ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1111

โจอีสกำดาบยาวในมือแน่น สูดหายใจเข้าลึก ๆ มองหมีล่ำ ที่มีบาดแผลเต็มตัวที่อยู่เบื้องหน้า ภายในดวงตาลุกโหมด้วยเปลวเพลิง

เวลานี้ข้างตัวของหมีล่ำ ยังมีสมาชิกของไร้ปรานีอยู่อีกเจ็ดนาย

พวกนี้แต่ละคนแต่งตัวแปลกประหลาด ท่าทางที่แสดงออกก็ผิดปกติ แต่ต้องยอมรับว่าพวกเขาแต่ละคนดูใหญ่โตมาก ใหญ่โตขนาดมองแล้วถึงกับสิ้นหวัง

โจอีสรู้ว่าตัวเองถูกกำหนดให้ตายอยู่ที่นี่แน่นอน แต่เขาก็ไม่มีความหวั่นไหวใด ๆ บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกฮึกเหิม

ในขณะที่สองฝ่ายประจันหน้ากันอยู่นั้น เงาดำสายหนึ่งปรากฏขึ้นมาในระยะสายตาของพวกเขาทั้งสอง ตัวตลกเดินโซซัดโซเซให้เห็นอยู่ในป่าด้านขวาของหมีล่ำ

ตัวตลกในเวลานี้ไม่มีท่าทีอารมณ์ดีอย่างที่ใช้กับแฟลิกส์เสียแล้ว มือกุมที่หน้าอก หายใจยังดูจะไม่ปะติดปะต่อ

“เจ้าตัวตลก？แกไปทำอะไรมาจนเป็นแบบนี้ จุ๊ จุ๊ มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย？”

เห็นตัวตลกอยู่ในสภาพน่าสมเพชแบบนี้ ผู้ชายในชุดยาวสีแดงคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ หัวเราะแล้วพูดขึ้น

ตัวตลกมองหน้าไปอย่างเหยียด ๆ ขาทรุดลงไปข้างหลังเล็กน้อย ถึงแม้คนพวกนี้ล้วนแต่เคยอยู่ในทีมด้วยกัน แต่ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัสอยู่ เขาก็ไม่อยากไว้ใจไอ้พวกนี้ได้！

ตัวตลกเองรู้ดีว่า เพียงถ้าตัวเองแสดงให้เห็นว่ามีอะไรผิดพลาดอยู่ ก็มีหวังถูกพวกกันเองนี่แหละกำจัดทิ้งได้！

ไม่ผิด ก็พวกเดียวกันนี่แหละที่จะกำจัดเขาทิ้ง และก็นี่แหละที่เป็นเสน่ห์ที่พวกเขาหลงใหลของกลุ่มไร้ปรานี พวกคนเหล่านี้เป็นได้ทั้งทีมงาน และก็พร้อมทันทีที่จะกลายเป็นศัตรู นั่นแหละคือความตื่นเต้นเร้าใจที่พวกเขาใฝ่หาเพื่อความสะใจ

ก็ต้องพูดได้ว่า พวกคนกลุ่มไร้ปรานีนอกจากจะบ้าแล้วยังวิตถารด้วย！

“ไอ้หน้าเบี้ยว รีบจัดการไอ้หมอนี่เลย ไอ้แฟลิกส์นั่นแม้ว่าจะไม่ตามมา แต่ไอ้แก่พระสันตะปาปานั่นยิ่งวันยิ่งร้ายกาจมากเลยนะ！”

พอได้ยินคำว่าพระสันตะปาปา ใบหน้าทะเล้นของแต่ละคนเก็บลงกันทันที ระดับผู้แข็งแกร่งรุ่นเก๋า ทุก ๆ คนต่างก็รู้ดีถึงพลังฝีมือของพระสันตะปาปากัน และในเมื่อตัวตลกพูดมาแบบนี้ก็ต้องแสดงว่าที่เขาบาดเจ็บมานี้ต้องเกี่ยวข้องกับพระสันตะปาปาเป็นอย่างมากแน่

ที่พูดมาก็บิดเบือนให้กับพวกในทีมอยู่ การปิดบังเรื่องพลังฝีมือของแฟลิกส์ไว้นั้น สำหรับตัวเขาก็จะได้เป็นผลดีอยู่บ้าง

“หมีล่ำ เร่งมือหน่อย！”

หมีล่ำ ไม่พูดอะไร เพียงแค่ยักไหล่ ถึงแม้ตอนนี้เขาจะมีบาดแผลให้เห็นทั้งตัว ดูแล้วน่าสมเพชอยู่ แต่เพราะเขามีพลังพิเศษในตัวคือมีสภาพที่ยิ่งรับบาดเจ็บก็ยิ่งมีพลังแข็งแกร่งขึ้น ฉะนั้นในตอนนี้ยกเรื่องให้เขาไปจัดการก็เป็นเรื่องควรจะเป็นไปได้อยู่

