ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1110

“ท่านผู้พิพากษา ใช้แรงอีกหน่อยหน่า!” ตัวตลกหัวเราะลั่นอย่างไม่เกรงใจ และเสียงนั้นก็เหมือนกับมีมนต์ขลัง ทำให้เดิมแฟลิกส์ที่กำลังโกรธแค้นอยู่ยิ่งเดือดดาลหนักขึ้นไปอีก

“แกกำล้งรนหาที่ตาย!” แฟลิกส์ใช้มือทั้งสองจับแขนของตัวตลกแล้วกระชากอย่างแรง ตั้งใจจะฉีกตัวเขาให้ขาดออก

ภาพที่ทำให้คนต้องตื่นตะลึงเกิดขึ้น ตัวของตัวตลกเหมือนกับหมากฝรั่งที่ถูกลากยืดออกไปตรง ๆ แต่ไม่มีเกิดรอยฉีกขาดออกจากกันให้เห็น

ถูกลากยืดไปตามแนวขวางจนดูเป็นแผ่นบาง ปากของตัวตลกก็ไม่ยอมหยุดว่าง “ท่านผู้พิพากษามีแรงเพียงเท่านี้หรือ?ช่างทำให้ข้าผิดหวังเหลือเกิน!”

“โอว้าว?รสชาติของแสงศักดิ์สิทธิ์นี่?ไม่เสียทีที่เป็นถึงผู้พิพากษา ความบริสุทธิ์ของแสงศักดิ์สิทธิ์ช่างทำให้ข้ารู้สึกเคลิบเคลิ้มดีจัง!”

เสียงมารร้ายกรอกหู สภาพของแฟลิกส์ในขณะนี้ใช้คำพูดนี้มาอธิบายได้เห็นภาพเลย เสียงนั้นแว่วกังวานอยู่ข้างหูทำให้ประสาทจะคลั่งบ้าไปให้ได้

แค้นจนอยากฉีกเจ้าตัวตลกให้แหลก ฉีกเป็นเศษชิ้นแล้วแขวนห้อยไว้บนแท่นบูชาไม้กางเขนให้มันโอดครวญทั้งวันทั้งคืน

ความโหดเหี้ยมกระหายเลือดถูกกดดันออกมาจากกลางใจ แฟลิกส์เริ่มหายใจเข้าออกอย่างหอบแรง

“ใช่เลย อย่างนี้ ต้องอย่างนี้!” ตัวตลกพูดอย่างตื่นเต้นในทันทีที่เห็นนัยน์ตาของแฟลิกส์แดงเลือดสลับอร่ามทอง

ในขณะนั้นเอง เสียงเพลงสรรเสริญพระเจ้าดังมาจากด้านในของห้องตัดสินคดีความสำนักงานผู้พิพากษา ทำให้ตัวตลกที่เดิมยังมีสีหน้าสะใจต้องมีอาการเครียดลงไป

“พระสันตะปาปา?”

ตัวตลกอุทานออกมาเบา ๆ ในโลกตะวันตกนั้นฐานะขององค์พระสันตะปาปาไม่มีใครจะแตะต้องได้ ที่ตัวตลกบอกว่าจะขอพบพระสันตะปาปา แต่พอเมื่อได้มายืนต่อหน้าพระสันตะปาปาเข้าจริง จิตสำนึกของเขาก็มีแต่จะให้เขาต้องอยู่ห่าง ๆ ไปได้ไกลเท่าไหร่ก็รีบไปให้ไกลเท่านั้น!

ความกระสับกระส่ายของแฟลิกส์สงบนิ่งลงด้วยการล้างบาปจากเสียงเพลงสรรเสริญพระเจ้า เหตุการณ์ที่ผ่านมาก็คงเหลือแต่สายตาที่หนาวเยือกมองจ้องที่ตัวตลก

ตัวตลกรู้ตัวว่าแผนเรื่องการครอบงำแฟลิกส์ถูกเปิดเผยแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการหดหู่แต่อย่างใด กลับหันไปแบะปากหัวเราะใส่แฟลิกส์“สมแล้วที่เป็นคริสตจักร ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าคงไม่ขออยู่ดีกว่า!”

เจ้าตัวตลกพูดง่ายเหมือนอย่างกับกินข้าวดื่มน้ำ พูดได้ว่าไม่ได้เห็นคริสตจักรอยู่ในสายตา นี้ทำให้แฟลิกส์รู้สึกเป็นการสบประมาทอย่างที่สุด!

“คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป เจ้ามองที่นี่เป็นสถานที่อะไร!”

