกรธของผมได้ ไอ้สวะนั่นก็เหมือนกัน!” แฟลิกส์ มองเขาอย่างมีนัย จากนั้นก็ค่อยๆ พูดออกมา ระหว่างที่พูด ก็ได้พิงไปที่โซฟา พร้อมกับสีหน้าที่เรียบเฉย

ถึงเขาจะดูสงบ แต่ไม่ว่ายังไงแววตาที่โกรธเกรี้ยวก็มิอาจปิดบังไว้ได้

“ผมรู้ครับ แต่คนร้ายตัวจริงที่สังหารลูกชายของคุณคือคนตะวันออก ไม่ใช่เหรอครับ?” โมปัสซองต์เหมือนไม่ได้สนใจในชีวิตของตัวเองเลย ระหว่างที่พูดก็ยังคงยิ้มออกมาอย่างแปลกๆ

แฟลิกส์ หันมาจ้องเขม็งใส่เขา ออนนีฮานในสภาพขวัญหนีดีฝ่อที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ รู้สึกสับสนวุ่นวายไปหมด

ไม่นานมานี้เขายังถูกยกย่องให้เป็นความหวังของเผ่าเลือดอยู่เลย แต่จู่ๆ เขากลับถูกบดบังไปซะอย่างนั้น แถมคนที่บดบังเขายังเป็นคนที่ตนเคยดูถูกด้วย แล้วเขาจะยอมรับความจริงข้อนี้ได้อย่างไร?

เย่เทียน!

ออนนีฮานกำหมัดของตัวเองแน่น แววตาแสดงความโกรธแค้นที่รุนแรงออกมา

แต่น่าเสียดายที่ความแค้นเหล่านี้มันไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไป เขารู้ว่าตัวเองจบแล้ว! ถึงแฟลิกส์ จะเป็นคนของครูเสด สันตะปาปา แต่ใครบอกว่าคนของครูเสด สันตะปาปาจะเป็นคนที่เมตตา?

ทุกคนที่อยู่ในเงามืดรู้จักความโหดเหี้ยมของแฟลิกส์ ดี ถ้าตกไปอยู่ในมือเขา ความตายยังถือว่าเป็นสิ่งที่ขอมากเกินไปเลย

แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะพูดอะไรมันก็จบแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถลบล้างความผิดพลาดที่เขาเคยทำไว้ได้! แต่เขารู้สึกไม่พอใจ!

จู่ๆ แฟลิกส์ ก็ขยับ กระโดดขึ้นจากโซฟาราวกับกระต่ายที่แข็งแรง บีบมาที่คอของโมปัสซองต์อย่างง่ายดาย และดันเขาไปยังกำแพงที่อยู่ข้างๆ

“แกไอ้เศษสวะ ออร่าที่ปล่อยออกมามันช่างน่าหมั่นไส้ซะจริง!” ความโกรธของแฟลิกส์ ราวกับจะทะลักออกมา น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย

“เรื่องของชาวตะวันตกฉันจะจัดการเอง แต่พวกสกปรกอย่างพวกแกมันไม่สมควรที่จะมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้!” แฟลิกส์ แสดงแววตาที่โหดเหี้ยมออกมา “รับการลงทัณฑ์จากแสงศักดิ์สิทธิ์ซะเถอะ! หนอนแมลงที่ไร้ค่า!”

“ฉันจะไม่ฆ่าแกก็ได้!” สายตาของ แฟลิกส์ เย็นชา และได้พูดขัดออนนีฮานไป

ออนนีฮานเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัย

“แต่จะรอดได้รึเปล่าก็ขึ้นอยู่กับชีวิตของแกเอง!” จากนั้นออนนีฮาก็ถูกคนพาเข้าไปในห้องลับห้องหนึ่ง แฟลิกส์ นั่งอยู่บนเก้าอี้ แล้วหดตัวเข้าไปในความมืด

“นี่คือสารพันธุกรรมที่ครูเสด สันตะปาปาของเราเพิ่งคิดค้นออกมา สามารถเพิ่มระดับให้พันธุกรรมของยอดมนุษย์ได้อย่างมหาศาล ประเด็นคือสารพันธุกรรมนี่สามารถหลอมรวมกับสายเลือดในความมืดได้!”

สายเลือดแห่งความมืดที่ว่าก็คือเหล่าสายเลือดพิเศษที่อยู่คนละฝั่งกับครูเสด สันตะปาปานั่นเอง ในสายตาของครูเสด สันตะปาปานั้น คนเหล่านี้ต่างก็เป็นพวกน่ารังเกียจทั้งนั้น ถ้าจะพูดถึงก็เป็นแค่การดูถูกเท่านั้น

รูม่านตาของออนีฮานหดเล็กลง และเริ่มดิ้นขึ้นมา แต่การกระทำของเขามันก็สูญเปล่า เดิมที่ขั้วหัวใจของเขาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักอยู่แล้ว พละกำลังจึงยังไม่ฟื้นฟูกลับมาแล้ว

แต่คนที่ควบคุมเขากลับเป็นยอดมนุษย์ที่กำลังเปี่ยมล้น การจะรับมือกับเขามันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่าย

ด้วยเหตุนี้ ออนนีฮานจึงถูกจับกดไว้ที่เตียง จากมุมมองที่เขาอยู่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีของเหลวสีทองเข้มถูกฉีดเข้าไปในหลอดทดลอง

สำหรับสารพันธุกรรมตัวใหม่ที่ครูเสด สันตะปาปาคิดค้นออกมานั้นเขาได้ยินมานานแล้ว เพราะข้อมูลมากมายของเผ่าเลือดต้องผ่านมือเขา สารพันธุกรรมนี้ไม่ได้ดีเหมือนที่แฟลิกส์ พูดเลย พวกสายเลือดในเงามืดเรียกสารพันธุกรรมนี้ว่านักฆ่าสีเลือด!

จากข้อมูลที่ออนนีฮานได้มา สารพันธุกรรมนี้มีอัตราการตายของพวกสายเลือดในเงามืดสูงถึงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเปอร์เซ็นต์เลย!

พูดง่ายๆ คือ ของสิ่งนี้ แม่งเป็นยาพิษชัดๆ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่