โจอีสสะดุ้งขึ้นมาในใจอย่างแรง โดยเฉพาะคำพูดที่ไม่ให้ความเคารพต่อพระสันตะปาปาทำให้เขาโกรธเคืองเป็นที่สุด กลุ่มพวกนอกรีตบังอาจปฏิบัติต่อคริสตจักรแบบนี้ แสงศักดิ์สิทธิ์จะต้องจัดการพิจารณาคดีพวกมัน！

คิดมาถึงส่วนนี้ ดาบยาวในมือพลันสาดประกายแสงจ้าแทงสายตา ดูเข้มข้นยิ่งกว่าแสงศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกจากนีลลีโอ

“พวกแกกลุ่มพวกนอกรีตที่สมควรตาย จงไปตายเสีย！”

โจอีสตวาดลั่นด้วยความโกรธ พาดาบยาวในมือพุ่งเข้าใส่หมีล่ำ

วิธีต่อสู้ของหมีล่ำ ก็ยังคงรูปแบบระห่ำรุนแรงเหมือนเดิม ด้วยที่เขาใช้ในความได้เปรียบที่รูปร่างล่ำสันกำยำของเขา และยังมีที่ต่างกับกลุ่มมนุษย์หมาป่าคือแสงศักดิ์สิทธิ์จะทำให้เขาบาดเจ็บไม่ได้มาก

กลิ่นเหม็นไหม้โชยกรุ่นไปทั่วบริเวณ ทำให้ไอ้หน้าเบี้ยว ชายชุดแดงขมวดคิ้วย่นแล้วย่นอีก

“เกลียดที่สุดก็คือไอ้พวกก่อนตายยังต้องทำเป็นฮึกเหิม มันทำให้ปวดหัวเสียจริง ให้ตายสิ！”

“ข้าจะขอพบเย่เทียน！” ตัวตลกพูดอย่างเจาะจงตัว

คนที่เป็นผู้นำถึงกับขมวดคิ้วย่น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้างนอกต่อกลุ่มไร้ปรานีล้วนแต่อยู่ในเชิงลบ ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามด้วยเงื่อนไขบางอย่างดูเหมือนมีแนวโน้มที่จะร่วมมือกันได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่หมายถึงว่าจะเป็นได้ที่จะร่วมมือกัน

แต่การที่จะปฏิเสธฝ่ายตรงข้ามไปเลยทีเดียวในตอนนี้ก็ไม่เหมาะ ผู้ที่เป็นผู้นำก็รู้สึกลำบากใจ

“วางใจได้ พวกเราถ้าคิดจะจัดการพวกเจ้าทิ้งก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมีเรื่องมาก！” ตัวตลกพูดจบดีดนิ้วเสียงดัง ก็เกิดมีเงาร่างขึ้นตรงบริเวณห่างจากตัวคนที่เรียกตัวเองเป็นผู้นำประมาณสองเมตร

ภาพที่เกิดขึ้นนี้ทำเอาผู้ที่เป็นผู้นำเหงื่อซึมออกหน้าผาก เพียงพลังฝีมือฝ่ายตรงข้ามนี้ขนาดตัวเองอยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่รู้สึก ถ้าหากเขาคิดจะลงมือ ผู้ที่เป็นผู้นำก็คงไม่มีความมั่นใจพอที่จะป้องกันตัวได้

“พวกแกตกลงจะเอายังไงกัน！ถ้าไม่พูดกันให้ชัดเจนข้าก็ไม่มีทางจะถอยให้！” คนที่เป็นผู้นำสูดหายใจเข้าลึก ๆ มองหน้าถามไปที่ตัวตลก

“อ้อ！คำถามโง่ ๆ ！ความศรัทธาโง่ ๆ ！” ตัวตลกมองผู้เป็นผู้นำแล้วหัวเราะไปอย่างหยามหมิ่น “ก็ได้ เป้าหมายของเราเรียบง่าย ก็แค่จะเอาเงิน！”

“จะเอาเงิน？” ผู้เป็นผู้นำไม่คาดฝันเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะให้เหตุผลมาได้แบบนี้！

“พวกเรากลุ่มไร้ปรานีพอเริ่มทำงานก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากแล้ว แต่คุณเย่เทียนน่าจะไม่ติดใจอะไร แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่พวกคุณจะสรุปจบได้ ยังไงคงต้องให้เจอตัวเขาถึงจะตัดสินได้！” ตัวตลกแสยะปากกว้างเต็ม ใบหน้าให้เห็นกำลังหัวเราะเต็ม ๆ

มาคราวนี้ผู้เป็นผู้นำไม่ปฏิเสธ คนของไร้ปรานีถึงส่วนใหญ่จะพวกคนบ้า แต่พวกเขาเน้นสำคัญเรื่องชื่อเสียงมาก อีกอย่างถ้าเป็นแค่เรื่องที่ตัวตลกคุยกับเงาลวงนั้น หากเย่เทียนเอาเรื่องขึ้นมาก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

เพียงแต่ว่าตอนนี้พวกเขายังไม่รู้เลยว่าเย่เทียนเป็นยังไง ในภาวะแห่งภวังค์จะไม่มีทางรับรู้ได้ถึงกาลเวลาที่ผ่านไป คือสภาพที่เย่เทียนกำลังจมปลักอยู่