ตัวตลกที่ถูกจับอยู่ในมือเหมือนสารละลายกลายเป็นของเหลวไปต่อหน้าต่อตา และของเหลวนั้นก็พุ่งด้วยความเร็วอย่างสูงมุ่งมุดหนีออกไปทางประตู

มือขวาของแฟลิกส์ระเบิดประกายแสงสีขาวที่แสบตาออกมา ตามด้วยดาบยาวฝังอัญมณีเจ็ดสีที่เขาค่อย ๆ ชักออกมาจากประกายแสงสีขาวนั้น

“โอ๊ย!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดแว่วดังมา กองของเหลวนั้นก็เกิดเป็นเลือดแดงบาดตาลอยขึ้นมา

ตัวตลกที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักแน่นอนว่าไม่กล้าอยู่ต่อแล้ว รีบหนีออกไปทางประตูอย่างรวดเร็ว

แฟลิกส์สะบัดเสียงออกจมูกเสียงเยือก เพิ่งกำลังจะก้าวขาออกไปก็ได้ยินเสียงแหบแบบคนเฒ่าชราดังมาเข้าหู “แฟลิกส์ ไม่ต้องตามแล้ว!”

“ท่านสันตะปาปา!” แฟลิกส์รีบชะงักขาหยุด หันไปทางพระสันตะปาปาค้อมหัวลง มองเห็นไม่ชัดว่าสีหน้าเขาแสดงออกแบบไหน

“เขาหนีไปแล้ว แต่เจ้าวางใจได้เพราะข้าได้ใช้เทคนิคแสงศักดิ์สิทธิ์จัดการทำเครื่องหมายใส่ที่ตัวเขาแล้ว ต่อไปนี้ตัวเขาจะอยู่ในสายตาของเจ้ากับข้าอย่างชัดเจน!”

“เพียงรอให้ข้าเข้าใจทะลุโปร่งถึงตำราโบราณเล่มนี้แล้ว ไอ้พวกเศษเดนเหล่านั้นก็จะเป็นเพียงหินรองตีนของคริสตจักรของข้า!”

แฟลิกส์นิ่งเงียบครู่หนึ่ง “อีกนานเท่าไหร่ถึงจะจัดการฉีดสารพันธุกรรมให้กองกำลังครูเสดทั้งหมดได้?”

“อย่างช้าขอใช้เวลาอีกไม่เกินครึ่งปีขอรับ!”

“ข้ารอไม่ได้!สองสัปดาห์ เจ้ามีเวลาได้อีกแค่สองสัปดาห์!” แฟลิกส์พูดตัดบท และคำพูดของเขาทำให้ชายหนุ่มต้องตาค้าง

“ท่านผู้พิพากษา พวกเรายังไม่ได้ทำการทดลองในอีกขั้นตอน ถ้าผลีผลามใช้ไปอาจมีอันตรายในการที่จะควบคุมไม่อยู่!”

ขณะที่ชายหนุ่มพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง แฟลิกส์ก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ข้าง ๆ เขา คว้าคอเขาดึงเข้ามาหาตัว ใช้แววตาที่หนาวเยือกจ้องตาเขา “ข้าบอกแล้ว เจ้ามีเวลาแค่สองสัปดาห์ ถ้ามีอะไรผิดพลาด เจ้าก็รู้นะว่าจะมีผลยังไง!”

ชายหนุ่มออกอาการดิ้นเล็กน้อย แล้วก็รีบผงกหัวตอบรับ

แฟลิกส์คลายมือออก ชายหนุ่มตกลงไปกองที่พื้น พูดด้วยสีหน้าหวาดผวา “ผมจะพยายามทำเสร็จให้ได้ขอรับ!”

“ไม่ใช่พยายาม มันคือจะต้อง!ไปได้!” แฟลิกส์พูดจบก็หันตัวเดินออกไป ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนตะลึง แล้วก็ตาลีตาลานวิ่งออกไป

โจอีสมองสหายร่วมรบข้างตัวเขาล้มลงทีละชุดทีละชุด จิตใจของเขาเต็มอัดด้วยความเคืองแค้น จนถึงเวลานี้เขาจึงได้รู้สึกสำนึกถึงความไร้เดียงสาของเขาที่ผ่านมา

ไอ้พวกนี้มันไม่ได้มาขวางกั้นการรุกขึ้นหน้าของเขา แต่จะเอาชีวิตตัวเขานี่!

ในใจของเขาไม่เคยหวั่นไหวกับเรื่องการตายของเขาเองมากเท่าไหร่ แต่กลับเต็มไปด้วยความรันทดใจ เมื่อไหร่กองทัพครูเสดจะเป็นเป้าหมายในการฆ่ากวาดล้างของคนอื่นบ้าง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่